Review : ผลการรักษาหลุมสิวด้วย Air Dissector + Skin Stamping ครบ 14 วันที่ AIC
หลายๆคนที่ติดตามอ่านบล๊อกส้มอยู่ก็น่าจะรู้อยู่แล้วว่า
ส้มกำลังรักษาหลุมสิวกับ คุณหมอพุฒิพงศ์ ภูมิสุวรรณ ที่ AIC
ศูนย์นวัตกรรมความงาม พระราม4 อยู่
ซึ่งส้มได้ทำมาแล้ว 2 ครั้ง หลุมสิวก็ตื้นขึ้นกว่าเดิมค่ะแต่ยังไม่หายสนิท
เพราะแก้มทั้ง 2 ข้าง ส้มจะมีหลุมสิวไม่เท่ากันด้านซ้ายจะหลุมเยอะกว่า
เพราะย้อนไปเมื่อ3 ปีก่อน ส้มเป็นสิวเยอะมากๆค่ะหลุมสิวก็เลยเยอะตามไปด้วย
ล่าสุดเมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้ว ส้มก็ได้ไปทำอีกครั้ง
ตอนแรกคุณหมอบอกว่าจะเปลี่ยนเข็มที่ใช้ในการทำ Skin Stampingให้ยาวขึ้น
แต่หมอดูลักษณะหลุมสิวแล้วบางจุดมันเป็นหลุมลึก
คุณหมอก็คงอยากจะให้หายเร็วขึ้น เลยจัดชุดใหญ่ให้เลยด้วยการทำ
Intradermal Air Dissector
หรือแปลเป็นไทยง่ายๆคือ
เครื่องเลาะแยกชั้นผิวด้วยอากาศแต่ความเป็นจริงมันก็คืออุปกรณ์ช่วยเลาะ
พังผืดใต้ผิวด้วยอากาศแรงดันสูงนั่นเอง
งั้นเดี๋ยวเราลองมาดูรายละเอียดกันก่อนนะคะ
ว่ากลไกการออกฤทธิ์อุปกรณ์ที่ว่านี้เป็นยังไง
หลักของการรักษาหลุมสิวด้วย Intradermal Air Dissector
หลักการก็คือเลาะพังผืดที่ยึดเกาะผิวออกจากเนื้อเยื่อด้านล่าง ผิวหนัง
ส่วนนั้นก็จะยกตัวลอยขึ้นมาซึ่งใช้ความเร็วและความแรงของอากาศเป็นตัวเลาะพังผืด
ผ่านเข็มขนาดที่เล็กมากคือเบอร์ 31G
ทำให้มั่นใจได้ว่าไม่มีการทำลายผิวจนเกิดพังผืดเพิ่มขึ้น อีกทั้งชั้น
ผิวที่แยกออกก็เสมือนการบาดเจ็บและเกิดการกระตุ้นให้ซ่อมแซมตัว
เองและยิ่งหากมีการใช้น้ำเลี้ยงเซลต้นกำเนิดร่วมด้วย ก็ยิ่งทำให้การแบ่ง
ตัวสร้างเซลผิวใหม่ดียิ่งขึ้น
ผลลัพธ์ที่ได้ก็คือทั้งแผลเป็น หลุมสิว ร่องติด
ลึกรอยแตกลายของผิว ค่อยๆหายไป และยังทำให้รูขุมขนเล็กลง ได้ผิว
ใหม่พร้อมหน้าใสอีกด้วย
คือวิธีการทำ Air Dissector เนี่ยส้มได้เห็นครั้งแรก
พร้อมกับการทำ Stamping ของส้มครั้งแรก
ตอนนั้นพี่น้ำตาลเจ้าของบล๊อค Bemynails ได้ลองทำคนแรก
เห็นแล้วก็กลัวค่ะบอกตามตรงเลยว่าไม่กล้าทำ เพราะมันเห็นผิวมันปุๆ ขึ้นมา
แต่พอได้อ่านรีวิวพีน้ำตาลแล้วเห็นผลว่าหลุมมันตื้นขึ้นหน้าเนียนเรียบขึ้น
ความกลัวมันก็เริ่มหายไปเพราะความอยากสวยมันเยอะกว่า 555
สาวๆหนุ่มๆที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว
ขอให้ทำใจก่อนดูคลิปวีดีโอนี้นะคะ(ล้อเล่นจ้า ไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้น)
งั้นเรามาดู วิธีการรักษาหลุมสิวด้วยวิธี Air Dissector
ตามด้วย Skin Stamping
จากวีดีโอด้านล่างนี้ได้เลยค่ะ
เป็นไงกันบ้างคะน่ากลัวรึป่าวเอ่ย แต่จะบอกว่ามันไม่ได้เจ็บมากค่ะ
เพราะมีการทายาชาก่อนที่จะทำอยู่แล้วและยาชาที่นี่ ดีที่สุดเท่าที่เคยทำมาเลยค่ะ
ยาชาชาเร็วมาก ไม่ถึง 10 นาทีก็ชาทั้งหน้าแล้วค่ะไม่ได้ wrap หน้าด้วยนะคะ
แต่ตอนที่ทำAir Dissector เสร็จทั้ง 2 ข้างตอนนั้นยาชาจะเริ่มหมดฤทธิ
ทำให้เวลาทำSkin Stamping ต่อเลยทำให้ผิวสัมผัสได้ถึงเข็มที่กำลังกดลงบนผิวอยู่
ตอนนั้นก็รู้สึกเจ็บแล้วค่ะแต่ก็แบบว่า ทนได้ เพื่อความสวย ยอมๆๆๆๆ
และพอทำเสร็จหน้าก็จะบวมอย่างนี้ล่ะค่ะ
บวมมากบวมน้อยขึ้นอยู่กับสภาพผิวแต่ละคนด้วยนะคะ
แต่ผิวส้ม บวมและแดงง่ายอยู่แล้ว
ทำเสร็จเลยเป็นหน้าตาแบบนี้ล่ะค่ะ
วิธีการดูแลผิวหน้าหลังจากทำ Air Dissector + Skin Stamping
แนะนำให้งดล้างหน้าด้วยโฟมล้างหน้าเป็นเวลา1 วันนะคะ
ให้ล้างน้ำเปล่าธรรมดาและ งดแต่งหน้า 1 วันด้วยค่ะ
เพื่อให้ผิวได้พักฟื้น
หลังจากนั้น 1 วันส้มก็ได้ถ่ายรูปเก็บเอาไว้เพื่อดูความเปลี่ยนแปลง
รูปที่ถ่าย และเอามารีวิวนี้ ส้ม Zoom ใกล้ๆให้ได้เห็นเลยค่ะ
วันแรกหลังการรักษาสังเกตว่าผิวตรงบริเวณแก้มทั้ง 2 ข้าง
จะยังบวมๆและมีรอยแดงๆหลังจากโดนเข็มจิ้มหน้า
ด้วย Skin Stamping ค่ะ แต่ไม่รู้สึกเจ็บค่ะ
ในวันที่ 3 หลังการรักษา สังเกตว่าผิวได้ยุบตัวลง ไม่บวมเป่งเท่าวันแรกนะคะ
แต่ก็ยังบวมอยู่เล็กน้อยเกือบจะกลับเข้าสู่สภาพหน้าเดิมแล้วค่ะ
ส่วนรอยแดงๆที่เกิดจากการ Stamping ก็เริ่มจางลงแล้วค่ะ
วันที่ 5 หน้าไม่บวมแล้วค่ะ รอยแดงก็มีนิดหน่อยค่ะ
หลุมสิวก็แลดูตื้นขึ้นค่ะ
วันที่ 10 ผิวดูละเอียดขึ้นนะคะ หลุมสิวก็ตื้นขึ้นด้วย
แต่ก็ยังไม่ได้ตื้นขึ้นแบบเนียนเรียบอะไรขนาดนั้น
เพราะต้องใช้ระยะเวลาในการรักษานะคะ
ครบ 2 สัปดาห์หลังการรักษา ในวันที่ 14 ผิวค่อยๆดีขึ้นค่ะ
หลุมก็ดูตื้นขึ้นจากวันแรกอย่างเห็นได้ชัด
ผิวเริ่มเข้าสู่สภาพผิวจริงๆ แต่ยังไม่ 100% ค่ะ
ในตอนนี้ ผิวยังคงซ่อมแซมตัวเองอยู่ ใต้ชั้นผิวก็อาจจะยังบวมอยู่
ซึ่งอาจจะไมใช่ผิวที่แท้จริง ต้องให้ผิวซ่อมแซมตัวเอง จนกว่าจะเผยผิวที่แท้จริง
ซึ่งประมาณ 1-2 เดือนส้มจะมารีวิวอีกครั้งนะคะว่าเป็นอย่างไรบ้าง
ราคาค่าใช้จ่าย
Air Dissector 3,000-15,000 ต่อครั้ง ถ้าเป็นไม่มาก
ทำเฉพาะจุด 3,000 ถ้าทำทั้งหน้า อยู่ที่ 15,000 บาท
คำแนะนำจากคุณหมอ
แนะนำให้ทำเป็น package เพื่อผลที่ไวขึ้นค่ะ
Package: Air Dissector+Skin Stamping + Cryo Stem Cell
จะดีกว่าตรงที่มีการฉีดไวตามินร่วมด้วย ราคา 35,000 บาทค่ะ
ถ้าหลุมสิวแผลเป็นไม่มาก ก็ทำแค่ skin Stamp +Cryo Stem Cell
ราคา10,000 ต่อครั้ง
หรืออาจจะทำ Air dissector เฉพาะจุด ในบริเวณที่หลุมสิวลึก
อีก 3,000-5,000 ต่อครั้ง
สุดท้าย ก็ต้องขอขอบคุณ นพ.พุฒิพงศ์ ภูมิสุวรรณ
จาก AIC ศูนย์นวัตกรรมความงาม ที่เชิญให้ส้มได้ทดลองทำการรักษาด้วยค่ะ
ขอพูดถึงคุณหมอนิดนึงนะคะ เพราะพึ่งทราบข่าวล่าสุดมาว่า
เมื่อต้นเดือนพย.ที่ผ่านมา คุณหมอได้บินไปเกาหลี เพื่อไป
รับตำแหน่ง ผู้อำนวยการแพทย์
เป็นคนไทยคนแรกที่ได้รับตำแหน่งนี้ค่ะ สุดยอดจริงๆ
ดีใจที่ได้มีโอกาสรักษาผิวหน้ากับคุณหมอจริงๆค่ะ
(ดูไปดูมา คุณหมอเริ่มจะดูเกาหลีกับเค้าบ้างแล้วนะคะเนี่ย )
สำหรับสาวๆหนุ่มๆคนไหน
ที่สนใจข้อมูลเพิ่มเติม ให้ติดต่อ AIC ได้ที่เบอร์ 02-287-1200 ค่ะ
Sponsored by : AIC