Review : ผลการรักษาหลุมสิวด้วย Air Dissector + Skin Stamping ครบ 14 วันที่ AIC

January 30, 2014

 

หลายๆคนที่ติดตามอ่านบล๊อกส้มอยู่ก็น่าจะรู้อยู่แล้วว่า

ส้มกำลังรักษาหลุมสิวกับ คุณหมอพุฒิพงศ์ ภูมิสุวรรณ ที่ AIC 

ศูนย์นวัตกรรมความงาม พระราม4 อยู่

ซึ่งส้มได้ทำมาแล้ว 2 ครั้ง หลุมสิวก็ตื้นขึ้นกว่าเดิมค่ะแต่ยังไม่หายสนิท

เพราะแก้มทั้ง 2 ข้าง ส้มจะมีหลุมสิวไม่เท่ากันด้านซ้ายจะหลุมเยอะกว่า

เพราะย้อนไปเมื่อ3 ปีก่อน ส้มเป็นสิวเยอะมากๆค่ะหลุมสิวก็เลยเยอะตามไปด้วย

ล่าสุดเมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้ว ส้มก็ได้ไปทำอีกครั้ง

ตอนแรกคุณหมอบอกว่าจะเปลี่ยนเข็มที่ใช้ในการทำ Skin Stampingให้ยาวขึ้น

แต่หมอดูลักษณะหลุมสิวแล้วบางจุดมันเป็นหลุมลึก 

คุณหมอก็คงอยากจะให้หายเร็วขึ้น เลยจัดชุดใหญ่ให้เลยด้วยการทำ 

Intradermal Air Dissector

หรือแปลเป็นไทยง่ายๆคือ

เครื่องเลาะแยกชั้นผิวด้วยอากาศแต่ความเป็นจริงมันก็คืออุปกรณ์ช่วยเลาะ

พังผืดใต้ผิวด้วยอากาศแรงดันสูงนั่นเอง 

งั้นเดี๋ยวเราลองมาดูรายละเอียดกันก่อนนะคะ

ว่ากลไกการออกฤทธิ์อุปกรณ์ที่ว่านี้เป็นยังไง

หลักของการรักษาหลุมสิวด้วย Intradermal Air Dissector 


หลักการก็คือเลาะพังผืดที่ยึดเกาะผิวออกจากเนื้อเยื่อด้านล่าง ผิวหนัง

ส่วนนั้นก็จะยกตัวลอยขึ้นมาซึ่งใช้ความเร็วและความแรงของอากาศเป็นตัวเลาะพังผืด

ผ่านเข็มขนาดที่เล็กมากคือเบอร์ 31G

ทำให้มั่นใจได้ว่าไม่มีการทำลายผิวจนเกิดพังผืดเพิ่มขึ้น อีกทั้งชั้น

ผิวที่แยกออกก็เสมือนการบาดเจ็บและเกิดการกระตุ้นให้ซ่อมแซมตัว

เองและยิ่งหากมีการใช้น้ำเลี้ยงเซลต้นกำเนิดร่วมด้วย ก็ยิ่งทำให้การแบ่ง

ตัวสร้างเซลผิวใหม่ดียิ่งขึ้น

ผลลัพธ์ที่ได้ก็คือทั้งแผลเป็น หลุมสิว ร่องติด

ลึกรอยแตกลายของผิว ค่อยๆหายไป และยังทำให้รูขุมขนเล็กลง ได้ผิว

ใหม่พร้อมหน้าใสอีกด้วย

 

คือวิธีการทำ Air Dissector เนี่ยส้มได้เห็นครั้งแรก

พร้อมกับการทำ Stamping ของส้มครั้งแรก

ตอนนั้นพี่น้ำตาลเจ้าของบล๊อค Bemynails ได้ลองทำคนแรก

เห็นแล้วก็กลัวค่ะบอกตามตรงเลยว่าไม่กล้าทำ เพราะมันเห็นผิวมันปุๆ ขึ้นมา

แต่พอได้อ่านรีวิวพีน้ำตาลแล้วเห็นผลว่าหลุมมันตื้นขึ้นหน้าเนียนเรียบขึ้น

ความกลัวมันก็เริ่มหายไปเพราะความอยากสวยมันเยอะกว่า 555

สาวๆหนุ่มๆที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว

ขอให้ทำใจก่อนดูคลิปวีดีโอนี้นะคะ(ล้อเล่นจ้า ไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้น)

 

งั้นเรามาดู วิธีการรักษาหลุมสิวด้วยวิธี Air Dissector 

ตามด้วย Skin Stamping

จากวีดีโอด้านล่างนี้ได้เลยค่ะ



 

เป็นไงกันบ้างคะน่ากลัวรึป่าวเอ่ย แต่จะบอกว่ามันไม่ได้เจ็บมากค่ะ

เพราะมีการทายาชาก่อนที่จะทำอยู่แล้วและยาชาที่นี่ ดีที่สุดเท่าที่เคยทำมาเลยค่ะ

ยาชาชาเร็วมาก ไม่ถึง 10 นาทีก็ชาทั้งหน้าแล้วค่ะไม่ได้ wrap หน้าด้วยนะคะ

แต่ตอนที่ทำAir Dissector เสร็จทั้ง 2 ข้างตอนนั้นยาชาจะเริ่มหมดฤทธิ

ทำให้เวลาทำSkin Stamping ต่อเลยทำให้ผิวสัมผัสได้ถึงเข็มที่กำลังกดลงบนผิวอยู่

ตอนนั้นก็รู้สึกเจ็บแล้วค่ะแต่ก็แบบว่า ทนได้ เพื่อความสวย ยอมๆๆๆๆ

และพอทำเสร็จหน้าก็จะบวมอย่างนี้ล่ะค่ะ

บวมมากบวมน้อยขึ้นอยู่กับสภาพผิวแต่ละคนด้วยนะคะ

 แต่ผิวส้ม บวมและแดงง่ายอยู่แล้ว

ทำเสร็จเลยเป็นหน้าตาแบบนี้ล่ะค่ะ 


วิธีการดูแลผิวหน้าหลังจากทำ Air Dissector + Skin Stamping

แนะนำให้งดล้างหน้าด้วยโฟมล้างหน้าเป็นเวลา1 วันนะคะ

ให้ล้างน้ำเปล่าธรรมดาและ งดแต่งหน้า 1 วันด้วยค่ะ

เพื่อให้ผิวได้พักฟื้น

 

หลังจากนั้น 1 วันส้มก็ได้ถ่ายรูปเก็บเอาไว้เพื่อดูความเปลี่ยนแปลง

รูปที่ถ่าย และเอามารีวิวนี้ ส้ม Zoom ใกล้ๆให้ได้เห็นเลยค่ะ

 

วันแรกหลังการรักษาสังเกตว่าผิวตรงบริเวณแก้มทั้ง 2 ข้าง

จะยังบวมๆและมีรอยแดงๆหลังจากโดนเข็มจิ้มหน้า

ด้วย Skin Stamping ค่ะ แต่ไม่รู้สึกเจ็บค่ะ

 


ในวันที่ 3 หลังการรักษา สังเกตว่าผิวได้ยุบตัวลง ไม่บวมเป่งเท่าวันแรกนะคะ

แต่ก็ยังบวมอยู่เล็กน้อยเกือบจะกลับเข้าสู่สภาพหน้าเดิมแล้วค่ะ

ส่วนรอยแดงๆที่เกิดจากการ Stamping ก็เริ่มจางลงแล้วค่ะ


 

วันที่ 5  หน้าไม่บวมแล้วค่ะ รอยแดงก็มีนิดหน่อยค่ะ

หลุมสิวก็แลดูตื้นขึ้นค่ะ


วันที่ 10 ผิวดูละเอียดขึ้นนะคะ หลุมสิวก็ตื้นขึ้นด้วย

แต่ก็ยังไม่ได้ตื้นขึ้นแบบเนียนเรียบอะไรขนาดนั้น

เพราะต้องใช้ระยะเวลาในการรักษานะคะ


ครบ 2 สัปดาห์หลังการรักษา ในวันที่ 14 ผิวค่อยๆดีขึ้นค่ะ 

หลุมก็ดูตื้นขึ้นจากวันแรกอย่างเห็นได้ชัด

 ผิวเริ่มเข้าสู่สภาพผิวจริงๆ แต่ยังไม่ 100% ค่ะ


ในตอนนี้ ผิวยังคงซ่อมแซมตัวเองอยู่ ใต้ชั้นผิวก็อาจจะยังบวมอยู่

ซึ่งอาจจะไมใช่ผิวที่แท้จริง ต้องให้ผิวซ่อมแซมตัวเอง จนกว่าจะเผยผิวที่แท้จริง

ซึ่งประมาณ 1-2 เดือนส้มจะมารีวิวอีกครั้งนะคะว่าเป็นอย่างไรบ้าง

ราคาค่าใช้จ่าย 

Air Dissector 3,000-15,000 ต่อครั้ง ถ้าเป็นไม่มาก

 ทำเฉพาะจุด 3,000 ถ้าทำทั้งหน้า อยู่ที่ 15,000 บาท

 

คำแนะนำจากคุณหมอ 

 

แนะนำให้ทำเป็น package เพื่อผลที่ไวขึ้นค่ะ

 

Package: Air Dissector+Skin Stamping + Cryo Stem Cell

 

 จะดีกว่าตรงที่มีการฉีดไวตามินร่วมด้วย ราคา 35,000 บาทค่ะ

ถ้าหลุมสิวแผลเป็นไม่มาก ก็ทำแค่ skin Stamp +Cryo Stem Cell 

 

ราคา10,000 ต่อครั้ง

 

หรืออาจจะทำ Air dissector  เฉพาะจุด ในบริเวณที่หลุมสิวลึก

อีก 3,000-5,000 ต่อครั้ง

 

 

สุดท้าย ก็ต้องขอขอบคุณ นพ.พุฒิพงศ์ ภูมิสุวรรณ

จาก AIC ศูนย์นวัตกรรมความงาม ที่เชิญให้ส้มได้ทดลองทำการรักษาด้วยค่ะ

ขอพูดถึงคุณหมอนิดนึงนะคะ เพราะพึ่งทราบข่าวล่าสุดมาว่า

เมื่อต้นเดือนพย.ที่ผ่านมา คุณหมอได้บินไปเกาหลี เพื่อไป

รับตำแหน่ง ผู้อำนวยการแพทย์เกาหลีเพื่อความงาม เอเชียแปซิฟิก


เป็นคนไทยคนแรกที่ได้รับตำแหน่งนี้ค่ะ สุดยอดจริงๆ

ดีใจที่ได้มีโอกาสรักษาผิวหน้ากับคุณหมอจริงๆค่ะ

(ดูไปดูมา คุณหมอเริ่มจะดูเกาหลีกับเค้าบ้างแล้วนะคะเนี่ย Smiley)

สำหรับสาวๆหนุ่มๆคนไหน

ที่สนใจข้อมูลเพิ่มเติม ให้ติดต่อ AIC ได้ที่เบอร์ 02-287-1200 ค่ะ

 

Sponsored by : AIC

Leave a comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Prev Post Next Post