Review: ทรีทเม้นท์บำรุงผมเรียบลื่นมีน้ำหนักพร้อมบำรุงแกนผมด้วย Brazilian Blowout สูตรใหม่
เป็นประจำทุก ๆ 3 เดือน ส้มจะต้องไปทำทรีทเม้นท์บำรุงผม
เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่จับผมแล้วรู้สึกผมแห้ง หรือ ไม่ค่อยทิ้งตัว จะไม่มั่นใจเลยค่ะ
ส่วนใหญ่ ส้มก็จะทำ Brazilian Blowout หรือไม่ก็ Keratin Complex
ก็จะทำสลับกันไปแล้วแต่อารมณ์ ฮ่าๆๆๆๆ
พอดีว่าล่าสุด ทางพี่โจ้ บอกว่า
“Brazilian Blowout ออกสูตรใหม่ ที่มีส่วนผสมของ Bond เข้ามาด้วย”
ส้มก็ไม่รอช้า รีบมาลองเลยทันที แล้วก็ประทับใจผลลัพธ์ เลยต้องจัดรีวิวให้ทุกคนได้อ่านกัน
.
สิ่งที่เปลี่ยนไปจากเดิมคือ
“แชมพูเปิดเกล็ดผม สเปรย์บำรุงข้อต่อผมด้านใน และ ขั้นตอนการทำที่ใช้เวลาน้อยลงกว่าเดิม”
เอาล่ะ….เดี๋ยวมาดูกันเลยว่า มีขั้นตอนอย่างไรบ้าง
แล้วส้มจะอธิบายเปรียบเทียบความแตกต่างจากสูตรเดิมในระหว่างขั้นตอนการทำไปด้วยเลย
.
Step 1 : เปิดเกล็ดผมด้วย Açai Anti-Frizz Shampoo
ถ้าเป็นสูตรเดิม แชมพูจะเป็นเหมือนแชมพูทั่วไป ซึ่งต้องสระ 2-3 ครั้งเพื่อเปิดเกล็ดผม ให้ผมมีความฝืด
เพื่อที่จะได้เติมสารอาหารเข้าไปได้
แต่สูตรใหม่นี้ จะเป็นรูปแบบ Ionic Bonding Spray เป็นแชมพูแบบสเปรย์
เปิดเกล็ดผมได้ภายใน 1 ครั้งที่สระ ปลอดภัยต่อคนทำสีผม ไม่ทำให้สีผมเปลี่ยน
(แต่ว่าถ้าผมสกปรกมากๆ เช่นใส่สเปรย์ ใส่เจล แวกซ์ อะไรมาก่อน จะต้องสระ 2 ครั้งค่ะ
ซึ่งช่างจะเป็นคนพิจารณาเส้นผมก่อนที่จะทำการสระผม)
สำหรับผมส้ม คือก่อนทำเนี่ย สระผมมาก่อนหน้าหนึ่งคืนแล้ว สระครั้งเดียวก็พอค่ะ
จากนั้นก็ล้างผมให้สะอาด เตรียมทำขั้นตอนต่อไป
.
.
Step 2 : เติมทรีทเม้นท์ให้ผมนุ่มมีน้ำหนักด้วย Original Smoothing Solution
ตัวนี้จะเป็นนางเอกเลย เป็นตัวบำรุงที่จะเติมให้เส้นผมหลังจากเปิดเกล็ดผมหลังสระ
ทำให้สารบำรุงเข้าสู่เส้นผมได้เต็มที่ เป็นตัวที่จะทำให้เส้นผมของเรา มีน้ำหนัก ทิ้งตัว ลดชี้ฟู เป็นเงางามมากยิ่งขึ้น
ทรีทเม้นท์จะเกาะอยู่รอบเส้นผม สร้างตัวเป็นชั้นโปรตีนป้องกันเส้นผมของคุณทำให้ผมนุ่มลื่น
และทำให้เส้นผมชั้นนอกเรียบมากยิ่งขึ้น
.
ขั้นตอนก็คือ ใช้แปรงจุ่มทรีทเม้นท์แล้ว ป้ายลงบนช่อผมที่แบ่งเอาไว้ แล้วหวีให้ทรีทเม้นท์ซึมเข้าเส้นผมทุกเส้น
ขั้นตอนนี้สำคัญมากๆ ค่ะ ถ้าช่างแบ่งผมไม่ดีพอ หนาเกินไป ใส่น้ำยาน้อยเกินไป
มันก็จะทำให้เส้นผมดูดซับเอาทรีทเม้นท์ได้ไม่ทั่วถึง ซึ่งมันจะส่งผลถึงผลลัพธ์หลังทำ
.
.
.
พอทาและหวีครบทั้งหัวแล้ว ช่างก็จะทำการไดร์ผมทันที (คือยังไม่ได้ล้างผมออกนะคะ)
ไดร์จนผมทุกเส้น แห้งสนิทเลยค่ะ
.
.
หลังจากที่ไดร์จนผมแห้งเส้นหมดแล้ว จากนั้นก็จะเป็นขั้นตอนการรีดผม
มันอาจจะดูคล้ายๆ ยืดผมค่ะ แต่ไม่ใช่การยืดผมนะคะ ย้ำอีกครั้ง เดี๋ยวเข้าใจผิด
(การทำ Brazilian Blowout ไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างเส้นผมที่หยิกให้ตรงเหมือนการยืดผม)
.
ในขั้นตอนนี้ ช่างก็จะใช้เครื่องหนีบผม รีดผมอีกครั้ง เพื่อที่จะให้น้ำยาซึมเข้าเส้นผมลึกเข้าไปอีก
ขั้นตอนนี้จะทำให้ เส้นผมเรียบลื่นมีน้ำหนักมากขึ้นค่ะ
เป็นอีกขั้นตอนที่สำคัญมากๆ เพราะถ้าช่างไม่ชำนาญ ปริมาณผมที่หนีบผม น้ำหนักมือ และ ความร้อนของเครื่อง
ถ้าไม่พอดี มากเกินไป หรือน้อยเกินไป มันก็จะส่งผลต่อเส้นผมเราได้ค่ะ
บางคนทำแล้วผมช๊อตเสียก็มีเหมือนกัน หรือทำออกมาแล้ว ผมไม่นุ่มไม่ทิ้งตัวก็มีค่ะ
.
.
หลังจากหนีบผมเสร็จเรียบร้อย ก็ล้างผมอีกครั้งค่ะ
.
.
Step 3 : ฉีด Ionic Bonding Spray
ถ้าเป็นสูตรเดิม จะเป็นขั้นตอนของการมาส์กผมเพื่อให้ทรีทเม้นท์ผมอยู่นานขึ้น
แต่สูตรใหม่ จะใช้ Ionic Bonding Spray ทีจะช่วยปิด cuticle เส้นผมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เป็นตัวที่ทำให้ทรีทเม้นท์ที่เราทำในขั้นตอนที่ 2 ไปนั้น อยู่ได้นานขึ้น ซึ่งปกติก็จะอยู่ได้นานสุด 3 เดือนค่ะ
ตัวสเปรย์นี้ มันจะคล้ายๆ กับ OLAPLEX ค่ะ คือมันจะช่วยบำรุงข้อต่อที่อยู่ภายในแกนผม ให้มีความแข็งแรงมากยิ่งขึ้น
เค้าใช้เทคโนโลยีที่จะช่วยสมานไฟเบอร์ผมที่อ่อนแอด้วยกรดอะมิโน
ให้เส้นผมไม่แห้ง ไม่ทำให้เส้นผมชี้ฟู และ ช่วยปกป้องเส้นผมจากความร้อนจากสภาวะแวดล้อมภายนอกได้
.
โดยจะฉีดสเปรย์ตัวนี้ทั่วเส้นผม แล้วหวีให้ทั่วเส้นผม ให้สารบำรุงเข้าสู่เส้นผมให้ทั่วค่ะ
.
.
Step 4: ใส่เซรั่ม Açai Daily Smoothing Serum
สูตรเก่าจะไม่ได้ใส่ตัวนี้ค่ะ
สำหรับสูตรใหม่นี้ เค้าจะใส่เซรั่มนี้ก่อนไดร์ผมเป็นขั้นตอนสุดท้าย
เซรั่มนี้จะเป็นแบบ Leave- In ก็คือไม่ต้องล้างออก
เป็นเซรั่มที่จะช่วยทำให้เส้นผมเรียบลื่น บำรุงเส้นผม และปกป้องเส้นผมจากความร้อนจากอุปกรณ์ทำผม และ แสงแดดค่ะ
ตัวนี้เค้าจะมี Brazilian Super-Nutrient Complex ที่อุดมไปด้วย อะมิโนแอซิด
ที่จะช่วยทำให้เส้นผมแข็งแรงและปรับโครงสร้างเส้นผมให้มีความชุ่มชื้นและไม่ทำให้ผมชี้ฟูเมื่อเจออากาศชื้นภายนอก
ผลลัพธ์หลังจากใช้ คือ เส้นผมเรียบลื่น มีน้ำหนัก และเป็นเงา ช่วยปกป้องเส้นผมจากรังสี UVA/UVBได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
.
พอใส่เซรั่มเรียบร้อย ก็เป่าผมให้แห้ง
ถ้าสังเกตคือ ช่างแทบจะไม่ได้ใช้หวีเลยค่ะ ใช้แค่ลมจากไดร์เป่าผม
เพื่อเป่าให้ผมแห้งสนิทเท่านั้นเอง แต่สังเกตได้ชัดเลยว่า
“เส้นผมหลังทำทรีทเม้นท์ มีน้ำหนัก เรียบ เป็นเงาขึ้นกว่าตอนแรกที่ทำ”
เพราะงี้แหละค่ะ….ส้มถึงได้ชอบบำรุงผมด้วย Brazilian Blowout เป็นประจำ
มันดีมากจริงๆๆๆๆๆ
หลังจากใช้เวลาไม่ถึง 2 ชม. ก็เสร็จเรียบร้อย
ผมนุ่มสลวย มีน้ำหนัก ทิ้งตัวสวยแล้ว มีความสุข ^_^
.
.
เปรียบเทียบผม ก่อน และ หลังทำ Brazilian Blowout สูตรใหม่
ก่อนมาทำผม คืนก่อนหน้าส้มสระผม แล้วมัดผมแล้วก็นอน ผมก็จะเป็นรอยมัดผม ฮ่าๆๆๆ
แล้วก็มีความชี้ฟูบ้าง ไม่เรียบเท่าไหร่ เพราะช่วงเดือนที่ผ่านมา พาผมไปเจอแดด ไปเจอมลภาวะเยอะเลย
(อากาศกรุงเทพช่วงที่ผ่านมา ส่งผลกับผมมากจริงๆ ค่ะ)
ผมเริ่มแห้งโดยเฉพาะปลายผม และ ขาดความเงางาม
พอทำ Brazilian Blowout ตัวใหม่นี้ คือ ใช้เวลาน้อยลงกว่าเดิม (ปกติ 3 ชม.)
แล้วก็ให้ผลลัพธ์ที่ดีเหมือนกัน เพียงแต่ ตัวนี้มันจะมีตัว Ionic Bonding Spray เข้ามา
เพื่อที่จะช่วยบำรุงถึงแกนข้อต่อเส้นผมภายในเลย นับว่าเป็นจุดเด่นมากๆ ของสูตรใหม่
เพราะไม่ได้แค่บำรุงเส้นผมภายนอก แต่เข้าไปถึงแกนผมข้างใน
และผมเราก็จะมีความเงา มีน้ำหนักแบบนี้ อยู่ได้นานถึง 3 เดือนสูงสุดค่ะ
ช่วงนี้ ต้องงดใช้แชมพูที่มีสารซัลเฟตนะคะ เพราะมันจะไปล้างเอาทรีทเม้นท์ที่เกาะผมอยู่ให้หลุดออก
ถ้าเป็นไปได้ ก็แนะนำให้ใช้แชมพูครีมนวดของ Brazilian Blowout ค่ะ
เพื่อบำรุงเส้นผมอย่างต่อเนื่อง
.
.
ราคาและซาลอนที่ให้บริการ
ราคาขึ้นอยู่กับความยาวผม เริ่มตั้งแต่ 4,000- 10,000 บาท
update blog 10/10/2021
ร้านทำผมที่ส้มรีวิวทำ Brazilian Blowout
ในบล๊อกนี้ ตอนนี้ปิดแล้วนะคะ
เลยมาอัพเดทให้ทุกคนใหม่ค่ะ ว่าพี่โจ้ ช่างผมประจำส้ม
ไม่ได้ทำที่ร้าน Montana Rich แล้ว ตอนนี้พี่เค้าเปิดร้านที่บ้าน
ใช้ชื่อร้านว่า The Glory Of Montana แทนนะคะ
ถ้าจะไปทำต้องจองคิวล่วงหน้าเท่านั้นค่ะ
จองคิวสอบถามได้ที่ The Glory Of Montana
Line : @991sokgw ( มี@นำหน้า )
Facebook : The Glory Of Montana
📱 : 0842653896
.
ยังไงวันนี้ ต้องขอขอบคุณทุกคนที่ติดตามอ่านรีวิวนี้นะคะ
แล้วพบกันใหม่ในรีวิวครั้งหน้าค่ะ