Blog post

Review: เปรียบเทียบรองพื้น ETUDE HOUSE Double Lasting 2 สูตร ตัวไหนดีกว่ากัน

October 30, 2020

ตั้งแต่ครั้งที่แล้ว ที่ส้มซื้อคุชชั่นรุ่น ETUDE HOUSE Double Lasting Cushion มาใช้และรีวิวไปแล้ว

บอกเลยว่า ติดใจ เพราะมันดีเกินคาดมากจริงๆ (ดูคลิปรีวิวได้ที่ลิงค์ด้านล่างนี้เลยค่ะ)

และล่าสุดค่ะ เมื่อสัปดาห์ก่อน ทางเวปไซต์บิวตี้ชื่อดังอย่าง ALLURE Korea

ก็ได้ประกาศผลรางวัล Best Of Beauty 2020 ออกมาเป็นที่เรียบร้อย

 

ETUDE HOUSE ก็ได้รางวัล BEST MATTE LIQUID FOUNDATION 2020 มาเป็นที่เรียบร้อย

allure korea 2020

 

วันนี้ส้มก็เลยจะเอามาเทียบกับ ETUDE HOUSE Double Lasting Serum Foundation ให้ได้ดูกันค่ะ

 

รองพื้นอีทูดี้

 

ก่อนอื่น มาทำความรู้จักกับรองพื้นรุ่นที่ได้รางวัลก่อนเลย

 

:: ETUDE NEW Double Lasting Foundation SPF35/PA++ :: 

(ราคา 790 บาท ขนาด 30g)

 

คำเคลม: Double Lasting Foundation เมคอัพติดทนนานตลอด 24 ชั่วโมง!

พลังการปกปิดขั้นสูงสุดราวกับทารองพื้น 2 ชั้น

เนื้อรองพื้นติดแน่นทนนานราวกับแม่เหล็ก เฉดสีเฉพาะตัว

ที่วิจัยโดยผู้เชี่ยวชาญด้านสีโดยเฉพาะ ผ่านการทดสอบบนผิวหนังแล้ว

มีสารกันแดด SPF35 PA++

 

เฉดสีรองพื้น อีทูดี้

 

สำหรับรุ่นนี้ก็มีหลายเฉดสีนะคะ แต่ส่วนตัวส้มใช้สีเบอร์ 23N1 หรือสี SAND ค่ะ

เทียบเท่าเบอร์ 23 ของรองพื้นเกาหลีค่ะ

 

ลักษณะ: เป็นรองพื้นสูตรลิควิด เนื้อค่อนเหลวประมาณนึงค่ะ

 

Double Lasting Foundation

ส่วนอีกรุ่นที่จะเอามาเทียบกันก็คือ

 

:: ETUDE Double Lasting Serum Foundation ::

(ราคา 790 บาท ขนาด 30g)

คำเคลม:  ผิวฉ่ำวาว เนียนสวย 24 ชั่วโมง เผยผิวหน้าฉ่ำวาว

ด้วยเทคโนโลยีดับเบิ้ล โกลว์ (DOUBLE GLOW TECHNOLOGY™)

ที่จะช่วยให้ผิวของคุณเปล่งประกายราวกับผิวได้รับการพักผ่อนอย่างเต็มที่

ยิ่งทายิ่งเนียนสวย! ด้วยส่วนผสมของมอยส์เจอร์เซรั่มบำรุงผิว 61% ดูแลผิวของคุณให้ชุ่มชื้น

แลดูสุขภาพดีด้วยส่วนผสมของเซราไมด์, ไฮยาลูรอนิค แอซิด, เพนทานอลและมอยส์เจอร์เซรั่มบำรุงผิวถึง 61%

ปกปิดแน่น เรียบเนียนไปกับผิว! เผยผิวหน้าเนียนสวยไร้ที่ติ

ด้วยเทคโนโลยีแอร์รี่ มอยส์เจอร์ ฟิต (AIRY MOISTURE FIT™) ที่จะช่วยให้เนื้อรองพื้นบางเบา

ไม่หนักผิวและเรียบเนียนได้ในสัมผัสเดียว 24HR ผิวฉ่ำวาวตลอด 24 ชั่วโมง! ผ่านการทดสอบทางคลินิกแล้ว!

 

สีรองพื้น อีทูดี้

 

 

สำหรับรุ่นนี้ก็มีหลายเฉดสีนะคะ แต่ส่วนตัวส้มใช้สีเบอร์ N05  หรือสี SAND ค่ะ ก็จะเป็นเบอร์เดียวกันเลย

ลักษณะ: เป็นรองพื้นสูตรลิควิด เนื้อค่อนเหลวประมาณนึงค่ะ

แต่จะมีความเงาๆ และรู้สึกนุ่มลื่นกว่า Double Lasting ค่ะ

 

 

double lasting serum

 

เมื่อเทียบขวด 2 รุ่นจะดีไซน์แตกต่างกันเลย

เมื่อก่อนตอนที่ Double Lasting (ฝาดำ) ออกมาใหม่ ๆ ก็จะขวดดีไซน์เหมือนกับตัวฝาสีโรสโกล (Double Lasting Serum )

แต่ปี 2020 เค้ามีการปรับสูตรใหม่ และก็ได้ปรับดีไซน์ขวดใหม่ให้ดูสูงเพรียวขึ้น แต่ปริมาณ 30g เท่ากันค่ะ

ทำให้แยกความแตกต่างได้ชัดขึ้น

ขวด Double Lasting จะดูมีความแมทท์ไม่เป็นเงา ก็รู้ได้เลยว่า รองพื้นสูตรแมทท์แน่นอน

ส่วนขวด Double Lasting Serum ก็จะมีความเงาชัดเจน

 

รองพื้นอีทูดี้

 

เปรียบเทียบเนื้อผลิตภัณฑ์

 

เฉดสี: แม้จะเป็นเบอร์เดียว แต่สูตร Double Lasting จะดูขาวกว่า Double Lasting Serum เล็กน้อยค่ะ

เนื้อรองพื้น: Double Lasting = ทาและเกลี่ยง่าย และพอเซตตัวก็จะเป็นเนื้อแมทท์แห้งไปกับผิวเลย

ส่วน Double Lasting Serum = ทาและเกลี่ยลื่นกว่า และจำทำให้ผิวดูเงา เหมือนได้บำรุงผิวด้วย

 

foundation review

 

 

:: ทดลองทาบนผิวด้วย ETUDE Double Lasting Serum Foundation ::

ส้มจะแต้มเป็นจุดๆ ทั่วผิวหน้า แล้วใช้ฟองน้ำเกลี่ยให้ทั่วอีกที

ส่วนตัวชอบ texture ของรองพื้นรุ่นนี้ ตรงที่ เนื้อบางเบาสบายผิว เกลี่ยง่าย

ให้ความรู้สึกเหมือนทาเซรั่มเลยค่ะ ทาแล้วผิวจะดูสว่างกระจ่างใสขึ้น

แต่เรื่องการปกปิดนั้น ถือว่าประมาณ Medium Coverage ค่ะ

ลุคที่ได้จะดิวอี้หน่อยๆ ใครผิวแห้งน่าจะชอบเลยค่ะ

 

double lasting serum foundation

 

 

:: ทดลองทาบนผิวด้วย ETUDE NEW Double Lasting Foundation ::

ใช้แต้มเป็นจุดๆ บนผิวแล้วใช้ฟองน้ำเกลี่ย

เนื้อรองพื้นเกลี่ยง่ายเหมือนกัน เพราะเป็นสูตรน้ำด้วย ทำให้สบายผิว ไม่หนักผิว ให้ความรู้สึกบางเบา

เมื่อเซตตัว จะเป็นลุคแมทท์เลยค่ะ

ระดับการปกปิด Medium to Full Coverage เลย ตัวนี้ Build ได้เลยค่ะ ทาซ้ำเพิ่มได้ไม่เป็นคราบ

และทำให้การปกปิดดีขึ้น อย่างพวกรอยแดงสิว กลบได้ดีมากเลย

ได้งานผิวที่สวยแบบแมทท์เลย เหมาะกับอากาศบ้านเรา

 

double lasting foundation review

 

:: สรุปความรู้สึกหลังใช้ทั้ง 2 สูตร ::

หลังจากผ่านไป 8 ชั่วโมง

ETUDE NEW Double Lasting Foundation

ยังได้งานผิวที่สวยอยู่เลยค่ะ มีความมันบ้างเล็กน้อยบริเวณ T-Zone แต่ไม่เยิ้มค่ะ

ผิวหน้าไม่เป็นคราบ ไม่ตกร่องเลย  สีไม่ดร๊อปไม่เทาระหว่างวันด้วยค่ะ

ส้มเป็นคนผิวผสมนะคะ สามารถใช้ตัวนี้ได้เลยโดยไม่ได้ใช้แป้งฝุ่นทับ

แต่ถ้าใครชอบให้ลุคแมทท์มากกว่านี้ ก็ใช้แป้งฝุ่นไล้ทับอีกทีก็ได้นะคะ

แนะนำเลยค่ะ ใครที่ผิวมัน ตัวนี้เหมาะ ^^

 

 

after double lasting foundation review

ETUDE Double Lasting Serum Foundation

ผ่านไป 8 ชั่วโมง ก็จะมีความมันบ้างนะคะบริเวณ T-Zone แต่งานผิวโดยรวมยังโอเคอยู่ค่ะ

สีไม่ดร๊อปไม่เทาด้วย แต่จะมีคราบตรงร่องจมูกที่มีความมันออกมาค่ะ

บริเวณช่วงแก้ม มีบางส่วนที่หลุดออกไปค่ะ ทำให้เห็นรอยสิวชัดขึ้นเล็กน้อย

ส้มว่า ตัวนี้เหมาะกับคนที่ผิวแห้ง และ ผิวที่ไม่ได้เน้นการปกปิดมากนักจะเหมาะเลยค่ะ

ใครที่ผิวผสมแบบส้ม อาจจะต้องใช้แป้งฝุ่นเซตเบาๆ อีกทีนะคะ

ส่วนผิวมัน ไม่แนะนำค่ะ เพราะไม่คุมมันจ้า

 

after double lasting serum foundation

 

 

ราคาและช่องทางจัดจำหน่าย

หาซื้อได้แล้วที่เคาน์เตอร์ ETUDE HOUSE ตามห้างทุกสาขา

 ETUDE Double Lasting Serum Foundation 

(ราคา 790 บาท ขนาด 30g)

ETUDE NEW Double Lasting Foundation SPF35/PA++ 

(ราคา 790 บาท ขนาด 30g)

 

พิกัด: https://shp.ee/gvgdiir

 

?ขอขอบคุณทุกคนที่ติดตามอ่านรีวิวนี้นะคะ?

แล้วพบกันใหม่ในรีวิวครั้งหน้าค่ะ

———————————————————————–

?Facebook: www.facebook.com/beautybyorangina

?Instagram:  www.instagram.com/beautybyorangina

?Youtube: www.youtube.com/orangina555

?Twitter: twitter.com/OranginaBeauty

Leave a comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Prev Post Next Post