Review: เปรียบเทียบรองพื้นของ Shu Uemura รุ่น Petal Skin กับ The Lightbulb ต่างกันอย่างไร

June 21, 2018

บล๊อกนี้เกิดขึ้นมาได้เพราะมีแฟนเพจคนนึงอยากจะรู้ว่า

รองพื้นของ Shu Uemura รุ่น Petal Skin กับ The Lightbulb  มันต่างกันยังไงคะพี่ส้ม?

ในเมื่อมีคนอยากรู้….เราก็จะจัดให้เลยค่า

 

 

มาดูกันทีละตัวเลยนะคะ เริ่มจาก รุ่น Petal Skin Fluid Foundation   (ราคา 2,300 บาท)

 

ข้อมูลจากทางแบรนด์

รองพื้น petal skin ฟลูอิดสูตรพิเศษ ที่ระเหยเพื่อกระจายเม็ดสีและแผ่เป็นชั้นบางๆ มอบการปกปิด

ที่ราวกับปราศจากรูขุมขน เปี่ยมไปด้วยความเปล่งปลั่งละมุนละไมเป็นธรรมชาติ

เนื้อฟลูอิดที่แปลกใหม่ไม่ซ้ำใครระเหยเพื่อกระจายเม็ดสีและความเปล่งปลั่งอย่างสม่ำเสมอ

ทำให้ผลการรองพื้นเสมอกันด้วยชั้นที่บางและเรียบเนียนสมบูรณ์แบบ

 

 

 

ซึ่งรองพื้นรุ่น Petal Skin นั้นเค้าจะขายคู่กับแปรงรองพื้น Petal 55 (ราคา 2,300 บาท)

เป็นแปรงสำหรับทารองพื้น ที่ใช้ขนแปรงคุณภาพสูง อัดแน่น รูปทรงจับถนัดมือ

ทำให้เกลี่ยรองพื้นแล้วไม่แตกเป็นเส้น และให้สัมผัสอ่อนนุ่มกับผิวหน้า

 

 

 

ส่วนอีกรุ่นจะชื่อว่า The Lightbulb Essence Essencial Oil In Foundation (2,400บาท)

ข้อมูลจากทางแบรนด์ : ลิควิดรองพื้นในรูปแบบเอสเซ็นเชียล-ออยล์-อิน-ฟาวน์เดชั่นสูตรแรก

น้ำมันจากพืชสมุนไพรล้ำค่า 5 ชนิดรวมกันเป็นสูตรผสม 1 สูตรที่อ่อนโยน

ดูแลผิวอย่างมีประสิทธิภาพ และให้ความรู้สึกผ่อนคลาย สูตรผสมแบบ “เอสเซ็นเชียล-ออยล์-อิน

นี้ให้ความรู้สึกชุ่มชื่นเต็มเปี่ยมพร้อมมอบการปกปิดที่ดูเป็นธรรมชาติซึ่งห่อหุ้มผิวไว้ด้วยความละมุนละไม ทันทีที่ใช้

ผิวของคุณจะแลดูเปล่งปลั่ง ผ่องใส สุขภาพดี และหลังจากใช้เป็นประจำต่อเนื่อง 2 สัปดาห์ แม้ไม่แต่งหน้า

ผิวเปล่าของคุณก็ยังคงดูเรียบเนียนกว่าเดิมและมีสุขภาพดีขึ้น รองพื้นสูตรนี้ยังทรงประสิทธิภาพในการป้องกันทั้ง

รังสียูวีเอ/ยูวีบีและฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน (PM2.5) อีกด้วย

เพื่อทำหน้าที่เป็นเสมือนปราการคอยคุ้มกันผิวคุณจากปัจจัยคุกคามในเมืองใหญ่เป็นประจำทุกวัน

 

ด้วยความที่เนื้อเป็นออยล์ มีความเป็นของเหลวมากกว่า Petal skin เค้าเลยออกแบบมาเป็นหลอด Dropper แบบนี้ค่ะ

 

 

 

ลักษณะของรองพื้น

เนื่องจากส้มได้จากทางแบรนด์มาใช้ ก็จะมีเฉดสีที่ต่างกันนะคะ

อย่างสูตร Petal Skin นั้นก็จะเป็นสี No.574 Light Sand จะออกขาวเหลืองแต่มีความอมชมพูนิดๆ ค่ะ

 

 

ส่วนสูตร The Lightbulb นั้น ส้มได้สีเบอร์ 764 Medium Light Beige สีจะออกเหลืองกว่าค่ะ

 

มาเทียบกันให้ดูชัดๆ เลย

 

Petal Skin – เนื้อเบา แมทท์กว่า ไม่ฉ่ำวาว  ติดทน 

The Lightbulb – เนื้อเบา มีความลื่นแบบออยล์ ปกปิด ชุ่มชื้น 

 

 

 

วิธีใช้รองพื้นรุ่น Petal Skin 

อย่างที่บอกเค้า เค้าออกแบบมาให้ใช้คู่กับแปรงตัวนี้ ซึ่งมันทำให้เราเกลี่ยรองพื้นได้ง่ายจริงๆ ค่ะ

ใช้เวลาแป้บเดียวก็เกลี่ยเสร็จทั่วหน้า ไม่เป็นเส้นๆ ด้วยค่ะ หรือ ใครจะใช้นิ้วมือ หรือ ฟองน้ำก็ได้นะคะ

 

 

วิธีใช้รองพื้นรุ่น The Lightbulb

แนะนำให้ใช้คู่กับฟองน้ำ หรือ นิ้วมือก็ได้ค่ะ ส่วนตัวชอบใช้นิ้วมือเกลี่ยมากกว่า มันลื่นผิวและเกลี่ยง่ายดีค่ะ

 

สรุปผลเปรียบเทียบทั้งสองรุ่น

เราจะมาดูที่เนื้อรองพื้นเนอะ ไม่ดูเฉดสี เพราะว่ามันคนละสีกันอยู่แล้ว

ส้มสรุปง่ายๆ ตามนี้ เพื่อจะได้เข้าใจและเห็นภาพตามไปด้วยกันเนอะ

 

Petal Skin – เนื้อรองพื้นเป็นสูตรแมทท์ แห้งไม่ไวมาก ปกปิดระดับกลางๆ สังเกตว่าจะยังเห็นรอยสิวอยู่แล้ว

แต่ข้อดีคือ ติดทน ให้อารมณ์งานผิวได้ดี สีไม่ดร๊อประหว่างวัน ไม่มันระหว่างวัน

ส้มแนะนำ รองพื้นรุ่นนี้สำหรับคนผิวมัน ผิวผสม ใช้ได้เลยค่ะ แล้วก็อาจจะใช้แป้งฝุ่น ทาเบาๆ อีกครั้งทั่วหน้า ผิวจะสวยมาก

 

The Lightbulb – เนื้อรองพื้นจะลื่น เหมือนเวลาเราใช้ออยล์ลูบบนผิว มันจะลื่นๆ มากกว่ารุ่น Petal

ทำให้เกลี่ยง่าย เข้าผิวได้ดี  และให้ความชุ่มชื้นผิวได้ดีทั้งวัน สีไม่ดร๊อป

สังเกตว่า ผิวจะมีความฉ่ำวาวมากกว่า แต่ไม่เน้นคุมมัน

และข้อดีอีกอย่างคือ ปกปิดจุดบกพร่องพวก ริ้วรอยเล็กๆ รอยสิว ได้ดีกว่ารุ่น Petal

ส้มจะแนะนำสำหรับผิวผิวธรรมดา ผิวแห้ง หรือผิวผสมที่ขาดน้ำ ใช้ได้ค่ะ

 

 

ราคาและสถานที่จัดจำหน่าย

The Lightbulb Essence Essencial Oil In Foundation ราคา 2,400 บาท (30ml)

Petal skin fluid foundation ราคา 2,300 บาท (30ml) 

 

ข้อมูลเพิ่มเติม

Website: http://www.shuuemurath.com/

Facebook: https://th-th.facebook.com/shuuemura.TH 

 

———————————————————————–

Leave a comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Prev Post Next Post