Review : REVLON PhotoReady Cream Blush บลัชออนเนื้อครีม 3 สีสวย

November 9, 2013

 

ทุกครั้งที่ได้เข้าไป Duty Free ที่สนามบินสุวรรณภูมิทีไร
เป็นต้องเสียเงินทุกที  โดยเฉพาะให้กับ Revlon เนี่ย ประจำเลย ไม่เคยพลาด
เพราะใน Duty Free มักจะเอาเครื่องสำอางค์ที่ยังไม่เข้าช้อปในไทยมาขาย
และหลายๆตัวที่เคยซื้อมา มันก็ไม่เข้าช้อปไทยเลย ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไม
ครั้งนี้ไปเที่ยวญี่ปุ่น ก็เลยได้มีโอกาสไปช้อปใน duty free
และนี่ก็คือสิ่งที่ไปสอยมาจ้า
REVLON PhotoReady Cream Blush 


คือเอาง่ายๆแค่เห็นว่าเป็นรุ่นของ PhotoReady นี่ส้มคิดไม่ยากเลยค่ะ

เพราะว่าชอบเซตนี้ตั้งแต่รองพื้นกับ แป้งพัฟฟ์ละ ใช้ดีจริงๆ คุมมันเริ่ดเว่อร์ๆ

สำหรับบลัชออนรุ่นนี้นั้นจริงๆออกมาตั้งแต่ปี 2012 ที่ต่างประเทศ

 โดย Global Artistic Director  ชื่อ Gucci Westman

 คิดค้นขึ้นมาสำหรับฤดูใบไม้ผลิ Spring 2012 collection

ส้มเห็นว่ามีขายอยู่3สีก็เลย เหมามาครบทุกสีเลย

 ไม่อยากเลือกเลย เพราะมันสวยทุกสีจริงๆ

 

คำเคลมจากทางแบรนด์

 

REVLON PHOTOREADY CREAM BLUSH

  • Creamy blush provides buildable, beautiful flush of color
  • Lightweight formula with silky soft feel on skin
  • Blends evenly over cheeks for smooth application
  • Photochromatic pigments bend and reflect light to provide cheeks with a beautiful glow

 

 

 

 

ลักษณะของผลิตภัณฑ์

 

ส้มซื้อมาด้วยกัน 3 สีค่ะ  โดยจะมาในกล่องกระดาษสีดำ

เจาะรูตรงกลางเป็นวงกลมเพื่อให้เห็นสีของบลัชออนได้อย่างชัดเจน

พอแกะกล่องกระดาษออกมา ก็จะเห็นเป็นลักษณะตลับแก้วกลมๆ

มองเห็นสีในตลับได้ชัดเจนค่ะ ขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ค่ะ

สามารถพกพาได้

เมื่อเปิดฝาออกมา เห็นสีแล้วค่อนข้างจัดจ้านเหมือนกันค่ะ

เน้นเป็นโทนสีส้มอ่อนค่อนไปทางนู้ดและสีส้มเข้ม และสีชมพูค่ะ

เมื่อทดลองสีบนท้องแขนแล้ว

จะเห็นว่าสีไม่ได้เข้าเหมือนกับที่เห็นในตลับค่ะ ค่อนข้างอ่อนกว่ามากเลยทีเดียว 

จริงๆมันจะเป็นเนื้อครีมค่ะ แต่พอเกลี่ยลงบนผิวแล้ว

จะแห้งเป็นเนื้อฝุ่น เกลี่ยง่ายไม่เป็นคราบด้วยค่ะ

ดูวิธีใช้ได้ที่ลิงค์ด้านล่างนี้ค่ะ

http://www.revlon.com/Revlon-Home/Beyond-The-Look-Menu/Expert-Tips.aspx#/face/video3

ความรู้สึกหลังใช้

สำหรับตัวส้มใช้ทั้ง 3 สีแล้ว 

พบว่าระหว่างวัน สีจะอ่อนลงกว่าตอนที่ทาตอนแรก

แต่ถามว่าติดทนมั้ย ส่วนตัวส้มว่ามันก็ถือว่าโอเคนะ ติดทนถึงเย็น

เพียงแต่สีจะอ่อนลง แต่ก็ยังเห็นสีอยู่ค่ะ

และก็ข้อดีอีกอย่างนึงก็คือ มันสามารถนำมาทาระหว่างวันได้ ไม่เป็นคราบ

เวลาทาก็สามารถทาหลังลงแป้งก็ได้ หรือจะลงหลังรองพื้นก็ได้

แต่ถ้าลงหลังรองพื้นแล้วทาแป้งทับสีจะอ่อนลงกว่าเดิม

แต่ก็น่าเสียดาย ที่ยังไม่มีเข้ามาขายในบ้านเรา

 

ราคาและสถานที่จำหน่าย

ส้มซื้อที่ Duty Free ที่สนามบินสุวรรณภูมิ

ราคา ตลับละ 350 บาทค่ะ

ในช้อปบ้านเรายังไม่ได้นำเข้ามาขายค่ะ


ขอบคุณทุกคนที่ติดตามอ่านนะคะ

แล้วพบกันใหม่ในรีวิวครั้งหน้าค่ะ


 

Leave a comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Prev Post Next Post