Review : Missha Art Design รุ่น Hello Kitty พิเศษสุด มีขายเฉพาะที่ไต้หวันที่เดียว
เมื่อวันที่ 4-8 มิย. ที่ผ่านมา ส้มได้มีโอกาสไปไต้หวันเป็นครั้งแรกค่ะนับว่าเป็นประเทศที่ไม่อยู่ใน list ของประเทศที่อยากไปเลยการไปครั้งนี้ คือส้มไปดูงานที่นั่นค่ะ การไปครั้งนี้ก็เหมือนกับการเปิดโลกทัศน์ให้ส้มเยอะมากสำหรับประเทศไต้หวันนี้ พอได้ไปสัมผัสแล้วรู้สึกเลยว่า “ที่นี่มีอะไรมากกว่าที่เราคิดเยอะจริงๆ”
และหนึ่งในนั้นก็คือ ร้าน Watsons ที่ไต้หวันค่ะ ไปครั้งแรก ตกใจเลย ทำไมของมันเยอะแบบนี้ โดยเฉพาะ พวกมาสก์หน้าทั้งหลายแหล่ เยอะจนตะลึงเลือกไม่ถูก แอบถ่ายบรรยากาศในร้านมาให้ดูด้วยค่ะ Click
แต่ส้มไปสะดุดตากับเจ้า Hello Kitty Collection ที่ทำขึ้นมาพิเศษสำหรับแบรนด์ MISSHA ซึ่งจะมีขายเฉพาะที่ ไต้หวันที่เดียว !
โอ้โห…อะไรจะโชคดีและบังเอิญขนาดนั้นแบรนด์เครื่องสำอางค์เกาหลีที่ส้มชอบเป็นการส่วนตัวอยู่แล้วเลยอดไม่ได้ที่จะสอยมา
ซึ่ง Collection นี้จะมี รองพื้น 2 เบอร์, ไพร์เมอร์,
แป้งอัดแข็งผสมรองพื้น 2 เบอร์,
แป้งฝุ่นผสมชิมเมอร์ 3 เบอร์ และ เมคอัพรีมูฟเวอร์ค่ะ
แต่ส้มก็ซื้อมาหลากหลายอย่างทีเดียว
ยกเว้นแต่รองพื้น ที่ไม่ได้ซื้อมา เพราะว่ามีเยอะอยู่แล้วก็เลยไม่เอามา
นอกนั้น ซื้อมาครบ ตามสีผิวตัวเองค่ะ
งั้นมาดูกันเลยดีกว่านะคะ เริ่มจากชิ้นแรกกันเลยละกัน
1. Hello Kitty x Missha The Style Art Designing Pore Silky Boomer
(ราคา $410 ไต้หวัน ประมาณ 451 บาท)
มาในหลอดสีชมพู ขนาด 30 ml
ลักษณะของ Primer
เป็นเนื้อไพร์เมอร์สีขาว เนื้อสัมผัสลื่นๆ รู้สึกได้ถึงเนื้อไหมที่ผสมอยู่
เกลี่ยง่ายดี แต่ความรู้สึกเมื่อทาบนผิว ก็เหมือนไพร์เมอร์ทั่วไปคือ
มันจะเคลือบอยู่บนผิว จะไม่ซึมลงผิว
จากรูปด้านล่าง สังเกตเห็นได้ชัดเลยค่ะว่า
ผิวบริเวณที่ทาไพร์เมอร์ลงไปนั้น ผิวจะดูเนียนเรียบ
และช่วยอำพรางรูขุมขนให้เล็กลง ริ้วรอยก็ตื้นขึ้นเยอะเลย
ตัวนี้ลองแล้วชอบมากๆค่ะ ใครที่มีรูขุมขนกว้างทาแล้วจะทำให้รูขุมขนเล็กลง
เวลาทาแป้งแล้วก็ติดทนดีค่ะ อาจจะไม่ติดทนทั้งวัน แต่ก็ถือว่าโอเคค่ะ
2. Hello Kitty x Missha The STyle Art Designing
Two-Way Cake 12 Hours
(ราคา $420 ไต้หวัน ประมาณ 462 บาท)
มาในตลับสีชมพู สีโทนเดียวกับหลอดไพร์เมอร์ข้างบน
ตลับกลมขนาดกะทัดรัด เล็กกว่าตลับแป้ง MAC นิดหน่อยค่ะ
ตลับนี้ปริมาณอยู่ที่ 10 กรัม ค่ะ
พอเปิดตลับออกมา ก็จะมีกระจกและพัฟฟ์ โดยแยกชั้นกับแป้งค่ะ
ลักษณะของแป้ง
ส้มเลือกเบอร์ BS21 Natural Beige มา จะออกสีโทนเหลืองค่ะ
(และจะมีอีกเบอร์นึงคือ SB17 Bright Beige จะออกขาว เหมาะกับผิวขาวอมชมพู)
เนื้อแป้งละเอียดประมาณนึงค่ะ ถือว่าไม่ได้ละเอียดมากนัก
ออกจะร่วนๆนิดนึง แต่เวลาทาแล้วช่วยปรับสีผิวให้สว่าง
แต่ไม้ได้ขาวเกินสีผิวมากนัก
ข้อดีของแป้งรุ่นนี้คือ มีส่วนผสมของสารกันแดด SPF30 PA++ ด้วย
และอีกอย่างคือ ติดทนได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว
อย่างทาไว้ตอนเช้า เย็นๆมาก็ยังเนียนอยู่
ซึ่งเป็นจุดดีของแป้งรุ่นนี้ที่ส่วนตัวส้มประทับใจค่ะ
3. Hello Kitty x Missha The Style Art Designing
Cashmere Loose Powder
(ราคา $465 ประมาณ 511 บาท)
อันนี้จะเป็นแป้งฝุ่นเนื้อแคชเมียร์
ส้มเลือกซื้อสีเบอร์ No.3 Pink Pearl Beige มาค่ะ
เพราะว่าซื้อแป้งพัฟฟ์สี Natural Beige มาแล้วก็เลยเลือกสีที่แตกต่างออกไป
(อีก 2 สีคือ No. 1 Light Beige, No. 2 Natural Beige)
ลักษณะของแป้งฝุ่น
มาในตลับทรงกลมเป็นกระปุกขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่มากนัก
มีพัฟฟสีขาวขนนุ่ม แยกชั้นกับแป้ง อันนี้ก็เหมือนกระปุกแป้งฝุ่นทั่วไป
ขนาด 20 กรัมค่ะ
ส้มเลือกสีออกโทนชมพูและมีชิมเมอร์ผสมอยู่ด้วย
เอาไว้ทาหลังลงแป้งแล้ว ช่วยปรับให้หน้าดูสว่างขึ้น
ผิวจะดูโกลว์ ดูใสมากยิ่งขึ้น มีส่วนผสมของสารกันแดด SPF15 ด้วย
แต่ที่ชอบที่สุดคือ ผงแป้งเนื้อละเอียด และ เบามาก
มีชิมเมอร์เล็กๆผสมอยู่ ทาแล้วช่วยปรับให้ผิวเนียนขึ้นด้วย
สามารถทาหลังทารองพื้นก็ได้ จะทำให้รู้สึกสบายผิว บางเบา
แต่จะไม่ปกปิดนะคะ
4. Hello Kitty x Missha The Style Lip and Eye Makeup Remover
(ราคา $205 ไต้หวัน ประมาณ 225 บาท)
มาในขวดพลาสติกสีใส เนื้อผลิตภัณฑ์
จะมีส่วนที่เป็นน้ำมัน (สีฟ้า) และน้ำ (สีใส) ผสมอยู่
ดังนั้น ก่อนใช้ จะต้องเขย่าเพื่อให้น้ำกับน้ำมันผสมกันเป็นเนื้อเดียวกันค่ะ
ทดสอบการทำความสะอาด
ส้มลองเอาอายไลเนอร์เนื้อครีม และ อายไลเนอร์สีดำ ที่ติดทนมากๆ
ทาลงบนหลังมือ จากนั้น นำ makeup remover นี้
หยดลงบนสำลีประมาณ 1-2 หยด
แล้วนำมาแปะลงบนหลังมือ
หลังจากที่แปะและกดเบาๆทิ้งเอาไว้ซักแป้บนึง
จากนั้นก็เช็ดออก สังเกตเลยว่า
อายไลเนอร์ทั้ง 2 สี หลุดออกมาอย่างง่ายดาย
เป็นรอยอย่างที่เขียนเอาไว้หลังมือเลยค่ะ
คอนเฟิร์มว่าเช็ดดีมากๆ อ่อนโยนต่อผิวด้วย
มีกลิ่นหอมนิดหน่อยไม่เยอะค่ะ แต่เช็ดแล้วอาจจะรู้สึกมันๆเล็กน้อยค่ะ
แต่ประสิทธิภาพในการทำความสะอาด ส้มชอบมากเลย
และนี่ก็คือทั้งหมดสำหรับ Hello Kitty For Missha
ที่ผลิตขึ้นมาเป็นพิเศษ และ มีขายเฉพาะที่ประเทศไต้หวันที่เดียว
ถือว่าตัวเองโชคดีมากที่ไปในช่วงที่เค้ามีขายพอดี
ก็เลยเอามารีวิวให้เพื่อนๆได้ดูกันค่ะ
เอาไว้คราวหน้าจะมารีวิวต่อนะคะ
เพราะว่าซื้อมาหลากหลายชิ้นเลยทีเดียว
จะทยอยๆรีวิวอีกทีนะจ้ะ
แล้วพบกันใหม่ในรีวิวครั้งหน้าจ้า
ขอบคุณที่ติดตามนะคะ