Review : Macro HIFU เวอร์ชั่นใหม่ของยกกระชับ ปรับรูปหน้า เห็นผลในครั้งแรก Apex Medical Center
บอกตามตรงเลยค่ะว่า อายุ 30 กว่าแล้วเนี่ย การทาครีมอย่างเดียวมันอาจจะช่วยได้ไม่เต็มที่
ส้มเองก็ต้องหาตัวช่วยอื่น ที่จะทำให้หน้าเรา ที่มันเริ่มหย่อนคล้อย ไม่กระชับ ไม่ได้รูป ให้ดูดีขึ้น
ซึ่งทาง Apex Medical Center เค้าก็มีนวัตกรรมที่เรียกว่า “Macro Hifu”
Macro HIFU คืออะไร? ต่างจาก HIFU เดิมอย่างไร?
Macro HIFU เวอร์ชั่นใหม่ของเทคโนโลยียกกระชับ ปรับรูปหน้า เห็นผลในครั้งแรก
ด้วยพลังงาน Multi Functional HIFU (High Intensity Focused Ultrasound) ที่พัฒนาล่าสุด
เพื่อการกระชับผิวหน้าระดับลึกเทียบเท่าศัลยกรรมดึงหน้า
Macro HIFU ต่อยอดจากการส่งพลังงานจากรูปแบบเดิม
ทำให้สามารถส่งพลังงานลงในชั้นผิวได้กว้างขึ้น ลงลึกกว่า แต่ให้พลังงานที่คงที่
พลังงานที่ส่งลงไปในชั้นผิวอย่างสม่ำเสมอ เสมือนการเย็บผิวชั้นคลอลาเจนระดับลึกด้วยพลังงาน
High Intensity Focused Ultrasound ในรูปแบบ Multi Functional การทำงานนี้เกิดขึ้นเฉพาะในชั้น SMAS ใต้ชั้นผิว
โดยไม่ส่งผลใดๆต่อผิวชั้นบน ขณะทำจะรู้สึกเพียงอุ่นๆใต้ชั้นผิว
ลองดูรูปด้านล่างนี้นะคะ ที่มีการเปรียบเทียบระหว่าง
Younger Skin ผิวที่อ่อนเยาว์ และ Older Skin (ผิวมีอายุ)
ผิวชั้นแรกสุด Epidemis
ทำหน้าที่เหมือนอาภรณ์ชิ้นงามที่ปกคลุมและปกป้องร่างกายจากเชื้อโรคร้ายต่างๆ
ตอนเป็นวัยรุ่น ผิวจะสลัดเซลล์เก่าที่ตายแล้วทุก ๆ 28 – 30 วัน โดยอัตโนมัติ
แต่พอเราอายุมากขึ้น กระบวนการนี้อาจล่าช้าไปถึง 45-50 วันเลยทีเดียว
ผิวชั้นที่สอง Dermis
ผิวชั้นนี้มีความหนามากถึง 90 เปอร์เซ็นต์ของโครงสร้างผิวทั้งหมด
ประกอบด้วยโปรตีนหลัก 2 ชนิด คือ เนื้อเยื่อ คอลลาเจน (collagen) และ เนื้อเยื่อ อีลาสติน(elastin)
สิ่งที่จะปรากฏให้เห็นในชั้นผิวภายนอกก็คือ รอยแผลเป็น ตัวอย่างก็เช่น แผลเป็นหลุมสิว
ริ้วรอยบนใบหน้า สีผิวเปลี่ยน ไม่สดใส เหมือนผิวปกติ
ด้วยเหตุนี้เอง จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เลเซอร์ส่วนใหญ่ในตลาดความงามมีเป้าหมายอยู่ที่ผิวชั้นนี้เกือบทั้งหมด
ผิวชั้นที่สาม Hypodermis
ชั้นหนังแท้จะเป็นเนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง ซึ่งประกอบไปด้วยเนื้อเยื่อไขมันเป็นส่วนใหญ่
ทำหน้าที่คล้ายฉนวนกันความร้อน และเป็นคล้ายเบาะ กันกระเทือนให้แก่อวัยวะภายในร่างกาย
นอกจากนี้ในส่วนลึกของหนังแท้จะมีคอลลาเจนที่ยึดเซลล์ไขมัน เป็นคอลลาเจนในชั้นลึก
มีลักษณะเป็นเส้นใยพังผืดประสานกันอยู่ค่อนข้างแน่น ซึ่งความแข็งแรง ตึงกระชับและความยืดหยุ่น
ของผิวหนังก็อยู่ที่เส้นใยพังผืด และเนื้อเยื่อใต้ผิวหนังนี่เอง
ลึกลงไปอีก ซึ่งเป็นชั้นลึกสุดของโครงสร้างผิว อยู่ติดกับกล้ามเนื้อ
มีลักษณะเป็นแผ่นพังผืดบางๆยึดโครงผิวหนังทั้งหมดไว้ เป็นเสมือนเบาะรองอยู่ใต้ชั้นไขมัน
มีชื่อเรียกว่า SMAS จะทำหน้าที่พยุงโครงสร้างทั้งหมดของผิวไว้
ซึ่งการจะแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อย มีอายุก็จะต้องทำให้ SMAS กลับมาขึงตึงอีกครั้ง
ในปัจจุบันได้มีวิธีการใหม่ๆ อย่าง Uthera ที่ใช้พลังงาน High Intesity Focus Ultrasound (HIFU)
และใหม่ล่าสุดก็คือ Macro Hifu ที่จะใช้การส่งพลังงานเสียงความถี่สูง ลงไปในชั้นที่เรียกว่า SMAS นี้
และส่งพลังงานลงไปเป็นจุดๆถี่ๆ เสมือนการเย็บ โครงที่หย่อนคล้อยให้กลับมาตึงกระชับอีกครั้ง
และลงฟื้นฟูตั้งแต่ผิวชั้นบน ที่ช่วยเรื่องเม็ดสี และความเปล่งปลั่ง
ทำให้ผิวมีน้ำมีนวล ผิวชั้นกลาง ฟื้นฟูสร้างคอลลาเจน และอีลาสตินใหม่ ทำให้ผิวแน่นตึง
กระชับ และเรียบเนียน และสุดท้าย ชั้นล่างสุดทั้งส่วนของคอลลาเจนลึก
และ SMAS ทำให้โครงสร้างผิวยกกระชับขึ้น ปรับเปลี่ยนรูปหน้าที่หย่อนคล้อยให้กลับกระชับได้รูปขึ้น
.
ทำ Macro HIFU แล้วจะเห็นผลเมื่อไหร่?
การทำ Macro Hifu นั้นจะแบ่งส่วนในการทำ ซึ่งจะเห็นผลทันทีหลังทำ
และจะเห็นผลชัดเจนมากขึ้นภายใน 1-3 เดือน
ด้วยความหนาของชั้นผิวแต่ละส่วนไม่เท่ากัน และการส่งพลังงานลงไปในแต่ละชั้นความลึก ก็ให้ผลลัพธ์ที่ต่างกัน
เพื่อผลลัพธ์ ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด ดังภาพด้านล่าง
ผลลัพธ์จากการทำ Macro HIFU จะค่อยเป็นค่อยไปอย่างเป็นธรรมชาติ
โดยให้ผลในทันทีหลังทำ และจะค่อยๆยกกระชับขึ้นใน 3-4 สัปดาห์
โดยกระบวนการต่างๆจะเกิดขึ้นเฉพาะในชั้นผิวที่พลังงานส่งไปเท่านั้น และไม่เกิดการช้ำ บวม หรือรอยแผลใดๆ
เอาล่ะ…เราพอจะรู้จักกับ Macro HIFU กันแล้วนะคะ
ทีนี้ ขั้นตอนในการทำจะเป็นอย่างไรบ้าง เดี๋ยวมาดูกันเลยค่ะ
ซึ่งในการทำครั้งนี้ ส้มได้เชิญจากทาง Apex Medical Center สาขาเพลินจิต
ให้เข้าไปลองใช้บริการครั้งนี้ ยังไงก็ต้องขอขอบคุณ มา ณ ทีนี้ด้วยนะคะ
(สาขาเพลินจิต เราสามารถนั่งรถไฟฟ้ามาลง สถานีเพลินจิต แล้วเดินเข้าไปในซอยดวงพิทักษ์ได้เลยค่ะ
หรือจะโทรไปที่คลีนิคให้เอารถกอล์ฟมารับหน้าปากซอยก็ได้ค่ะ สะดวกมากๆ)
จากนั้นก็ขึ้นไปบนชั้น 5 เลยค่ะ
บรรยากาศสบายตา โอ่โถง สะอาด ที่สำคัญ พนักงานอัธยาศัยดีมาก อันนี้ประทับใจค่ะ บอกตามตรงเลย
ก่อนจะทำทรีทเม้นท์ ก็ต้องทำการทำความสะอาดหน้าก่อนนะคะ
จากนั้นก็ ทายาชาให้ทั่ว แล้วห่อด้วยแผ่นพลาสติกใสอีกที เพื่อให้ยาชาออกฤทธิได้ดีมากขึ้นค่ะ
และนี่ก็คือ ตัวเครื่องสำหรับทำ Macro Hifu ครั้งนี้ค่ะ
ซึ่งก็จะมี 2 หัวด้วยกันนะคะ ซึ่งมันก็จะอยู่ที่ระดับความลึก ที่จะส่งพลังงานเข้าไปนั่นเอง
พอยาชาออกฤทธิได้ที่ ก็เช็ดทำความสะอาดใบหน้าอีกครั้งให้เรียบร้อย
แล้วทาเจลใสๆ ก่อนจะทำ Macro Hifu เพื่อเตรียมผิวให้พร้อม
จากนั้นคุณหมอก็จะเริ่มทำจากบริเวณส่วนคอ
ซึ่งจะเป็นบริเวณที่ส้มจะมีเหนียงค่ะ เพื่อเก็บช่วงลำคอให้กระชับขึ้น
ช่วยลดเหนียงค่ะ สำหรับบริเวณนี้
เราจะรู้สึกอุ่นๆ ค่ะ ไม่ร้อนมาก เพราะว่ายาชาทำงานอยู่นั่นเอง
แต่ความรู้สึก เราจะรู้สึก ตึ้บๆ เหมือนมีคนเอาแม็กมาเย็บผิว แต่มันไม่ได้เจ็บอะไรเลยค่ะ แค่อุ่นๆ
จากนั้นก็ไปต่อด้วยบริเวณแก้มค่ะ ซึ่งส้มมีปัญหามาก เพราะเราเป็นคนแก้มเยอะ
แก่มา มันก็จะเริ่มหย่อนคล้อย หมอก็จะเก็บบริเวณนี้ให้เยอะหน่อยค่ะ
ต่อด้วยช่วงหางตา ขมับ หว่างคิ้ว ที่ผิวไม่ค่อยกระชับ
รวมไปถึงบริเวณหน้าผากด้วยค่ะ มันก็จะช่วยดึงบริเวณนี้ขึ้น
ใช้เวลาทำประมาณ 30 นาทีค่ะก็เสร็จเรียบร้อย
ผู้ช่วยคุณหมอก็จะทำการคลีนหน้าอีกครั้ง และ ทาครีมบำรุงผิวหน้าให้ค่ะ
ถ้าสังเกต คือ ผิวหน้าไม่เป็นอะไรเลยค่ะ ไม่แดงด้วย (รอยสิวนั้นมีอยู่แล้ว ฮ่าๆๆ)
ผลลัพธ์หลังการทำ Macro HIFU ครบ 1 เดือน
จริงๆ ตอนทำเสร็จมันก็จะเห็นนิดนึงค่ะว่า ยกขึ้น แต่คุณหมอก็บอกว่า ระยะเวลาที่จะเห็นผลชัดเจนมากที่สุดคือ 1-2 เดือน
พอครบ 1 เดือน ส้มก็เลยเอารูปก่อนทำ และ หลังทำมาเปรียบเทียบกัน
คือจะเห็นได้ชัดเจนเลยว่า รูปหน้าได้รูป และ ดูเรียวขึ้นกว่าก่อนทำชัดเจนมากๆ
ผิวที่หย่อนคล้อย อย่างบริเวณแก้มที่เคยห้อย มันก็กระชับ และ เรียวขึ้น ดีงามมากกกกกกกกก กรี๊ด
และบริเวณใต้คาง ที่ส้มก็จะมีปัญหาเหนียงอยู่บ้าง
มันก็ลดลงไปนิดนึงแล้วค่ะ เวลาก้มก็จะไม่ค่อยเห็นละ ^_^
ราคาและสถานที่ให้บริการ
ส้มมาใช้บริการที่ Apex Medical Center สาขา เพลินจิตค่ะ
ในส่วนของราคาการทำ Macro Hifu นั้น ทางคลีนิคจะคิดตามนี้ค่ะ
ทั่วใบหน้า ครั้งละ 39,900 บาท
ใบหน้าและลำคอ ครั้งละ 59,900 บาทค่ะ
.
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่
Facebook: https://www.facebook.com/ApexProfoundBeauty
website: http://www.apexprofoundbeauty.com/
Line: http://line.me/ti/p/%40apexbeauty
