ปกติเป็นคนปากแห้ง ทาลิปแมทท์ไม่ค่อยได้เลยจริงๆ

จนกระทั่งได้ลองลิปรุ่นใหม่ของลาเนจแล้ว ปลื้มปริ่มมากตั้งแต่วันแรกที่ได้ลองใช้

คือ ทาแล้วปากไม่แห้งเลย ยังมีความชุ่มชื้นอยู่

ชอบมากเลยต้องรีบมารีวิวให้ทุกคนได้อ่านกัน

.

LANEIGE Two Tone Matte Lip Bar

.

มีด้วยกันทั้งหมด 10 เฉดสีค่ะ

 

.

 

คำเคลมจากทางแบรนด์

ลิปสติก2 สีในแท่งเดียวกัน ที่เผยผลลัพธ์การไล่สีบนริมฝีปากอย่างเป็นธรรมชาติ

ด้วยการผสานลิปสีแมตต์และลิปไพร์เมอร์เนื้อกำมะหยี่สีสดใส ที่เผยริมฝีปากสีสันสดใส ไม่แห้งแตก

.

.

ลักษณะของผลิตภัณฑ์

มาในแท่งสี่เหลี่ยมเหมือนลิปบาร์ของลาเนจรุ่นก่อนๆ ค่ะ

มีทั้งหมด 10 เฉดสี ซึ่งในหนึ่งแท่งก็จะแบ่งครึ่งสองสีอย่างในรูปค่ะ

.

.

 

ส้มได้ลองสวอชสีบนท้องแขนให้ดู เม็ดสีกันชัดๆ

เรียงจากซ้าย ไป ขวา คือเบอร์ 1 – 10 เลยนะคะ

สังเกตว่า ก็จะออกเป็นโทนชมพู แดง ส้ม ปนๆ กัน

.

.

.

เนื้อลิปรุ่นนี้ เวลาทาบนริมฝีปาก จะให้ความรู้สึกเหมือนกับเราทาลิปครีมปกติเลยค่ะ

มันจะลื่นๆ ทาง่าย ไม่เหมือนลิปแมทท์บางประเภทที่จะมีความหนืดๆ ฝืดๆ ทายาก

แต่รุ่นนี้คือ ทาง่าย ลื่นมากๆ เม็ดสีค่อนข้างชัด

ในทุกแท่ง จะมีสีอ่อนและเข้มอย่างละครึ่ง

เวลาทาก็ให้เอาสีอ่อนอยู่ด้านนอกริมฝีปาก สีเข้มอยู่ในริมฝีปาก

ก็จะได้ลุค ombre สวยๆ ค่ะ

.

.

เผื่อใครยังไม่เห็นภาพว่า เวลาทาออกมาแล้วเป็นยังไง

ส้มได้ทาลงริมฝีปาก เรียงตั้งแต่เบอร์ 1 – 10ให้ได้ดูกันตามรูปด้านล่างนี้เลยค่ะ

.

.

แต่ละสีก็จะมีความสวยต่างกัน แล้วแต่คนชอบเลยค่ะ

ส่วนตัวส้มชอบสีเบอร์ 2, 5, 6, 10 ค่ะ  รู้สึกว่าทาแล้วขับผิวดี

ที่สำคัญ ชอบสุดๆ ก็ตรงที่ทาแล้วปากไม่แห้งลอกระหว่างวันเนี่ยแหละ ปลื้มสุดๆ ละ

ใช้ดีเกินคาดมากกกกกกก แนะนำว่า ให้ไปลองสีจริงที่เคาน์เตอร์เลยนะคะ

เพราะว่าถ่ายรูปมา แสงอาจจะเพี้ยนไปนิดหน่อยค่ะ

สรุปง่าย ๆ คือ มันเป็นลิปแมทท์ที่ชอบที่สุด ณ ตอนนี้เลย แนะนำให้มี ^^

.

.

ราคาและสถานที่จัดจำหน่าย

 

ราคาแท่งละ 950 บาท

มีจำหน่ายแล้วที่เคาน์เตอร์ LANEIGE ตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไปค่ะ

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่

 Facebook: https://www.facebook.com/laneigethailand/

.

.

ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านรีวิวนี้นะคะ

แล้วพบกันใหม่ในรีวิวครั้งหน้าค่ะ