Review : HERA UV MIST ULTRA MOISTURE SPF34/PA++รองพื้นในรูปแบบฟองน้ำเพื่อให้ผิวชุ่มชื้นมากขึ้น
smoothen skin texture
ลักษณะของผลิตภัณฑ์
มาในกล่องสีม่วง เงาๆสวยเชียว ดูดีกว่ารุ่นเก่าเยอะเลย
ด้านข้างกล่องจะมีคำอธิบาย ภาษาอังกฤษนิดหน่อยค่ะ
เท่าที่พอจะอ่านออกก็คือ จะมีส่วนผสมของ น้ำมันจากดอกคามิเลีย และ น้ำแร่
รวมไปถึงราคาข้างกล่องอยู่ที่ 48,000 วอนค่ะ (ก็ลองคูณเรทปัจจุบันดูนะคะ)
แล้วก็ด้านมุมล่างขวาข้างกล่อง จะมีสัญลักษณ์บอก เหมือนรูปฝาเปิด แล้วมีเลข 12 ข้างใน
หมายถึงว่าถ้าหากเราเปิดใช้งานแล้ว จะมีอายุการใช้งานภายใน 12 เดือน
ถ้าเกิน12เดือนแล้วใช้ไม่หมดก็ควรทิ้งไปนะคะ
(แต่ถ้าใช้จริงๆ ไม่เกิน 3เดือนก็หมดค่ะ)
เมื่อแกะกล่องออกมาก็จะมีตัวตลับ Cushionและ รีฟิลมาในซองพลาสติก
ปริมาณของตัว cushion จะอยู่ที่ 15 กรัมต่อชิ้นค่ะ
ซึ่งส่วนใหญ่พวก Cushion เค้าจะมีรีฟิลแถมมาให้อยู่แล้วค่ะ
เรื่องของสี cushion มีสีอะไรบ้าง สำหรับรุ่นใหม่นี้จากที่ส้มหาข้อมูลจากเวป
http://www.hera.co.kr/product/makeup/uv_mist_cushion_ultra_N21.html
เค้าจะมีทั้งหมด 3 เฉดสีด้วยกันค่ะ
No. 13 Cool Ivory สำหรับผิวขาวมากๆ แบบสาวเกาหลี
No. 21 Cool Vanilla สำหรับผิวขาวอมชมพู หรือขาวอมเหลือง
No. 23Cool Beige สำหรับผิวค่อนเหลือง ไม่ถึงคล้ำ
ส่วนของส้มได้สีเบอร์ 21 Cool Vanilla มาค่ะ
สำหรับสีเบอร์ 13 ที่เหมาะกับผิวคนขาวมากๆ นี่ไม่ขอพูดถึงละกันนะคะ ฮ่าๆๆ
จะพูดถึง 2 สีที่ส้มเคยลองแล้วดีกว่าคือเบอร์ 21 และ 23
จากที่ส้มได้ลอง Cushion ของ HERA รุ่นก่อนๆ ทั้งสี 21 และ 23
ที่มีทั้งสูตร C = Coverage และ N = Natural
ส้มรู้สึกว่า Cushion รุ่นใหม่นี้ เหมือนกับว่า เอาสูตร C และ N ผสมกัน
สังเกตว่า เค้าไม่ใส่ตัว C หรือ N หน้าตัวเลขแล้ว
อย่างรุ่นก่อนๆ จะมีเขียนว่า N21, N23 หรือ C21, C23
สูตร C มันจะเน้นปกปิดมากกว่า หนากว่า สูตร N ที่เน้นความบางเบา
มันเลยออกมาแบบ ปกปิดกว่าสูตร N แต่ยังคงความบางเบาอยู่
แต่ไม่บางเบาเหมือน N เพียวๆ พอจะเข้าใจมั้ยเอ่ย
ส้มเลยทำรูปมาด้านล่าง เผื่อจะได้เห็นภาพมากยิ่งขึ้น
ตัวเลข 21 บอกถึง สีที่เหมาะกับเฉดสีผิวอมชมพู ผิวขาวเหลือง
ส่วนตัวเลข 23 บอกถึง สีที่เหมาะกับสีผิวเหลืองแต่ไม่ถึงกับคล้ำ
จะเห็นว่ารุ่น Ultra Moisture นี้ ไม่มี ตัว N หรือ C กำกับหน้าตัวเลขแล้ว
เขียนแค่เบอร์ No.21 Cool Vanilla และ No. 23 Cool Beige
ซึ่งก็ดี เพราะส้มเชื่อว่าหลายคนยังงงอยู่ ว่ามีอะไรบ้าง
ถ้าเปิดตลับออกมา ก็จะหน้าตาเหมือน cushion รุ่นเดิมๆทั่วไปค่ะ
เพียงแต่รุ่นนี้ ตลับออกโทนสีม่วงมุกๆค่ะ
ก่อนใช้ต้องถึงเอาสติ๊กเกอร์ที่แปะตรง cushion ออกก่อนนะคะ
แกะออกมาก็หน้าตาแบบนี้จ้ะ
ลองเอานิ้วจิ้มดูเล่นๆ ^_^
ส้มได้เบอร์ 21 มา มันก็จะเหมาะกับคนผิวอมชมพู หรือ ขาวเหลือง
เมื่อลองทาลงบนท้องแขนดู สีจะขาวกว่าแขนเพราะแขนคล้ำกว่าหน้าอยู่แล้ว
แต่อยากให้เห็นความเนียน และ บางของตัว cushion นี้
มา Zoom Zoom ดูกันใกล้ๆเลยดีกว่า ว่าทาออกมาแล้วเป็นยังไง
สังเกตได้เลยว่า ผิวที่ทา cushion จะฉ่ำๆ วาวๆ ผิวอิ่มน้ำ
แล้วก็ปกปิดได้ประมาณนึง แต่ก็ยังเห็นเม็ดสีผิวที่ไม่สม่ำเสมออยู่บ้าง
เมื่อทดสอบกับผิวหน้า ฝั่งซ้ายมือส้มลง Cushion ให้ได้ดู
เพื่อเปรียบเทียบให้เห็นชัดขึ้นว่า ทาแล้วหน้าจะดูเนียนเรียบขึ้น
พวกจุดด่างดำ กระแดด ก็ดูจางลง มันช่วยปรับให้รูขุมขนดูเล็กลงด้วย
และจะทำให้ผิวดูฉ่ำๆ วาวๆค่ะ
วิธีการใช้ Cushion
เอาพัฟฟ์กดตรงตัวฟองน้ำ ให้รองพื้นที่อยู่ในฟองน้ำติดขึ้นมา
แล้วให้ใช้วิธีการกด และ ตบเบาๆให้ทั่วหน้า
อย่าเกลี่ยแล้วลากเป็นทางยาวๆ มันจะทำให้หน้าเป็นคราบได้ค่ะ
ผลหลังการใช้
พอทาทั่วหน้าเสร็จแล้ว ผิวหน้าจะเนียนขึ้น กระจ่างใสขึ้น
มีความชุ่มชื้นมากยิ่งขึ้น แต่ถ้าใครที่ชอบให้ปกปิดมากๆ เช่นรอยสิว รอยดำไรงี้
ต้องบอกตามตรงว่า คงไม่สามารถปกปิดได้เนียนขนาดนั้น
ก็ยังคงต้องพึ่งคอนซีลเลอร์ลงก่อนอยู่ดีค่ะ
แต่ส้มใช้มาเดือนกว่าแล้ว ส้มชอบสูตร Ultra Moisture นี้มากเลย
เพราะว่ามันชุ่มชื้นผิวดี แล้วก็ติดทนทั้งวัน ตั้งเช้าจรดเย็นเลย
ปกติส้มจะไม่ลงแป้งทับ เพราะจะชอบใช้ cushion เดี่ยวๆ ผิวฉ่ำๆกำลังดี
ยิ่งเราทำงานห้องแอร์ด้วย ผิวก็ยังชุ่มชื้นอยู่
แต่ถ้าวันไหนต้องออกไปหาลูกค้าข้างนอก เจอแดด เหงื่อออก
ส้มก็จะพกตลับไปด้วย เอาไว้เติมระหว่างวัน สามารถเติมได้โดยไม่เป็นคราบ
แต่ก็ไม่ลงแป้งอยู่ดี เพราะไม่อยากให้เกิดการอุดตัน มันเบาสบายผิวดีค่ะ
โดยรวมชอบเลย ^_^
คนผิวแห้ง ผิวผสม สามารถใช้ได้ ส่วนคนผิวมันก็อาจจะมันระหว่างวันได้ค่ะ
ก็เลือกให้เหมาะสมกับสภาพผิวแต่ละคนเนอะ
ราคาและสถานที่จัดจำหน่าย
ราคาข้างกล่อง 48,000 วอน (ลองคูณเรทปัจจุบันดูนะคะ)
อันนี้ทางร้าน PIP Korean Cosmetics ส่งมาให้ส้มใช้
ก็ยังไงลองไปสอบถามราคากับทางร้านอีกทีนะคะ
https://www.facebook.com/Kory.pipo.hiso
แล้วพบกันใหม่ในรีวิวครั้งหน้าคะ