ถ้าในวงการบิวตี้ ถ้าพูดถึงคำว่า Two-Tone เมื่อไหร่
แบรนด์แรกที่ส้มจะนึกถึงก็คือ LANEIGE ที่เมื่อหลายปีก่อน ได้ออก ลิป 2 สีในแท่งเดียวออกมา
และก็มีการพัฒนาต่อมาเรื่อยๆ จนกระทั่งล่าสุด ได้ออก “แผ่นมาส์กหน้า Two-Tone สองสีในแผ่นเดียว”
.
LANEIGE TWO TONE SHEET MASK
.
มีออกมาด้วยกันทั้งหมด 8 สี กับ 8 ปัญหาผิว
.
.
ก่อนที่จะงง ต้องมาทำความรู้จักกันก่อน เพราะมันไม่ใช่แค่ สีของมาส์กนะคะ
.
.
Ampoule-locking effect
แผ่นมาส์กหน้ารุ่นนี้ ผสมเอสเซ้นส์ในปริมาณที่เหมาะสมเต็มแผ่น
ทำให้ดูดซึมเข้าผิวได้พอดี อีกทั้งยังช่วยเกาะผิวได้อย่างดี
Micro-fiber fabric
ทำจากแผ่น Micro-Fiber ขนาดอณูละเอียด ให้ความรู้สึกดุจใยไหม แนบชนิดกับผิวหน้าได้อย่างดี
.
ซึ่ง LANEIGE ได้ทำออกมาทั้งหมด 4 แผ่นด้วยกัน
.
Brightening + Hydrating
มาส์กหน้าส่วนบน จะเป็นสูตร Brightening มีส่วนผสมของ Laneige Clear C Super Berry
เน้นบำรุงผิวให้กระจ่างใสบริเวณช่วงทีโซน, รอบดวงตาและแก้ม
มาส์กหน้าส่วนล่าง จะเป็นสูตร Hydrating มีส่วนผสมของ Laneige Water Bank
จะช่วยเติมน้ำให้ผิวที่แห้ง ขาดความชุ่มชื้นบริเวณรอบปาก
.
ถ้าหากเราต้องการใช้ทั้ง 2 แผ่นก็ได้เลยนะคะ
หรือจะเอาส่วนบนหรือล่างไป match ใช้กับมาส์กตัวอื่นก็ได้เช่นกัน
.
.
เมื่อแกะออกมา ก็จะเห็นว่า แยกชัดเจน ระหว่าง หน้าส่วนบน
,
.
กับแผ่นมาส์กหน้าส่วนล่าง
.
.
วิธีใช้: เราสามารถแกะออกจากแผ่นตาข่ายใสๆ แล้วเอาแผ่นมาส์กหน้ามาวางบนผิว
หรือจะเอาด้านที่เป็นแผ่นมาส์กหน้า แปะแนบลงผิวหน้า แล้วค่อยดึงตาข่ายใสๆ ออกทีหลังก็ได้เช่นกันค่ะ
.
.
แปะออกมาแล้วก็จะเป็นแบบนี้ค่ะ เก๋ๆ ไปอีก
.
.
.
Moisturizing & Lifting
แผ่นนี้ ส่วนบนจะเป็น สูตร Moisturizing เน้นความชุ่มชื้นผิว
ส่วนแผ่นด้านล่างจะเป็นสูตร Lifting เน้นกระชับผิว
.
.
.
มาส์กหน้าส่วนบน จะเป็นสูตร Moisturizing มีส่วนผสมของ Laneige Water Bank
เน้นช่วยเติมน้ำให้ผิว ที่ขาดน้ำ ผิวแห้ง บริเวณทีโซน และผิวรอบๆ ดวงตาและแก้ม
.
มาส์กหน้าส่วนล่าง จะเป็นสูตร Lifting มีส่วนผสมของ Laneige Time Freeze ที่เป็นสารสกัดจาก Carob Fruit
จะช่วยกระชับผิวบริเวณ แก้ม และ คาง ช่วยกระชับผิวให้มีความยืดหยุ่น และดูเรียวขึ้น
.
.
และก็เช่นเดียวกันค่ะ เราสามารถ สลับ แผ่นมาส์กด้านบน กับ ด้านล่าง ไปใช้กับแผ่นอืนก็ได้ค่ะ ที่ไม่ได้ติดมาในแผ่นเดียวกัน
ก็ขึ้นอยู่ว่า เราต้องการแก้ปัญหาผิวของเราในเรื่องอะไร หรือจะใช้แบบที่ติดมาในแผ่นเดียวกันนี้เหมือนกับส้มก็ได้ค่ะ
เป็นสูตรที่ส้มชอบมากๆๆๆๆ ที่สุด เพราะว่า ส้มมีปัญหาผิวแห้งบริเวณช่วงโหนกแก้ม หน้าผาก แต่ช่วงล่างของใบหน้า
มีความหย่อนคล้อย ต้องการความรู้สึกกระชับให้ผิวหน้าแน่นขึ้น ส้มเลยใช้ด้วยกันเลย
.
.
Clearing & Nourishing
แผ่นนี้ ส่วนบนจะเป็น สูตร Clearing เน้นลดความมันส่วนเกิน
ส่วนแผ่นด้านล่างจะเป็นสูตร Nourising เน้นให้สารอาหารผิวให้ชุ่มชื้น
.
.
มาส์กหน้าส่วนบน จะเป็นสูตร Clearing มีส่วนผสมของ Cocao Nut
ที่จะช่วยลดความมันส่วนเกินของผิวบริเวณบริเวณทีโซน และผิวรอบๆ ดวงตาและแก้มได้
.
มาส์กหน้าส่วนล่าง จะเป็นสูตร Nourishing มีส่วนผสมของสารสกัดจาก Passion Flower Oil
จะช่วยให้ผิวบริเวณส่วนล่างของผิวหน้า มีความกระจ่างใส และ นุ่มชุ่มชื้น ไม่แห้งแตกระหว่างวัน
.
.
.
เป็นอีกสูตรที่แนะนำสำหรับคนที่ผิวมัน โดยเฉพาะแผ่นมาส์กเฉพาะส่วนบน ที่เป็นสูตร Clearing
มันจะช่วยดูดซับเอาน้ำมันส่วนเกินของผิวออก ใช้เดี่ยวๆ ก็ได้นะคะ
หรือจะเอาไป match กับแผ่นมาส์กส่วนล่างของสูตร Relaxing ก็ดีเหมือนกันค่ะ (รีวิวอันต่อไปด้านล่าง)
.
.
PORE CARE & RELAXING
แผ่นนี้ ส่วนบนจะเป็น สูตร Pore Care เน้นกระชับรูขุมขน
ส่วนแผ่นด้านล่างจะเป็นสูตร Relaxing เน้นปลอบประโลมผิว
.
.
มาส์กหน้าส่วนบน จะเป็นสูตร PORE CARE มีส่วนผสมของ Laneige Mini Pore Line
ที่มีสารสกัดของ Pine Needle จะช่วยทำให้ ผิวมีความเรียบเนียน ให้ความชุ่มชื้นผิว
โดยที่จะช่วยลดความมันของผิวบริเวณทีโซน แก้ม แต่ไม่ทำให้ผิวแห้งจนเกินไป
มาส์กหน้าส่วนล่าง จะเป็นสูตร Relaxing มีส่วนผสมของสารสกัดจากLaneige Mini Pore Line
ที่มีสารสกัดของ Cypress Leaf จะช่วยลดการอักเสบของผิวหน้า
.
.
.
เป็นอีกสูตรที่ส้มชอบ โดยเฉพาะ Relaxing ที่เป็นมาส์กส่วนล่างของผิวหน้า
คือบางทีอ่ะค่ะ ไปโดนแดด มา หรือ บางทีระคายเคืองผิวบริเวณช่วงแก้ม และ คาง เป็นจ้ำแดงๆ บ้าง
มาส์กตัวนี้แล้วมันช่วยลดการอักเสบของผิวได้เลย
ส่วน PORE CARE ที่เป็นแผ่นมาส์กสีเขียวส่วนบน ตัวนี้ทำให้ผิวรู้สึกกระชับดี
แต่ว่ายังไม่ได้เห็นผลในเรื่องของกระชับรูขุมขนในครั้งแรกที่ใช้มากนัก
ส้มว่า น่าจะต้องใช้ต่อเนื่องไปหลายๆ แผ่น อาจจะเห็นผลมากกว่านี้ค่ะ
(แต่เรื่องกระชับรูขุมขนเนี่ย ค่อนข้างยาก เพราะว่าอากาศบ้านเรามันร้อน
ผิวหน้าก็อาจจะต้องขับไขมันส่วนเกินออกมาระหว่างวัน เป็นปัญหาที่แก้ยากจริงๆค่ะ )
.
ราคา : แผ่นละ 3,800 วอน (ที่เกาหลี)
ในไทย น่าจะเข้าเร็วๆ นี้ค่ะ ยังไงรอกันหน่อยละกันเนอะ
.
.
ขอบคุณทุกคนที่ติดตามอ่านรีวิวนี้นะคะ
แล้วพบกันใหม่ในรีวิวครั้งหน้าค่ะ