Review: เซรั่มดังในทวิตเตอร์ Graymelin 5 สูตรจุกๆ ใช้ดีจริงหรือแค่ข่าวลือ?

เอาอีกแล้วจ้า…ทวิตเตอร์นี่เป็นแหล่งเสียทรัพย์ของเราซะจริงๆ มีแบรนด์เกาหลีที่ฮอตฮิตหลายตัวที่อยากลอง ล่าสุดก็พึ่งซื้อ Graymelin ที่เป็น Return Cream มาลอง แล้วก็ติดใจ ก็เลยไปซื้อพวกเซรั่มมาเพิ่ม ประกอบกับ มีร้านที่เค้าขายก็ส่งบางตัวมาให้ลองใช้ด้วย ส้มเองก็ได้ทดลองใช้อยู่ 2 สัปดาห์แล้ว ก็เลยเอามารีวิวให้ทุกคนได้รู้จักกันจ้า     Graymelin คือแบรนด์อะไร? Graymelin เป็นแบรนด์เกาหลี ที่เด่นเรื่องของสกินแคร์ค่ะ เค้าเริ่มมีชื่อเสียงตามสื่อทีวีต่างๆ ของเกาหลี เช่นพวกรายการบิวตี้ต่างๆ แบรนด์นี้เค้าจะใช้สารสกัดจากธรรมชาติที่ปลอดภัยต่อผิวแพ้ง่าย มีคุณภาพสูง และที่สำคัญคือ สารสกัดจากธรรมชาติที่คัดสรรมานี้ จะต้องผ่านการรับรองแล้วว่า ปราศจากสีและกลิ่นสังเคราะห์ด้วย โดยที่มีคอนเซปท์คือ ให้ผู้บริโภคได้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่คุณภาพดี มีประสิทธิภาพ ปลอดภัยต่อผิวแพ้ง่าย ในราคาที่สมเหตุสมผล ซึ่งเราจะเห็นได้จากแพคเกจจิ้ง เค้าจะทำเรียบๆ ไม่ได้ดีไซน์อะไรมากมาย ค่อนไปทาง มินิมอลซะด้วยซ้ำ เพราะเค้าต้องการทำให้ต้นทุนในด้านการทำแพคเกจน้อยลง จะได้ไม่ต้องไปเพิ่มราคาเข้าไปในตัวผลิตภัณฑ์นั่นเอง     1. Graymelin Collagen 90% Perfect Ampoule ? เหมาะสำหรับคนต้องการให้ผิวแน่นกระชับ เต่งตึง ยืดหยุ่นดีขึ้น ผิวที่มีริ้วรอย (ใช้ได้ทุกสภาพผิว) ตัวนี้จะเป็นแอมพูล หรือ เซรั่มเข้มข้น ที่มีส่วนผสมของคอลลาเจนสูงถึง 90% เลยทีเดียวค่ะ   ส่วนผสมหลัก   Hydrolyzed marine collagen ช่วยให้ผิวยืดหยุ่น กระชับขึ้น แน่นขึ้น Niacinamide ช่วยลดการเกิดเม็ดสีเมลานิน ให้ผิวกระจ่างใสขึ้น กระชับรุขุมขน Lavender oil ช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ ปกป้องผิวจากมลภาวะภายนอก Licorice extract ช่วยลดการอักเสบ อาการระคายเคืองของผิว ลักษณะ: จะเป็นเซรั่มใสๆ ค่อนข้างหนืดๆ ยืดๆ ตามสไตล์คอลลาเจนเลยค่ะ แต่ไม่เหนียวเหนอะนะคะ  ไม่มีกลิ่นอะไรนะคะตัวนี้   วิธีใช้: หยดจากหลอดประมาณ 2-3 หยด แล้วทาให้ทั่วใบหน้าค่ะ ใช้เช้าและเย็นได้เลย มันจะค่อยๆ ซึมเข้าผิว แล้วผิวจะรู้สึกว่า นุ่มลื่นเด้งขึ้นด้วยค่ะ จริงๆ ตัวนี้ สามารถเอาไปผสมกับโทนเนอร์ หรือ ครีมเพิ่มก็ได้นะคะ หรือจะทาเดี่ยวๆ แบบนี้ก็ได้ค่ะ พอทาทิ้งเอาไว้ซักพัก รอมันซึมเข้าผิวแป้บนึง ผิวจะดูเนียนเรียบขึ้น ดูอิ่มฟูขึ้นเลยค่ะ ตัวนี้เนี่ย เป็นตัวโปรดส้มเลย ชอบมากๆๆๆ เพราะตอบโจทย์ผิวใกล้ 40 แบบเรา     2. Graymelin Galactomyces Ferment Filtrate ? เหมาะสำหรับคนที่ต้องการลดเลือนริ้วรอย ให้ผิวเนียนละเอียดขึ้น ให้ผิวชุ่มชื้นตลอดทั้งวัน (ใช้ได้ทุกสภาพผิว)   เป็นสูตรที่ส้มได้ลองแล้วติดใจมากๆ คือถ้าใครใช้พิเทร่าเอสเซ้นส์ของ SK-II อยู่ล่ะก็ Galactomyces นี้เป็นสารสกัดจากยีสต์สายพันธุ์เดียวกันกับที่ใช้ใน SK-II เลยค่ะ โดยเจ้ายีสต์ตัวนี้เนี่ย มีคุณสมบัติใกล้เคียงกับผิวของมนุษย์อย่างเราๆ ด้วยนะคะ ซึ่งเซรั่มตัวนี้ก็จะช่วย กระตุ้นการผลัดเซลล์ผิว ช่วยให้สีผิวสม่ำเสมอ ลดเลือนริ้วรอยเล็กๆ ให้จางลง ช่วยบำรุงผิวให้กระจ่างใสขึ้น ลดจุดด่างดำและรอยแดงบนผิว ส่วนผสมหลัก Galactomyces Ferment Filtrate (99%) และ 1,2-Hexanediol (เป็นตัวทำละลาย ช่วยกักเก็บน้ำได้ดี นิยมใช้ในสูตรบำรุงผิว ที่ต้องการลดการใช้สารกันเสีย)     ลักษณะ: จะเป็นเซรั่มลิควิด เหลวเป็นน้ำใสๆ เลยค่ะ ถ้าสังเกตจากรูปด้านบน พอหยดลงมือปั๊บ ไหลลงเลยจ้า ฉะนั้นต้องรีบทาไวๆ 555 อ้อ… ไม่มีกลิ่นอะไรเช่นกันจ้ะ     วิธีใช้:  บีบจากหลอด ประมาณ 3-4 หยดแล้วทาทั่วหน้าค่ะ ตัวนี้ซึมไวมากๆ แต่พอซึมเข้าผิวแล้ว มันจะทำให้ผิวชุ่มชื้นเลยนะคะ ไม่ใช่ซึมแล้วแห้งเหมือนน้ำเปล่า ทาได้ทั้งเช้า และ เย็นเลยนะคะ 3. Graymelin Bifida Fermentation 100% ? เหมาะสำหรับผิวอ่อนล้า ขาดการบำรุง ต้องการฟื้นฟูผิวเร่งด่วน ให้ผิวแข็งแรงมีภูมิคุ้มกัน (ใช้ได้ทุกสภาพผิว) ตัวนี้เค้าได้สารสกัด จาก การบ่มเจ้าแบคทีเรีย ที่ชื่อว่า Bifida หรือถ้าจะให้คุ้นหู ก็ Probiotic นั่นเองค่ะ ซึ่งเจ้าตัวนี้ เค้าก็จะช่วยเติมสารอาหารให้กับผิว ช่วยฟื้นฟูผิวที่อ่อนแอ ผิวพักผ่อนน้อย ให้ฟื้นตัวเร็วขึ้น ให้ผิวมีความแข็งแรงมากขึ้น สามารถต่อสู้กับมลภาวะ แสงแดด บลาๆๆ ประมาณนั้นเลย     ส่วนผสมหลัก Bifida Ferment Filtrate และ 1,2-Hexanediol (เป็นตัวทำละลาย ช่วยกักเก็บน้ำได้ดี นิยมใช้ในสูตรบำรุงผิว ที่ต้องการลดการใช้สารกันเสีย)     ลักษณะ: จะเป็นเซรั่มลิควิด เหลวเป็นน้ำใสๆ เลยค่ะ  คล้ายกับตัว Galactomycys มาก เหลวแบบจะต้องรีบตะปบ แล้วทา ฮ่าๆๆๆ โดยรวมก็ ไม่มีกลิ่นอะไรเช่นกันจ้ะ     วิธีใช้:  ในครั้งแรกที่ใช้ แนะนำให้ใช้แค่ 1-2 หยดก่อน พอใช้ไปหลายๆ วัน ค่อยเพิ่มปริมาณขึ้น อาจจะ 3-4 หยดได้ค่ะ คือต้องให้ผิวได้เริ่มมีการปรับสภาพผิวก่อนค่ะ เค้าให้ใช้เฉพาะตอนกลางคืนนะคะตัวนี้ ​ 4. Graymelin Hyaluronic Serum 100% ? เหมาะสำหรับผิวแห้ง ขาดน้ำ ปรับความสมดุลผิว (ใช้ได้ทุกสภาพผิว หรือคนที่ผิวขาดน้ำ) ถ้าพูดถึง ไฮยาลูรอน น่าจะรู้จักกันดีอยู่แล้วเนอะ ว่าช่วยเรื่องการเติมน้ำให้ผิวหลักๆ เลย ให้ผิวมีความชุ่มชื้น ซึ่งถ้าหากผิวเราชุ่มชื้นพอเหมาะ เวลาแต่งหน้า เมคอัพก็จะดูสวยสดใหม่ หรือ เวลาลงสกินแคร์ตัวต่อๆ มันก็จะซึมเข้าผิวได้ดีขึ้น ลักษณะ: จะเป็นเซรั่มใสๆ ไม่ข้น หรือ หนืดมากนัก ต้องบอกว่า ถือว่าแบรนด์นี้ทำ Hya ออกมาได้ดีเลยค่ะ texture ค่อนข้างเบาเลยทีเดียว     วิธีใช้:  หลังจากที่ล้างหน้าเสร็จแล้ว ยังไม่ต้องซับน้ำ ให้หยดใส่มือแล้วทาให้ทั่วแล้วใช้มือกดเบาๆ ให้มันซึมเข้าผิว ใช้ครั้งแรกอาจจะต้องค่อยใช้ทีละนิด แล้วค่อยเพิ่มปริมาณหลังใช้ได้หลายๆ วันแล้วเพื่อปรับสภาพผิว ซึ่งตัวนี้ใช้ได้ทั้งเช้าและเย็นค่ะ โดยเฉพาะในตอนเช้า หลังจากทาและแต่งหน้าเสร็จแล้ว ใช้นิ้วกดๆๆ ให้ทั่วหน้าอีกทีมันจะช่วยทำให้เซรั่มซึมเข้าผิวได้ดีขึ้น เมคอัพก็จะเกาะติดผิว ให้ดูสวยสดใหม่ทั้งวันด้วยค่ะ 5. Graymelin Natural Facial Oil ? เหมาะสำหรับผิวแห้ง หยาบกร้านขาดการบำรุง (ใช้ได้ทุกสภาพผิว) ตัวนี้จะเป็นออยล์บำรุงผิว ที่สามารถใช้ได้ทั้งกับผิวและผมด้วยนะคะ ผิวแห้ง ผิวผสม ผิวมัน ใช้ได้นะคะ (แต่ถ้าผิวมันมากๆ แนะนำให้ใช้เฉพาะตอนกลางคืนพอค่ะ)       ส่วนผสมหลัก Argan oil , Olive oil , Jojoba oil, Grapefruit oil Macadamia oil , Sunflower oil       ลักษณะ: เป็นเนื้อออยล์ใสอมเหลืองนิดๆ ค่ะ เนื้อออยล์ตัวนี้ถือว่าค่อนข้างเบา ทาแล้วซึมเข้าผิวได้ง่าย ไม่เหนอะหรือมันจนเยิ้ม   วิธีใช้:  หยดประมาณ 2-3 หยด แล้วกดให้ทั่วหน้าให้ซึมเข้าผิว ใช้ได้เช้าและเย็นเลยค่ะ เนื่องจากออยล์ตัวนี้ค่อนข้างเบา สามารถทาเป็นขั้นตอนสุดท้ายได้นะคะ หรือจะทาขั้นตอนแรกหลังล้างหน้าก็ได้ค่ะ กดๆ ให้มันซึมเข้าผิวอีกที   หรือบางทีรองพื้นบางตัวมันอาจจะแห้งเกินไป เราสามารถหยดออยล์ผสมรองพื้นได้นะคะ มันจะทำให้ผิวดูเงา ชุ่มชื้น สำหรับคนที่ผิวแห้งเหมาะเลยค่ะ     หรือจะเอามาลูบผมก็ได้เหมือนกัน ทำให้เส้นผมไม่ชี้ฟู และ หวีง่ายไม่พันกันด้วย แต่ก็อย่าใส่เยอะเนอะ เดี๋ยวมันจะทำให้ผมดูจับตัวเป็นก้อนๆ ได้นะ         ใช้ตัวไหนก่อน-หลังดี อันนี้เรียงตามที่ส้มใช้ปกติเลยนะคะ ส้มก็จะลง  Galactomyces > BIFIDA (เฉพาะกลางคืน) > Collagen > Hyaluronic > Facial Oil สำหรับตัว Facial Oil ถ้าทาตอนเช้า ส้มจะลงเป็นขั้นตอนแรกค่ะ (ทากลางคืนก็ลงสุดท้ายเลย)   ​ ​​​ ความรู้สึกหลังใช้   ตอนแรกซื้อ Facial Oil มาใช้ก่อน แล้วติดใจ เพราะว่าเนื้อออยล์ของ Graymelin เบาผิวมาก ซึมเข้าผิวได้ดีเลย ทาตอนก่อนนอน ตื่นมาผิวก็จะไม่แห้ง ผิวจะนุ่มๆ ดี Galactomyces กับ Bifida ทางร้าน WPungnoey ส่งมาให้ลอง บอกตามตรงว่า เนื้อเซรั่มสองตัวคล้ายกันมาก ส้มชอบ  Galactomyces มากกว่า เพราะทาแล้วมันให้ความรู้สึกผิวกระจ่างใส ผิวละเอียดขึ้น ใกล้เคียงกับเวลาใช้น้ำตบพิเทร่าของ SK-II แต่ตัว Bifida ทาวันแรก ผื่นขึ้นจ้า ฮ่าๆๆ น่าจะแพ้ หรือ ไม่ก็หยดเยอะไป เลยลองปรับเป็นหยดเดียว อาการผื่นแพ้ก็ค่อยๆ ดีขึ้น ฉะนั้นทาแต่น้อยๆ นะจ้ะ คือตัว Bifida ส่วนตัวไม่ได้เห็นผลในเรื่องชุ่มชื้นหรือกระจ่างใสอะไร แต่คิดว่า มันน่าจะช่วยปรับผิวให้ค่อยๆ แข็งแรงขึ้นมากกว่า   ตัว Collagen  บอกเลยว่าชอบมาก เป็นคอลลาเจนเข้มข้นที่ทาง่าย ไม่หนืด ทาแล้วผิวมันจะอิ่มฟูขึ้น เด้งขึ้น วันไหนนอนน้อย ก็โบกคอลลาเจนเยอะหน่อย ตื่นเช้ามา ผิวอิ่มฟู ดูผิวแน่นขึ้นเลยค่ะ ติดใจเลย ถัดมาก็ตัว Hyaluronic เนี่ย เติมน้ำให้ผิวดีเลยค่ะ ไม่เป็นคราบด้วย ผิวจะชุ่มชื้นทั้งวันเลย ยิ่งพอใช้คู่กับ Galactomyces ยิ่งเวิร์ค ได้ทั้งผิวกระจ่างใสและชุ่มชื้นเลย โดยรวม 5 ตัวนี้ ส้มว่ามันช่วยปรับสภาพผิวโดยรวมให้มีความสมดุลขึ้น ให้ผิวดูกระจ่างใส ผิวละเอียดขึ้น ผิวไม่แห้งกร้าน แต่ก็ไม่จำเป็นต้องใช้ทั้งหมด 5 ตัวแบบที่ส้มรีวิวก็ได้นะคะ เลือกใช้เฉพาะตัวที่คิดว่าจะเหมาะกับสภาพผิวแต่ละคนเนอะ     ราคาและสถานที่จัดจำหน่าย Facial Oil ซื้อที่ Multy Beauty ราคา 390 บาท (50ml) Galactomyces ร้าน Wpungnoey ส่งมาให้ใช้ ราคา 320 บาท  (50ml) Bifida ร้าน Wpungnoey ส่งมาให้ใช้ ราคา 320 บาท (50ml) Collagen ซื้อที่ Cosmobeaute ราคา 359 บาท (50ml) Hyaluronic  ซื้อที่ Cosmobeaute ราคา 359 บาท (50ml)   ?ขอขอบคุณทุกคนที่ติดตามอ่านรีวิวนี้นะคะ? แล้วพบกันใหม่ในรีวิวครั้งหน้าค่ะ ———————————————————————– ?Facebook: www.facebook.com/beautybyorangina ?Instagram:  www.instagram.com/beautybyorangina ?Youtube: www.youtube.com/orangina555 ?Twitter: twitter.com/OranginaBeauty