Review : ฟอกสีผม+ทำไฮไลท์ แบบผมไม่เสียด้วยการเติมผลิตภัณฑ์ OLAPLEX นวัตกรรมใหม่ล่าสุดของโลก

May 20, 2015

ถ้าใครติดตามส้มผ่านทาง Facebook  จะต้องรู้แน่นอนว่่าส้มเป็นคนรักเส้นผมมาก

การทำสี ทำเคมีกับผมนี่ แทบจะไม่คอ่ยทำ หรือ ถ้าจะทำ ต้องศึกษาข้อมูลให้ดีดีก่อน

เพราะไม่อยากจะไปเสี่ยงทำแล้วผมเราเสีย

แต่ครั้งนี้ ถือว่าเป็นครั้งแรกในรอบ 14 ปี ที่ส้มทำการฟอกสีผม เพื่อทำไฮไลท์เส้นผม

หลังจากไม่ได้ทำอีกเลยตั้งแต่สมัยเรียนมหาลัย

แต่ครั้งนี้ตัดสินใจทำ เพราะเชื่อมั่นในตัวผลิตภัณฑ์ OLAPLEX 

เพราะก่อนไปทำ เราหาข้อมูลเอาไว้อยู่ละส่วนหนึ่ง

มันเป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุดของโลกที่พึ่งคิดค้นได้  AMAZING มากจริงๆ

 

3

OLAPLEX คืออะไร และ ดียังไง ? 

OLAPLEX  ไม่ใช่ ทรีทเม้นท์ผม  ไม่ใช่ เคราติน

แต่ OLAPLEX คือ เคมีที่มีความสามารถในการสมาน bond หรือ ข้อต่อของโครงสร้างแกนผมภายใน

และช่วยในการเชื่อมต่อข้อของเส้นผมที่มีการเปราะ และ แตกหักภายใน

ซึ่งเคมีตัวนี้ได้คิดค้นโดย Dr.Eric Pressly และ Dr.Craig Hawker

ซึ่งได้คิดค้น เคมีเดี่ยวขึ้นมา ที่ไม่มีส่วนผสมของ ซิลิโคน หรือ น้ำมัน

ที่จะสามารถเชื่อมต่อข้อต่อของเส้นผมภายในที่มีการแตกหัก

ในระหว่างหรือหลังการทำเคมีกับเส้นผม ไม่ว่าจะเป็น ทำสี ฟอก กัด ย้อม ยืด

มันจะช่วยทำให้เส้นผมแข็งแรงมากกว่าเดิม

 

อธิบายให้เห็นภาพชัดขึ้น ง่ายๆ เลยก็คือ

ปกติโครงสร้างของเส้นผมเรา เวลาที่เราทำเคมีกับเส้นผม

 ส่วนที่จะบ่งบอกว่า ผมจะเสียหรือไม่นั้นก็คือ ข้อต่อ Disulfide Bond

 สังเกตง่ายๆว่า อย่างคนที่ฟอกสีผม ทำไมพอฟอกไปแล้ว

ผมขาดง่ายมาก หรือ ผมแห้งเสีย หยิก หรือเป็นวุ้นเลย นั่นก็เพราะว่า Disulfide Bond มันถูกทำลาย

มันไม่มีข้อต่อที่จะไปเชื่อมต่อกัน  แต่ตัว OLAPLEX มันจะเป็นตัวที่มาเสริมข้อต่อให้โครงสร้างเส้นผมข้างใน

ของเรา  พอเราฟอกสีปั๊บ ข้อต่อขาดไป OLAPLEX ก็จะเข้าสร้างข้อต่อเพิ่มกลับคืนให้เรา

นั่นก็เลยทำให้ผมเราไม่เสียนั่นเอง

How-to-Prevent-Hair-Loss-And-Breakage-Due-To-Smoothing6

WindowCling1

ที่ทำให้ Amazing มากคือ  แบรนด์นี้พึ่งออกวางตลาดได้แค่ 8 เดือนเท่านั้น!! 

แต่ภายใน 8 เดือนนี้  ขายให้ซาลอนทั่วอเมริกากว่า 70,000 ซาลอน !! มันเยอะมากนะ

และที่สำคัญ หนึ่งใน Hair Stylist ชื่อดังของ Hollyw ood อย่าง Guy Tang

 ที่ส้มติดตามเค้าผ่านทาง Facebook และ IG เค้ายังใช้

ส้มก็ยังแอบคิดนะว่า ทำไมเค้าทำสีผมออกมาได้สวยมากกกกกกกก

ถึงได้รู้เคล็ดลับก็วันนี้ ดีใจที่มีคนเอาเข้ามาในไทย ต่อไปจะได้ทำสีผมได้อย่างไม่ต้องกลัวผมเสีย

 

4

 อ่านแค่ข้อมูลเท่านั้นไม่พอ ส้มต้องทดลองด้วยตัวเองด้วย

ไม่งั้นจะมาบอกได้อย่างเต็มปากได้ยังไงว่ามันดีจริงอย่างที่เค้าว่าหรือเปล่า

นี่เลยเป็นหนึ่งเหตุผลทีตัดสินใจทำในครั้งนี้ เพื่อผู้อ่านทุกคน ^___^

ขั้นตอนที่ 1 : เลือกสีผม และ ฟอกสีเพื่อทำไฮไลท์ปลายผม

 

ซึ่งในครั้งนี้ ส้มเลือกที่จะทำสีผมด้วย เพราะอยากได้สีผมโทนน้ำตาลเข้มๆ

แบบให้มีประกายหน่อยๆเวลาโดนแสงแดด

โดยผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผม ทีเลือกใช้ก็คือ ของยี่ห้อ CHI (ยี่ห้อเดียวในดวงใจเลย)

เลือกโทนสี Chocolate Mocha ค่ะ เบอร์ 7CM 

 

2

 

และก็เลือกที่จะทำไฮไลท์ผม ช่วงปลายด้วย เพราะจะได้ทดสอบคุณภาพของ OLAPLEX ด้วย

 จึงจะต้องฟอกผมช่วงปลายเสียก่อน

โดยฟอกผมด้วยผลิตภัณฑ์ของ AFFINAGE Lite N Up

(เป็นผลิตภัณฑ์ฟอกผมเกรดพรีเมียมจาก USA) เป็นผลิตภัณฑ์ฟอกสี ที่ไม่มีกลิ่นเหม็นเลย

 

5

 

 

และแน่นอนค่ะ ต้องใส่ OLAPLEX Bond Multiplier No.1

นางเอกของเราเข้าไปด้วย  โดยปริมาณ ที่จะใช้สำหรับฟอกผม ก็คือ 7.5ml

(ทั้งนี้ ปริมาณพอเหมาะที่จะต้องใช้นั้น  ช่างจะเป็นผู้ดูสภาพเส้นผม ควมยาวของผมเราด้วยค่ะ)

6

 

 

จากนั้นก็ใช้อุปกรณ์ตีให้ส่วนผสมเข้ากัน

7

 

 

หลังจากนั้น ช่างจะเริ่มทำการฟอกผม โดยการจับผมขึ้นมา 1 ช่อ โดยประมาณ ไม่เยอะไม่หนาจนเกินไป

แล้วใช้แปรง แต้มเฉพาะด้านข้างของปอยผมที่หยิบขึ้นมา และทาทั้งหมดเฉพาะช่วงปลายผม 10 ซม. ด้านล่าง

คือ เป็นงานละเอียดมากขั้นตอนนี้  เพราะต้องการให้เวลาลงสีแล้วมีการไล่เฉดสีที่สวย

 

 

8

 

พอฟอกเสร็จแต่ละช่อ ก็ต้องใช้พลาสติก wrap เฉพาะช่อผมที่ฟอกเอาไว้

ทำแบบเช่นเดียวกันนี้ เป็นชั้นๆ ไปเรื่อยๆ จนครบปริมาณช่อผมที่ต้องการฟอกทั้งหัว

  แล้วทิ้งเอาไว้ 30 นาที

 

 

9

 

หลังจากครบ 30 นาที ก็ทำการล้างผมด้วยน้ำเปล่า แล้วซับผมให้แห้งหมาดๆ

 

 

10

หลังจากนั้น ก็จะใส่ OLAPLEX Bond Perfector  No.2

โดยจะเน้นใส่เฉพาะช่วงปลายผมที่เราได้ทำการฟอกสีผมเอาไว้ นวดผมเบาๆให้ซึมเข้าเส้นผม

แล้วก็ใช้หวีซี่ห่างๆ หวีให้ทั่วเส้นผมอีกที จากนั้นทิ้งเอาไว้ 10 นาทีค่ะ

 

11

พอครบ 10 นาที ก็สระผมด้วยแชมพู CHI แล้วล้างออกด้วยน้ำเปล่าตามปกติ

 

 

12

และนี่ก็คือ ผมที่ฟอก สำหรับทำไฮไลท์ค่ะ  ส้มรีบเอามือไปจับปลายผมก่อนเลยว่าเสีย หรือ แห้งมั้ย

แต่ปรากฏว่า “ผมไม่แห้ง ไม่เสีย ไม่ช๊อตเลย “ เฮ๊ยยยย มันเจ๋งมากกกกก

แล้วผมนิ่มด้วยเรื่องของเรื่อง มันคนละความรู้สึกกับที่เคยฟอกผมเมื่อ 14 ปีที่แล้วได้เลย

จำได้ เพราะปกติ ผมฟอกนะจะแห้งได้อย่างชัดเจน แต่นี่มันไม่เป็นอะไรเลย

 

 

13

แต่พอดีว่า ช่าง ต้องการให้สีผม มีการไล่สีอีก 1 ชั้น เวลาลงสีทั่วทั้งหัวแล้ว

มันจะได้ไม่ดูแบ่งเป็นส่วนๆเกินไป  ก็เลยจะฟอกบางส่วนเพิ่มอีกนิดหน่อย

บอกตามตรงว่า การจะฟอกรอบสองเนี่ย เริ่มหวั่นๆใจนะ

ว่าฟอกอีกครั้งจะเป็นอะไรมั้ย แต่ก็นะ เอ้า ลองดูละกัน! เพื่อผู้อ่านทุกคน ยอม!

แล้วก็เริ่มฟอกสีผม ครั้งที่ 2 โดยหยิบผมมาแค่บางส่วน ตามรูปค่ะ (งานละเอียดอีกแล้ว)

โดยทำเหมือนกับการฟอกในครั้งแรกเลยค่ะ พอฟอกเสร็จก็ทิ้งเอาไว้ 30 นาที

14

จากนั้นก็ล้างผมด้วยน้ำสะาอด แล้วก็หมักด้วย OLAPLEX Bond Perfector  No.2

ทิ้งเอาไว้ 15 นาที  แล้วก็ล้างออกแล้วเป่าผมให้แห้งหมาด

 

 

15

และนี่ก็คือผมที่ฟอกเสร็จ รอบ ที่ 2 จ้า  ผมยังสวย นุ่มลื่น เป็นปกติ เหมือนยังกับว่า

ไม่ได้ทำการฟอกแต่อย่างใด โอ้วโล่งอก และ ประทับใจมากจริงๆ

ไม่เคยฟอกสีผมแล้วผมยังสุขภาพดีอยู่ขนาดนี้ เริ่ด!!

 

16

ขั้นตอนที่ 2 : ลงผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผมที่เลือกไว้ 

 

ส้มได้เลือกสีผมของ CHI เบอร์ 7CM โทนสี Chocolate Mocha เอาไว้

ช่างก็ได้ผสมและเตรียมเอาไว้ในถ้วยเรียบร้อย

 

 

17

แล้วก็เติม  OLAPLEX Bond Multiplier No.1 ลงไปในถ้วยผสมสี

ปริมาณที่ใช้คือ 3.75ml สำหรับการทำสีผม  จากนั้นก็คนให้เข้ากัน

 

18

โดยช่างจะเริ่มลงสี ช่วงผมด้านหน้า และ ด้านใน ประมาณ 10 ซม. นับจากโคนลงมา

เพราะการทำสีของ CHI นั้น การดูสภาพเส้นผม และ เวลาในการใช้นั้น สำคัญมากๆ

หากใช้เวลานานเกินไป น้อยเกินไป หรือ ลงส่วนใดส่วนหนึ่งผิด สีออกมาก็จะไม่สวย

ถึงบอกว่า ครั้งนี้นี่ งานละเอียดมากจริงๆ

 

 

19

จากนั้นก็ค่อยมาผม ตรงบริเวณที่ได้ฟอกสีผมเอาไว้ ทาให้ทั่ว

 

20

จากนั้นก็มาทาสีตรงช่วงส่วนกลางของเส้นผม

 

21

เสร็จแล้วก็ทิ้งเอาไว้ 45 นาทีค่ะ

 

22

จากนั้นก็ล้างผมให้สะอาดด้วยน้ำเปล่าตามปกติ

 แล้วช่างจะผสม น้ำเปล่า กับ  OLAPLEX Bond Multiplier No. 1

แล้วหยดให้ทั่วเส้นผม แล้วนวดให้ซึมเข้าเส้นผม

ตรงนี้จะเป็นการช่วยเติมสารบำรุง ให้ข้อต่อเส้นผมในแกนผมเรายึดติดกันหลังทำเคมี

 

 

23

จากนั้นก็ใช้หวี หวีให้สารบำรุงซึมเข้าสู่เส้นผม แล้วทิ้งเอาไว้ 5 นาที

แล้วตามด้วย OLAPLEX Bond Perfector No.2

นวดเส้นผมและหมักทิ้งเอาไว้ 10-20 นาทีแล้วล้างออก

แล้วสระผมด้วยแชมพูและคอนดิชั่นเนอร์ตามปกติ

 

24

และแล้วก็เสร็จเรียบร้อยค่า ผมไม่เสียเลย แฮ้ปปี้มากกกกกกกก

การทำสีผมแบบนี้ เป็นการไล่เฉดสีผม จากเข้มบนโคนผม

แล้วค่อยๆไล่สีอ่อนลงมาจนถึงปลายผม

 ทำให้ไม่ต้องไปเติมโคนบ่อยด้วยเวลาผมใหม่งออกมา

(คือส้มขี้เกียจเติมโคนมาก เพราะผมยาวไวมาก)

 

25

สังเกตแค่ปลายผมก็พอค่ะ  ขนาดฟอกสี ผม ตั้ง 2 ครั้ง ผมไม่เป็นอะไรเลย เริ่ดตรงนี้แหละ

ทีนี้ ส้มก็จะกล้าทำสีผม ฟอกผม โดยไม่ต้องกลัวผมเสียแล้ว ^_^

26

 

ความรู้สึกหลังทำ

คือไม่รู้จะยังไง จำความรู้สึกได้เลยว่า ฟอกครั้งที่ 2 จับผมแล้วผมยังนิ่มอยู่

 คือไม่เคยทำการฟอกแล้วผมยังสุขภาพดีขนาดนี้ คือ อันนี้ต้องบอกเลยถ้าไม่มี OLAPLEX

เข้ามาเป็นส่วนเติมในครั้งนี้ ผมอาจจะขาดไปแล้วก็ได้  ส้มเลยประทับใจมาก คือ มันดีมากจริงๆ

 ทำให้คนที่รักเส้นผมมากอย่างส้ม กล้าทำสีผมในครั้งต่อๆไปโดยไม่ต้องกลัวผมเสียเลย

และข้อดีนะ OLAPLEX ใช้เป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผมก็ได้

 เพราะจริงๆแล้วจะมีขวดเบอร์ No.3 ที่จะเป็น After Care 

เอาไว้ใช้บำรุงต่อที่บ้านสัปดาห์ละ 1 ครั้ง คือ ส่วนผสมตัวเดียวกับ 1 และ 2 แต่เจือจางกว่า

และจากข้อมูลที่ส้มได้ศึกษามา  “ยิ่งใช้ ผมยิ่งแข็งแรง” ค่ะ

แต่ข้อเสียคือ  ราคาค่อนข้างสูง แล้วก็ยังไม่ค่อยมีซาลอนในไทยที่ไหนเป็นตัวแทน OLAPLEX

 

 

 ผลลัพธ์หลังทำสีและกัดสีผมตรงปลาย 2 เดือน

 

ผ่านไป 2 เดือน ส้มมีการสไลด์ผมให้ได้รูปทรงด้วย

 ผมที่ผ่านการกัดสี 2 ครั้ง ทำสีผม  สีอาจจะจางลงไปบ้าง

แต่ที่ยังดีอยู่คือสภาพเส้นผมค่ะ  ผมส้มไม่เสียเลย ไม่มีแตกปลาย

ผมไม่แห้ง  ผมนิ่มและเป็นเงาเหมือนเดิม

 

 

_DSC5343

 

 ส่วนผลิตภัณฑ์พวกแชมพู ครีมนวด ออยล์บำรุงผม ครีมหมักผม

ที่ส้มใช้หลังจากการกัด+ทำสีครั้งนี้คือ

ใช้ Moroccanoil ทั้งเซตค่ะ ชอบมาก ใช้มา  ถ้าใครยังไม่รู้จัก

อ่านจากรีวิวนี้ได้เลยค่ะ

images (3)

 

 

 

 

ราคาและสถานที่ให้บริการ

ราคาที่ส้มทำครั้งนี้ มันจะมีทั้งทำสี ฟอกผม 2 ครั้ง และใส่ผลิตภัณฑ์ OLAPLEX ด้วย

ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพเส้นผม ความยาว ความหนาด้วยนะคะ

ดังนั้นราคาแต่ละร้านอาจจะไม่เท่ากันค่ะ ต้องให้ช่างวิเคราะห์เส้นผมอีกทีค่ะ

 

ส้มมาใช้บริการทีร้านประจำส้ม ก็คือ Montana Rich Salon

ชั้น 2 อาคาร RSU Tower (ปากซอยสุขุมวิท 31)

 

1

 

 

(ถ้ามา ฺBTS ให้ลงสถานีพร้อมพงษ์ แล้วเดินย้อนมาทางอโศก อยู่ฝั่งเดียวกับ EmQuartier)

สอบถามกับทางร้านเพิ่มเติมได้ที่

Facebook: Montana Rich Salon

โทร :  02 662 2854 (ต้องโทรจองคิวล่วงหน้าค่ะ)

 

 

สุดท้ายนี้ ขอบคุณทางร้าน Montana Rich Salon

ที่บริการดีมาโดยตลอดทุกครั้งไปแวะไป ขอบคุณมากๆค่ะ

แล้วพบกันใหม่ในรีวิวครั้งหน้าค่ะ

facebook_tv

Leave a comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Prev Post Next Post