Review : ทำสีผม Mermaid Ash ของแบรนด์ Ordeve by Milbon ที่ร้าน FAB Relation Bangkok
นี่เป็นการตัดสินใจครั้งยิ่งใหญ่ในรอบหลายปีของส้มเลยก็ว่าได้
ที่จะทำสีผม เพราะที่ผ่านมาหลายปี ส้มหยุดทำสีผมไปเลย
แล้วบำรุงผมอย่างเดียว เพราะว่าเบื่อกับการทำเคมีกับผมเยอะๆ จนผมเสียแห้งเป็นไม้กวาด
กว่าจะฟื้นฟูผมได้ก็ใช้เวลาเป็นปีเลยทีเดียว
มันเลยทำให้ไม่อยากทำสีผมอีก อีกอย่างก็ผมยาวเร็วด้วย ขี้เกียจเติมโคนประมาณนี้
แต่พอล่าสุดทางแบรนด์ Milbon ที่เป็นแบรนด์ชั้นนำจากญี่ปุ่น
ก็เชิญส้มไปลองทำสีผมใหม่ของ Ordeve ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผมของ Milbon
ซึ่งสีที่จะให้ส้มทำนั้นเป็นสี Limited สำหรับ Summer 2014
ซึ่งมีออกมา 2 เฉดสีด้วยกัน ก็คือ
Mermaid Ash สำหรับเส้นผมที่ออกโทนแดง
และ Mermaid Lavender Ash สำหรับเส้นผมที่ออกโทนเหลือง
แต่ส้มดูแล้วก็เลยเลือกสี Mermaid Ash น่าจะเข้ากับส้มมากกว่า

ตอนที่ทางแบรนด์ติดต่อมา ส้มก็หาข้อมูลเพิ่มทันที
เพราะเราเป็นคนที่กลัวทำสีแล้วผมเสีย
จริงๆก็มีหลายแบรนด์ที่ติดต่อมานะ แต่ส้มก็ปฏิเสธไปหมดเลย
เพราะยังไม่ค่อยเชื่อมั่นเท่าไหร่ นี่ก็ต้องบอกตามตรงเลย
ว่าส้มเป็นคนเลือกเยอะ อะไรที่เกี่ยวกับผม และเป็นการใช้สารเคมีนี่ เลือกมากจริงๆ
จุดเด่นของแบรนด์ Ordeve
แบรนด์ Ordeve เป็นผลิตภัณฑ์ทำสีผมภายใต้เครือ Milbon
ซึ่งแบรนด์นี้ มีชื่อเสียงมากว่า 50 ปีในญี่ปุ่น
และซาลอนในญี่ปุ่นหลายๆที่ก็ให้การยอมรับและเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ของแบรนด์นี้
โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผมของ Ordeve นี้จะมีจุดเด่น
ที่แตกต่างจากแบรนด์ทั่วไปตรงที่ เค้าจะเข้าใจเส้นผมของคนเอเชีย
ว่าคนเอเชียนั้น เส้นผมจะใหญ่กว่าผมฝรั่ง และสีจะเข้มดำ
เค้าจึงได้คิดค้นเทคโนโลยีที่เรียกว่า Inter Cellular ที่จะช่วยทำให้สีผมนั้น
ได้ซึมเข้าลึกสู่ด้านในเส้นผม โดยลดปริมาณอัลลาไลน์ (ด่าง)
ที่จะเป็นตัวทำปฏิกิริยาในการเปิดเกล็ดผมเพื่อให้เม็ดสีเข้าไป
ทำให้เกิดการทำลายเส้นผมน้อยที่สุด
บ้านเรามักจะได้ยินคำว่า “แอมโมเนีย” แต่ที่ญี่ปุ่นจะใช้คำว่า “อัลคาไลน์”
ซึ่งถ้าจะอธิบายให้เข้าใจง่ายๆนะคะ คือ
“แอมโมเนีย จะเป็นส่วนย่อยของอัลคาไลน์อีกที”
บางทีการที่ผลิตภัณฑ์นั้นๆบอกว่า ไม่มีแอมโมเนีย มันไม่ได้แปลว่า
ไม่มีสารเคมีเลย เพราะไม่เช่นนั้นแล้ว สารเคมีตัวไหนกันที่จะเข้าไปเปิดเกล็ดผม
ได้ แบรนด์อื่นเค้าก็อาจจะมีสารเคมีตัวอื่นที่ใส่เข้าไปแทนแอมโมเนียก็เป็นได้
ครั้งนี้พอได้ข้อมูลดีดีหลายอย่าง มันทำให้ส้มสนใจที่จะลองทำดู
แล้วอีกอย่าง สีผมที่เป็นสี Limited มันก็ไม่ได้ดูสว่างจนเกินไป
เพราะส้มเองก็ต้องมองงานประจำที่ทำด้วย ต้องเจอลูกค้าบ่อยๆ
การทำสีผมแรงๆคงจะไม่ค่อยเหมาะ สีนี้ถือว่าธรรมชาติอยู่พอสมควร
เวลาไม่โดนแสงก็จะเป็นสีน้ำตาลเข้มๆก็ถือว่ากำลังดี
ซึ่งทางแบรนด์ Milbon เองก็พาส้มไปลองใช้สถานที่ทำก็คือร้าน
FaB RELATION Bangkok ที่อยู่บริเวณชั้น 2 ของคอนโด Noble Remix
ถ้ามาโดย BTS ก็ให้ลงสถานีทองหล่อจะมีทางออกเชื่อมเข้าได้เลยค่ะ

ภายในร้านตกแต่งอย่างสวยงาม ดูหรูทีเดียวเชียว พนักงานก็น่ารัก
โดยช่างใหญ่และช่างมือขวา ก็จะเป็นคนญี่ปุ่น ที่มาจากสาขาที่ญี่ปุ่นโดยตรงค่ะ
ลูกค้าส่วนใหญ่เกือบ 100% ก็จะเป็นคนญี่ปุ่นล้วนๆ
คนไทยอาจจะไม่ค่อยรู้จักเท่าไหร่ นี่ก็ถือว่าเป็นการเปิดหูเปิดตาส้มด้วยเหมือนกัน

ก่อนที่จะไปดูวิธีการขั้นตอนในการทำสีผมครั้งนี้
อยากให้ได้เห็นสีผมส้มจริงๆเสียก่อน
ผมส้มจริงๆ แล้ว ไม่ใช่คนเส้นผมดำเข้มเหมือนเวลาถ่ายรูป
จริงๆแล้วผมจะออกสีน้ำตาลเข้ม ถ้าโดนแดดจะเห็นชัดค่ะ
ผมหนาและยาวมาก ตอนแรกก็แอบคิดว่า จะทำสีผมติดมั้ย
เพราะเราเป็นคนผมเส้นใหญ่ด้วย

และอย่างที่บอกไปนะคะ สีที่ส้มเลือกทำในครั้งนี้ก็คือสี Mermaid Ash
ซึ่งสีนี้จะเป็นการเพิ่มโทนสีแดงเข้าไปเล็กน้อย
เพื่อที่จะทำให้เห็นถึงความเงางามของสีม่วง และความโปร่งแสงของ
สีน้ำเงินใส จะทำให้เส้นผมดูชุ่มชื้นและส่องแสงเป็นประกายมากขึ้น
สำหรับโทนสี Mermaid Ash นั้น คุณโจ้ Technician ของ Milbon
ก็ได้เลือกสีเบอร์ 9-mAS ให้กับส้ม โดยใช้ทั้งหมด 3 กล่องด้วยกัน
เพราะผมเยอะจัด ฮ่าๆๆๆๆ

และนี่ก็คือผลิตภัณฑ์ทั้งหมดที่จะใช้วันนี้ เป็นของ Milbon หมดเลยคะ่
ส้มสะดุดตาขวดชมพูก่อนเลย แล้วรีบถามทันทีว่าคืออะไร
มันคือแชมพูและครีมนวดผมที่เหมาะกับคนทำสีผมนั่นเอง

ขั้นตอนในการทำสีผม Ordeve
เริ่มต้นจากการเลือกสีและตวงปริมาณที่ต้องใช้
ตามอัตราส่วนที่ผู้เชี่ยวชาญจะต้องผ่านการ Train มาเป็นอย่างดี
เพราะถ้าหากผสมผิดนิดเดียว ผลลัพธ์อาจจะเพี้ยนทันที
ซึ่งจะต้องผสมอัตราส่วนให้ได้ที่น้ำหนัก 79 กรัมสำหรับผมเยอะและยาวแบบส้มค่ะ
ดังนั้นแต่ละคนอาจจะไม่เหมือนกันนะจ้ะในขั้นตอนนี้

เมื่อได้อัตราส่วนที่ถูกต้องแล้ว ก็คนส่วนผสมให้เข้ากัน

จากนั้นก็เริ่มแบ่งผมเป็นส่วนๆ เพื่อสะดวกต่อการลงสีค่ะ
สังเกตว่า สีของ Ordeve นั้น ก่อนจะทำสีผม เราไม่จำเป็นต้องสระผมก่อนเลย
เพราะถ้าสระผมบ่อยๆผมมันจะเสียความชุ่มชื้น และ ผมจะแห้งด้วยค่ะ
สีของ Ordeve นี้ ไม่จำเป็นต้องสระก่อน สามารถลงสีได้เลยค่ะ

หลังจากนั้น จะเริ่มลงสี จากบริเวณด้านหลังก่อน
โดยใช้แปรงจุ่มครีมเปลี่ยนสีผม แล้วทาลงบนผมที่แบ่งเอาไว้ให้ทั่ว

สังเกตว่า ช่างจะเว้นบริเวณโคนผมเอาไว้ เพื่อลงทีหลัง
เพราะโคนผม เป็นเส้นผมที่ขึ้นใหม่ สีจะติดเร็วกว่าผมส่วนอื่น
หากลงก่อน สีผมอาจจะไม่เท่ากันได้ค่ะ

พอทาครีมเปลี่ยนสีผมจนทั่วทุกเส้นแล้ว ก็ปล่อยทิ้งเอาไว้ประมาณ 30 นาทีค่ะ

พอครบ 30 นาทีแล้ว เราก็จะทำการเติมสีที่บริเวณโคนผมที่เว้นเอาไว้ค่ะ

แล้วก็ทิ้งเอาไว้อีกแค่ 10 นาทีค่ะ
สังเกตว่าเราจะเริ่มเห็นสีผมที่เปลี่ยนไปแล้วหลังจากทิ้งผมเอาไว้


เอาล่ะ พอครบตามเวลาที่กำหนด ก็ไปสระผมได้ค่ะ
ซึ่งผลิตภัณฑ์ที่ใช้ก็เป็นของ Milbon ค่ะ
มีชื่อรุ่น Deesse’s Neu Due สูตร WillowLuxe
เป็นแชมพูที่ผสมคอลลาเจนชนิดละลายน้ำ ที่จะช่วยทำให้
เส้นผมไม่หยาบกระด้าง และรักษาความชุ่มชื้นให้กับเส้นผม

จะบอกว่า ชอบขั้นตอนสระผมของช่างญี่ปุ่นมากๆ
วันนี้หนุ่มเคน อายุ 21 ปีมาสระผมให้
ที่เด็ดมากเลยนะของร้านนี้ คือ เตียงสระผมมูลค่าสูงอยู่เหมือนกัน
เพราะเตียงสระผมเป็นระบบไฮดรอลิค นึกถึงเตียงหมอฟันอ่ะค่ะ
ปรับขึ้นปรับลงปรับเอนได้หมด และตรงบริเวณที่รองคอ
มันจะปรับขึ้นลงตามคอของเรา รับน้ำหนักได้ดีมากๆ
น้องเคน เป็นช่างจากญี่ปุ่น ที่เค้าเรียนวิธีการสระผมมาจากสถาบันจาก
ญี่ปุ่นโดยตรง บอกเลยว่า ไม่เคยสระผมที่ไหนแล้วรู้สึกสบาย
และดูพิถีพิถันใส่ใจขนาดนี้

พอล้างสีเสร็จแล้ว ก็จะใช้แชมพูสระผม
ซึ่งแชมพู Deesse’s Neu Deu นี้ กลิ่นหอมผ่อนคลายสุดๆ
น้องเคนก็สระแบบมีวิธีของเค้าจริงๆส้มก็อธิบายไม่ถูก
รู้แค่ว่า ชอบมาก มันสบายผมจริงๆ
น้ำหนักมือของน้องเค้าพอดีด้วย เคลิ้มเลยค่ะแทบจะหลับ
สระไปนวดไป สบายมากๆ ขั้นตอนนี้ใช้เวลาประมาณ 15 นาทีได้ค่ะ
พอสระผมเสร็จก็ใช้ Deesse’s Neu Due Hair Treatment
ในการนวดเส้นผมโดยเน้นปลายผม นวดทิ้งไว้ซักพักแล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น
พอทำเสร็จส้มรีบเอามือแอบจับผมก่อนเลย
ประหลาดใจ ผมนิ่มมากกกกก

จากนั้น ช่างใหญ่ คุณ Kashima Kazunori ก็ได้มาช่วยเป่าผมให้แห้งค่ะ

และด้วยความอยากลอง อยากรู้ว่าฝีมือการม้วนผมเค้าเป็นยังไง
เลยให้คุณ Kashima ลองใช้แกนม้วนผม น่าจะประมาณ 32 มม.
ม้วนผมให้เหมือนในแบบสีผมที่ส้มได้เลือกทำดู
ขั้นตอนนี้นะ ส้มดูตลอดเลยว่าเค้าม้วนยังไง มีเทคนิคยังไง
ซึ่งยอมรับเลย เทคนิคแพรวพราวมากๆ วิธีการม้วนของเค้านี่
เป็นสไตล์ญี่ปุ่นจริงๆ มีม้วนเข้านิดนึง แล้วก็ม้วนออก แล้วก็ม้วนเข้า
อธิบายไม่ถูกจริงๆ ต้องไปลองให้เค้าม้วนผมดูค่ะ

พอม้วนเสร็จ ส้มจับผมดู ยังกะตัวเองใส่ hair piece
เพราะว่าผมมันดูพอง อลังการ แบบตุ๊กตามากๆ
เก่งมาก ม้วนได้ไงเนี่ย ยังคงอึ้งอยู่นะส้ม ฮ่าๆๆ
คือมันสวยมากอ่ะ ชอบมากเลย ม้วนแบบนี้เป็นศาสตร์ที่ต้องศึกษาเพิ่มจริงๆ

และนี่ก็คือสีผมที่ได้จ้า
สีสวยมาก ออกน้ำตาลหม่นๆ นึกถึงผมเวลาอยู่ใต้น้ำทะเล
นึกถึงนางเงือก กำลังแหวกว่ายอยู่ในดงสาหร่ายทะเล ฮ่าๆๆๆๆ (มโนซะ)
แต่ถ้าโดนแสง ก็จะเป็นประกายน้ำตาลออกแดงนิดนึง
ผมนิ่มมาก เป็นประกายเงา สีผมสม่ำเสมอกันทั้งหัวเลย
ประทับใจมาก ไม่เคยทำสีผมแล้วผมนิ่มขนาดนี้
สังเกตปลายผมดูง่ายๆเลยค่ะ ไม่มีสภาพผมที่แห้งเลยแม้แต่นิดเดียว
ผมแลดูสุขภาพดีด้วยซ้ำ เริ่ดมาก

เทียบให้ได้ดูกันชัด ก่อนและหลังทำสีผม

เทียบสีกับสีจากในรูป

สรุปคือ ชอบมากประทับใจมากกับการทำสีผม Ordeve ครั้งนี้ค่ะ
ผมนิ่มยังกับทำทรีทเม้นท์ผมมา สีผมสวย
ผมชุ่มชื้นและเป็นประกายเงางาม สวยมาก
ส่วนบริการที่ร้านก็ประทับใจมากๆ อยากให้ทุกคนได้มาลอง
สระผมที่นี่ มันเริ่ดมากจริงๆ

ราคาและสถานที่ทำผม
ทำสีผม Ordeve สำหรับผมยาวถึงกลางหลังแบบส้ม 3,100 บาท
ผมยาวประบ่า 2,800 บาท และผมสั้น 2,400 บาทค่ะ
อยู่ชั้น 2 Noble Remix ออก BTS ทองหล่อถึงเลยค่ะ
สอบถามรายละเอียดผลิตภัณฑ์ Milbon ได้ที่
สุดท้ายนี้ ส้มก็ต้องขอขอบคุณทางแบรนด์ Milbon และ Fab Relation Bangkok
ที่เชิญส้มมาทำสีผมในครั้งนี้ด้วยนะคะ

สำหรับวิธีการดูแลเส้นผมหลังจากการทำสีผมของส้ม ก็คือจะใช้ผลิตภัณฑ์ของ Milbon
ทั้งแชมพู ครีมนวดผม และ น้ำมันใส่ผม
เพราะในความคิดส้ม เวลาถ้าจะทำสีผมของยี่ห้ออะไรก็แล้วแต่ ควรจะใช้ผลิตภัณฑ์ของแบรนด์นั้นๆเพราะเค้าคงคิดสูตรที่เหมาะสมกับสีที่เค้าใช้ มันน่าจะเป็นการบำรุงผมได้ดีกว่าเหมือนกับเข้าใจสภาพเส้นผมหลังทำสีมากกว่า ประมาณนั้น ซึ่งส้มก็ได้ใช้ทั้งเซตของ Milbon เลยค่ะ คลิกอ่านเพิ่มเติมได้ที่รูปด้านล่างนี้เลยค่ะ
สำหรับเดือนสิงหาคมนี้ ทางร้าน Fab Relation Bangkok
ได้จัดโปรโมชั่นพิเศษ สำหรับแฟนเพจส้มนะคะ
เฉพาะวันนี้ถึง 31 สิงหาคม 2557 เท่านั้น
⁞
Sponsored By:
Milbon Thailand , Fab Relation Bangkok, Global Style Trading