Review : กล้อง Selfie รุ่นใหม่จาก Nikon Coolpix S6900 สีชมพูสุดจี๊ด

ใครชอบถ่ายรูป Selfie ยกมือขึ้น ????

ส้มนี่ยก 2 มือเลย  และเชื่อว่าสาวๆหลายคนต้องเป็นแน่นอน

วันนี้เลยเอากล้อง NIKON ตัวใหม่มารีวิวให้ได้ดูกัน

เพราะว่าเป็นกล้องที่เหมาะกับการ Selfie มากๆๆๆๆๆๆๆ

แถมยังพร้อมอัพโหลดขึ้น Social Network ได้ทันที เริ่ดมั้ยล่ะ!

 

เอ้ามาดูกันเลยนะจ้ะ กับกล้องที่มีชื่อรุ่นว่า

NIKON Coolpix S6900

เป็นกล้องที่เค้ามีคำนิยามว่า

“Selfie ช็อตเดียวอยู่” “ถ่ายปุ๊ป แต่งปั๊บ อัพโหลดได้เลย”

กล้องคูลพิกซ์ S6900   มีความละเอียดสูงถึง 16 ล้านพิกเซล

ออกแบบให้ใช้งานง่ายที่สุด และสามารถถ่ายภาพ Self-Portrait ที่มีความละเอียดคมชัด

มากกว่าภาพที่ถ่ายจากโทรศัพท์มือถือทั่วไป ด้วยจอภาพ LCD บิดพับปรับองศาได้

ปุ่มลั่นชัตเตอร์ด้านหน้า รวมถึงเทคโนโลยีไร้สาย NFC และ Wi-Fi®

ที่สามารถแชร์รูปภาพที่ถ่ายสู่โลก Social Network ได้อย่างง่ายดาย

 

คุณสมบัติหลักของกล้องคูลพิกซ์รุ่น S6900 

 

หน้าจอ LCD มีขนาด 3 นิ้ว ที่สามารถบิดพับได ทำให้เก็บภาพได้หลายมุมมอง

ภาพที่ถ่ายออกมาจะมีความละเอียดสูงถึง 16 ล้านพิกเซล มีเซ็นเซอร์ CMOS ทำให้รับแสงได้เต็มที่

แถมยังสามารถถ่ายภาพเคลื่อนไหวแบบ Full HD คมชัดสุดๆ เวลาถ่ายภาพนิ่งก็

จะมีระบบ Auto Focus ช่วยทำให้กล้องจับภาพได้ง่าย และก็คมชัดมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้

สำหรับคนที่ชอบถ่าย Self-Portrait นะคะกล้องตัวนี้ออกแบบมาให้มีขาตั้งไว้ในตัวกล้อง

ที่สามารถปรับได้ทั้งแนวนอนและแนวตั้ง

นอกจากนี้ ยังออกแบบเอาใจคนยุค IT โดยที่เราสามารถที่จะแชร์ภาพที่ถ่ายผ่าน

 Social Media ด้วยระบบ Wifi ที่ทำให้การแชร์ภาพเป็นไปอย่างง่ายขึ้น หรือ

 อาจจะเชื่อมต่อด้วยระบบ NFC แค่เพียงนำกล้องไปสัมผัสกับ อุปกรณ์ Smart Device

 ที่รองรับเทคโนโลยี NFC ก็สามารถโอนภาพได้อย่างรวดเร็ว

เอาล่ะ  เดี๋ยวเรามาดูหน้าตากล้องกันแบบใกล้ๆกันดีกว่านะคะ

ลักษณะของกล้องก็เล็กๆกะทัดรัด  ส้มได้สีชมพูมาลองใช้

แค่สีก็ชนะเลิศแล้วจ้า สีโปรด ^_^

 

ลองเอาวางบนมือให้ดู จะได้เห็นว่าขนาดมันเล็กกะทัดรัดมากค่ะ ยังไม่เต็มมือเลย

สำหรับผู้หญิงก็ถือว่า สะดวกในการพกพามากๆค่ะ

สามารถใส่กล้องเอาไว้ใส่ตรงช่องใส่มือถือในกระเป๋าถือได้เลยค่ะ

 

และแน่นอนค่ะ ในเมื่อเป็นกล้อง Selfie หน้าจอ LCD ขนาด 3”

สามารถปรับขึ้นมาได้ 180 องศาเลย จะได้สะดวกในการถ่ายรูปตัวเอง

 

เท่านั้นยังไม่พอนะคะ เอาใจสาวๆที่ชอบถ่าย Portrait แบบเต็มตัวด้วยตัวเอง

กล้องรุ่นนี้มีขาตั้งกล้องติดมากับตัวกล้องด้วย  จะได้ถ่ายทั้งแบบแนวตั้งแนวนอนก็ได้

 

เมื่อดึงขาตั้งกล้องออกมา แล้ววางบนพื้นราบ เช่นวางตรงพื้น

ก็จะตั้งได้แบบนี้ค่ะ

 

ส้มก็เลยลองถ่ายรูปดู ก็ออกมาเป็นแบบนี้จ้า

มุมเชิดๆแบบนี้ จะทำให้เราดูสูง ขายาว ^_^

 

ส่วนตัวเครื่องนั้น ตรงด้านบนของกล้อง ก็จะมีปุ่มหลายปุ่ม

ซึ่งปุ่มเปิด/ปิด (on/off) ก็จะอยู่บนนี้เหมือนกัน

และที่ส้มชอบคือ มันมีปุ่มเมนูลัด ในส่วนของ Wifi ด้วย

จะได้ส่งรูปจากกล้องเข้ามือถือได้ง่ายขึ้น

รวมทั้งมีปุ่ม shutter เวลากดถ่ายรูป และสามารถ Zoom เข้าออกได้

และมีปุ่มถ่ายวีดีโอ ที่มีกลมๆแดงๆอยู่ด้านขวามือสุด

เรียกได้ว่า เมนูด้านบนกล้องนี้ ก็ครบทุกอย่างที่เป็นเมนูหลักเลยค่ะ

 

และที่เป็นจุดเด่น ซึ่งส้มมองว่าเป็นข้อดีเลยก็คือ

ปุ่ม Shutter อยู่ด้านหน้าด้วย เวลาถ่าย Selfie จะได้สะดวก กดจากด้านหน้าได้ง่ายเลย

ดังนั้นกล้องตัวนี้ก็จะมีปุ่ม Shutter อยู่ 2 จุดตามรูปด้านล่างค่ะ

 

ส่วนฐานกล้องนั้น ก็จะเป็นที่เก็บแบตเตอรี่ และ ช่องใส่ memory card ค่ะ

 

เวลาเปิดเครื่องมา ก็จะมี Display เมนูต่างๆขึ้นหน้าจอตามรูปด้านล่างค่ะ

เราสามารถ Touch Screen เพื่อสั่งการได้เลย

 

ในส่วนของ Shooting Mode นั้นก็มีหลาย Mode ให้เราได้เลือกตามใจชอบ

ซึ่งหลักๆจะมีทั้งหมด 6 Mode คือ

Scene Auto Selector, Scene, Special Effects,

Smart Portrait, Glamour Mode และ Auto Mode

 

 

ส้มขอเลือก Glamour Mode มาลองถ่ายก่อนเลย เพราะว่ามันคือโหมดถ่ายภาพฟรุ๊งฟริ๊ง

 

 

ซึ่งใน Glamour Mode นี้  เราสามารถที่จะปรับความ Soft ของภาพ

สามารถเติมแป้งให้หน้าเนียน ปรับความฟุ้งของภาพ

หรือแม้แต่ปรับความเข้มของสีได้ ซึ่งสามารถปรับได้ถึงระดับ 5 สูงสุดเลย

ซึ่งตรงนี้ก็เป็นจุดเด่นของกล้องตัวนี้อีกอย่างนึงที่ส้มว่ากล้องตัวอื่นจะยังไม่มีค่ะ

ซึ่งส้มปรับ Mode ทุกอย่างเอาไว้ที่ระดับ 1 ซึ่งส้มว่ามันจะได้ไม่ดูฟรุ๊งฟริ๊งจนเกินไป

ถ้าหากถ่ายออกมาแล้วก็จะได้ภาพประมาณนี้ค่ะ

แล้วก็รู้สึกว่าถ่ายออกมาได้มุมที่ค่อนข้างกว้างด้วย ขนาดแนวตั้งยัง

สามารถถ่ายตัวส้มเองและเห็นบ้านเกือนทั้งหลังเลยทีเดียว

 

ใน Shooting Mode ถ้าเราเลือก Glamour Mode

อันนี้จะเป็นโหมดฟรุ๊งฟริ๊ง เราสามารถที่จะทำภาพแบ่งเป็นช่องๆได้

หรือที่เราเรียกกันว่า “Collage” ค่ะ

 

ก็คือ กดปุ่มตามรูปที่ส้มวงกลมเอาไว้ด้านซ้ายบน

จากนั้นก็กดปุ่ม OK

แล้วกล้องมันก็จะนับเวลาอัตโนมัติ 3…2…1 ให้เรา Action ถ่ายรูปได้เลย

 

และพอถ่ายครบ 4 รูปตามช่องที่เราเลือกเอาไว้แล้ว

ก็จะออกมาเป็นแบบนี้ให้เราอัตโนมัติเลยค่ะ สะดวกมากๆ

และนอกจากนี้ ถ้าสังเกตจากรูปด้านล่าง มุมขวาบน ที่เป็นสัญลักษณ์รูปพู่กัน

ถ้าเรากดตรง icon นั้น ก็จะสามารถปรับแต่งรูปเป็นสีต่างๆได้ค่ะ

ใครชอบแต่งสีรูปนะ ต้องชอบโหมดนี้แน่ๆ

 

ซึ่งมันจะเป็น Quick Effects Mode นั่นเองค่ะ

ซึ่งจะมีโทนสีต่างๆให้เราได้เลือกเล่นได้ถึง 16 โทนด้วยกัน

สนุกเลยทีนี้ ^_^

จุดเด่นอีกอย่างของกล้องตัวนี้ก็คือ มี Wifi ในตัว

สามารถโอนถ่ายภาพเข้าสู่ Smart Phone ได้ง่ายมากยิ่งขึ้น

เพียงกดปุ่มตั้งค่าที่ตัวกล้องเพื่อเชื่อมต่อแบบไร้สายกับสมาร์ทโฟนและ

แทบเล็ตที่ติดตั้งแอพพลิเคชั่น Wireless Mobile Utility ก่อน

ซึ่งสามารถดาวน์โหลดฟรี ทั้งในระบบ AndroidTM และ  iOs

ซึ่งหน้าตา Application ก็จะเป็นแบบตามรูปด้านล่างนี้ค่ะ

เมื่อเราได้ทำการ Download Application เรียบร้อยแล้ว

เราก็มาเลือกเมนูที่หน้าจอของกล้อง เพื่อเข้าสู่ Wi-Fi Options

 

จากนั้นก็เปิด Application ขึ้นมา

 

จากนั้นก็เปิด Settings ใน Smart Phone ของเรา

เพื่อเลือกชื่อ Wifi ให้ตรงกับกล้อง

ซึ่งกล้องตัวนี้ก็จะมีชื่อ Wifi ว่า NikonS690075001110 ตามรูปด้านล่างนี้

ทำการ connect wifi ให้เรียบร้อย

จากนั้นเราก็สามารถที่จะกดเลือกภาพที่ต้องการ Sync ให้เข้าสู่มือถือ

โดยการเลือกภาพจากหน้าจอของกล้อง  หรือ จะเลือกจาก application บนมือถือก็ได้ค่ะ

แต่อย่างขั้นตอนที่จะทำให้ดูนั้น ก็คือ จะเป็นการเลือกภาพจากตัวกล้องค่ะ

 

พอเราเลือกรูปได้แล้ว  รูปภาพทั้งหมดที่เลือกไว้ ก็จะถูก download เข้าสู่มือถือของเรา

ซึ่งเราสามารถดูรูปภาพที่เราได้เลือกเอาไว้ ในมือถือตรง Latest Downloads ได้เลยค่ะ

เพียงเท่านี้ รูปภาพก็มาอยู่ในมือถือของเรา ให้เราได้แชร์และอัพขึ้นสู่ Social Media

ได้อย่างง่ายดายและรวดเร็วอีกด้วย

 

นับว่าเป็นกล้อง Selfie ที่ไม่ใช่เพียงแค่สามารถถ่ายภาพให้ฟรุ๊งฟริ๊งเพียงอย่างเดียว

แต่สามารถถ่ายภาพทั่วไปได้อย่างสวยงาม และ คมชัด ตามสไตล์ Nikon อีกด้วย

 

ส้มว่ากล้องรุ่นนี้คุ้มค่าแก่การลงทุน เพราะราคาไม่ถึงหมื่นบาท

แต่ได้ค่อนข้างครบ สำหรับคนที่ชอบถ่าย selfie ชอบแต่งภาพ

และต้องการความรวดเร็วในการโอนถ่ายภาพเข้าสู่ Smartphone

และยังเอาไว้พกพาเอาไว้ถ่ายภาพวิวสวยๆ ที่ต้องการสีที่คมชัดได้อีกด้วย

ยังไงก็อาจจะลองไปสัมผัสของจริง ไปลองเล่นดูก่อนที่ตัวแทนจำหน่าย Nikon ทั่วประเทศนะคะ

  ส้มเอามารีวิวเพื่อเป็นแนวทางเลือกกล้องดีดีให้ได้ตัดสินใจก่อนที่จะซื้อค่ะ

ราคาและสถานที่จัดจำหน่าย

 

ราคากล้องอยู่ที่ 9,900 บาท

สามารถหาซื้อที่ตัวแทนจำหน่าย Nikon ทั่วประเทศไทย

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาไปที่ www.nikon.co.th

หรือติดตามข่าวสารและกิจกรรมของ Nikon

ได้ที่  https://www.facebook.com/nikonthailand

สุดท้ายนี้ ส้มก็ต้องขอขอบคุณทาง Nikon Thailand

ที่ได้ให้กล้องมาให้ส้มได้ทดลองใช้งานด้วยนะคะ

แล้วพบกันใหม่ในรีวิวครั้งหน้าค่ะ

Sponsored by : NIKON Thailand