Review : แป้งผสมรองพื้น 2 Way Total Effect 7 in 1 จากแบรนด์น้องใหม่ LaPhie Cosmics

June 18, 2014

 

วันนี้จะมารีวิวแป้งของแบรนด์ Laphie ที่ทางพี่สาวของส้มส่งมาให้ได้ลองใช้นะคะ

กับ แป้ง 2 ways Total Effect 7 in 1


 

คำเคลมจากทางแบรนด์

เป็นสูตรผสมรองพื้น แต่บางเบา กันน้ำ และกันเหงื่อได้อย่างมีประสิทธิภาพ

รวมทั้ง  7 คุณประโยชน์ดังนี้

 

1.ป้องกัน UV

2.มีโปรตีนใยไหม ลดริ้วรอย และริ้วรอยเดิมตื้นขึ้น

3.หน้าขาวกระจ่างใส ด้วยสารสกัดชะเอมเทศ

4.ควบคุมความมันด้วย silica ขนาดกลมมีรูพรุน ดูดซับความมัน

5.มีวิตามิน C,E เป็นสาร antioxidant ช่วยต่อต้าน

อนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นสาเหตุของความแก่

6.มีสารสกัดจากเมล็ดองุ่น ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น

7.Soft focus ช่วยสะท้อนแสง อำพรางผิวไม่เรียบ

ลักษณะของผลิตภัณฑ์

แป้งรุ่นนี้ มีออกมาทั้งหมด 4 สีด้วยกันค่ะ

มาในกล่องสีขาวเรียบๆ มีโลโก้ด้านหน้า


ด้านหลังกล่อง จะมีคุณสมบัติเป็นภาษาไทยและอังกฤษ

พร้อมเลขที่อย. และ เบอร์ของสีแป้งค่ะ


พอแกะกล่องออกมา จะพบว่าแป้งมาในรูปของตลับสีดำ มีโลโก้สกรีนบนหน้าตลับ

ขนาดของตลับเท่ากับตลับแป้ง MAC เลยค่ะ รูปทรงเดียวกันเลย


เปิดตลับออกมา จะมี 2 ชั้น โดยแยกชั้นที่เป็นแป้งกับพัฟฟ์ค่ะ


แป้งทั้งหมดที่ส้มได้มาคือมี 4 สีด้วยกัน

โดย 2 อันแรก จะเป็น สีเบอร์ 1 สำหรับผิวขาว สีเบอร์ 2 สำหรับผิวสองสี


 

ลักษณะของเนื้อแป้ง

เป็นเนื้อแป้งผสมรองพื้น แต่ให้ความรู้สึกเหมือนแป้งฝุ่นอัดแข็ง

เม็ดสีละเอียดดีพอประมาณ  แต่ทาแล้วยังปกปิดได้ไม่ละเอียดมากนัก

เพราะรู้สึกว่าเนื้อแป้งค่อนข้างบางและเบาค่ะ

หากใครที่ผิวดีอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องทารองพื้นก็ได้ แค่แป้งตัวเดียวนี้ก็อยู่

แต่ถ้าใครมีรอยจุดด่างดำ หรือ รอยสิวก็อาจจะต้องใช้รองพื้น

ตามด้วยคอนซีลเลอร์ก่อนที่จะลงแป้งตัวนี้ค่ะ

 

ความรู้สึกหลังทดลองใช้แป้งเบอร์ 1 และเบอร์ 2

 

ส่วนตัวส้มใช้สีแป้งเบอร์ 1 จะเข้ากับสีผิวได้ดี หากเบอร์ 2 จะเข้มเกินไป

แต่สีเบอร์ 1 ตอนทาได้ประมาณ 3-4 ชม.หน้าก็ยังดูเนียนดี

แต่ว่าหลังจากนั้น ผิวจะเริ่มดูเทาๆค่ะ 

ก็เลยยังไม่คิดว่าสีแป้งยังไม่ค่อยเหมาะกับสีผิวส้มเอง

แต่จุดเด่นของแป้งตัวนี้เลยนะคะ คุมมันได้ดีเลยทีเดียว

หน้าไม่ค่อยมันระหว่างวันค่ะ

ส้มก็เลยหันมาทดลองใช้อีกตัวนึง ซึ่งก็เป็นแป้งผสมรองพื้นเช่นเดียวกัน

แต่ตัวนี้จะผสมทองคำด้วย เนื้อแป้งจะเป็นแบบในรูปนี้ค่ะ

 

แป้งผสมรองพื้นสูตรทองคำ

 

เนื้อแป้งจะบางเบาเหมือนกับแป้งเบอร์ 1 และ 2 ที่รีวิวเอาไว้ข้างต้น

แต่ข้อดีของตัวนี้ที่ส้มชอบคือ เนื้อแป้งละเอียด และ เนียนมากกว่า

เม็ดสีชัดเจนมากกว่า และที่สำคัญมีทองคำผสม

ซึ่งจะช่วยปรับให้ผิวดูผ่อง และ เนียนมากกว่าเดิม

แถมยังช่วยคุมความมันได้อีกด้วย

แต่ระหว่างวัน ก็อาจจะมีหลุดบ้างเพราะอากาศช่วงนี้ร้อนมาก

เหงื่อออกก็จะต้องเติมเพิ่ม  ส่วนตัวส้มจะเติมช่วงบ่ายแค่ 1 ครั้งก็พอค่ะ

จากรูปจะเห็นได้อย่างชัดเลยค่ะว่า แป้งนี้ช่วยปรับผิวให้เนียนและผ่องจริงๆ

เลยชอบแป้งตัวนี้มากๆ ชอบมากกว่า 2 ตัวแรกที่รีวิวไปอีกค่ะ


และมาถึงแป้งตัวสุดท้าย  นั่นก็คือแป้งสีชมพูสำหรับไฮไลท์ใบหน้านั่นเอง

มาในตลับเช่นเดียวกันค่ะ

 

สำหรับแป้งสีชมพูนี้นั้น เนื้อแป้งคล้ายแป้งฝุ่นอัดแข็ง

แต่เนื้อแป้งละเอียดดีค่ะ สีชมพูที่เห็นจากตลับนั้น

เวลาทาออกมาจริงๆแล้ว จะออกขาวชมพูค่ะ 

ไม่มีออกสีชัดเจนเหมือนเวลาที่ดูจากสีแป้งในตลับ


อย่างในรูปด้านล่างนี้

ทางซ้ายมือของรูป ส้มทาแป้งตัวนี้หลายๆรอบเพื่อให้เห็นเนื้อสีชัดเจน

สังเกตได้เลยว่าจะดูขาวมากๆ แต่พอทาแค่ 1-2 รอบ

มันจะออกขาวอมชมพูหน่อยๆ ตัวนี้จะไม่มีชิมเมอร์ผสมนะคะ

เรียกได้ว่าเหมาะกับการเอามาเป็นไฮไลท์แบบเนื้อแมทท์ค่ะ


 

คำแนะนำ

สำหรับแป้งสีชมพูนี้  เหมาะสำหรับคนที่ผิวขาวอมชมพู หรือ ขาวมากๆ

 สามารถใช้ทาทั่วหน้าได้เลย จะช่วยปรับสีผิวหน้าให้กระจ่างใสขึ้น

แต่สำหรับคนที่ผิวออกเหลืองนั้น ส้มแนะนำให้เอามาเป็นแป้งไฮไลท์ตามจุดต่างๆ

บนใบหน้าจะเหมาะกว่าค่ะ เช่น ไฮไลท์บริเวณส้นจมูก

คาง โหนกแก้มเป็นต้น จะทำให้หน้าดูสว่างดูมีออร่าค่ะ

ซึ่งส้มเองก็นำมาใช้ทาตามบริเวณจุดต่างๆบนใบหน้าเพื่อให้ดู glow มากยิ่งขึ้น


อย่างในรูปด้านล่างนี้ ส้มเอามาทาเฉพาะบริเวณโหนกแก้ม

คาง หน้าผาก และ สันจมูกค่ะ

สังเกตว่า แป้งนี้จะปรับให้ผิวเราดูสุขภาพดี ดู Glow มากขึ้น

ดูแสงเงาบนใบหน้า เพิ่มจุดเด่นให้ใบหน้าของเราค่ะ


 

ราคาและสถานที่ซื้อ

แป้งทั้ง 4 แบบนี้ มีขนาด 15.5 g ราคา 490 บาท

ซื้อได้ทาง Facebook: Laphie Cosmics 

 

สุดท้ายนี้ ขอขอบคุณทุกคนที่ติดตามอ่านรีวิวนี้นะคะ

และขอบคุณทางพี่สาวคนสวยทั้งส่งผลิตภัณฑ์ดีดีมาให้ใช้ด้วยนะคะ

 

แล้วพบกันใหม่ในรีวิวครั้งหน้าค่ะ

 

Sponsored By

 

LaPhie Cosmics

 

Leave a comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Prev Post Next Post