Review: รองพื้นรุ่น Lightbulb ปรับสูตรใหม่ มาพร้อมแปรงและ cushion จาก SHU UEMURA

September 12, 2018

ครั้งที่แล้ว ส้มได้รีวิวรองพื้นรุ่น The Lightbulb ของ SHU UEMURA  ไป

และล่าสุด SHU ก็ได้ปรับสูตรใหม่ของรองพื้นรุ่น The Light Bulb นี้ใหม่ (รุ่นเก่าก็จะไม่มีขายแล้ว)

 มาพร้อมกับแปรง และ cushion ด้วย  ส้มได้ลองใช้แล้วชอบเนื้อสัมผัสมากๆ ตื่นเต้นเลยต้องเอามารีวิวให้ได้ดูกัน

 

 

SHU UEMURA The Lightbulb Fluid Foundation

ข้อมูลผลิตภัณฑ์

ใหม่ลิควิดรองพื้นในรูปแบบเอสเซ็นเชียล-ออยล์-อิน-ฟาวน์เดชั่นสูตรแรก

น้ำมันจากพืชสมุนไพรล้ำค่า 5 ชนิดรวมกันเป็นสูตรผสม 1 สูตรที่อ่อนโยน

ดูแลผิวอย่างมีประสิทธิภาพ และให้ความรู้สึกผ่อนคลาย สูตรผสมแบบ “เอสเซ็นเชียล-ออยล์-อิน

นี้ให้ความรู้สึกชุ่มชื่นเต็มเปี่ยมพร้อมมอบการปกปิดที่ดูเป็นธรรมชาติซึ่งห่อหุ้มผิวไว้ด้วยความละมุนละไม ทันทีที่ใช้

ผิวของคุณจะแลดูเปล่งปลั่ง ผ่องใส สุขภาพดี และหลังจากใช้เป็นประจำต่อเนื่อง 2 สัปดาห์

แม้ไม่แต่งหน้า ผิวเปล่าของคุณก็ยังคงดูเรียบเนียนกว่าเดิมและมีสุขภาพดีขึ้น

รองพื้นสูตรนี้ยังทรงประสิทธิภาพในการป้องกันทั้งรังสียูวีเอ/ยูวีบีและฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน (PM2.5) อีกด้วย

เพื่อทำหน้าที่เป็นเสมือนปราการคอยคุ้มกันผิวคุณจากปัจจัยคุกคามในเมืองใหญ่เป็นประจำทุกวัน

 

 

ลักษณะของผลิตภัณฑ์

 

เนื้อรองพื้นรุ่นนี้ จะเป็นเนื้อลิควิดค่ะ เนื้อนุ่ม ลื่น เพราะตัวนี้จะเป็นสูตร Oil In  ก็คือมีออยล์เป็นส่วนผสม

ทำให้เนื้อรองพื้นเกลี่ยได้ง่าย แล้วก็ยังให้ความรู้สึกชุ่มชื้นตอนทาด้วยค่ะ

ลุคที่ได้จะไม่แมทท์ แต่จะมีความฉ่ำน้ำ ดูเป็นผิวสุขภาพดี

มาพร้อมกับสารกันแดด SPF 25 PA+++

 

ทีนี้ ในการเลือกเฉดสีรองพื้นของ SHU UEMURA เนี่ย

เค้าก็จะมีสูตรของเค้า ถ้าสังเกต เค้าจะมีเลขอยู่ 3  ตัวด้วยกัน

อย่างสีรองพื้นที่ส้มเลือกมาก็คือเบอร์ “764″ Medium Light Beige

ซึ่งก็จะมาจากระบบเฉดสีที่เรียกว่า HVC ของ Shu เค้าเลย (ดูจากรูปด้านล่างนี้ได้เลยค่ะ)

ยกตัวอย่างของส้ม เบอร์ 764

เลขตัวแรกของส้มคือ 7 ก็หมายถึง Hue = สีผิวออกเหลืองหรือชมพู ซึ่งส้มเลือกเบอร์  7 เพราะผิวเหลืองมาก

เลขตรงกลางของส้ม ก็คือ 6 ก็หมายถึง Value = สีผิวของเราสว่างหรือเข้มมากน้อยแค่ไหน

ส้มเลือกเบอร์ 6 ก็คือไม่ได้เป็นคนที่ผิวขาวมาก แต่ก็ไม่ได้ถึงกับเข้มมากนัก

เลขท้ายสุดของส้ม คือ 4 ก็หมายถึง  Chroma = ความเข้มของสี 

 

 

ซึ่งการใช้รองพื้นแบบลิควิดแบบนี้ แนะนำให้ใช้คู่กับแปรงของ SHU ที่มาพร้อมกัน

มันเป็นแปรงที่อัดแน่นด้วยขนสังเคราะห์ หลายแสนเส้น จับถนัดมือด้วยค่ะ

แล้วมันเป็นแปรงที่ช่วยทำให้การเกลี่ยรองพื้นเป็นไปอย่างง่ายดายมากขึ้น ใช้เวลาเร็วขึ้นด้วย

วิธีใช้

ส้มจะปั๊มรองพื้นออกมา 1 ปั๊มค่ะ จากนั้นใช้แปรงด้านนึง

แต้มรองพื้นขึ้นมา แล้วก็ค่อยๆ ปาดลงบนผิว เกลี่ยเป็น stroke สั้นๆ

แล้วก็วนให้ทั่วหน้า

 

 

และนี่คือผลหลังการใช้ ซึ่งส้มใช้แค่เพียง 1 ปั๊มเท่านั้นค่ะ

สังเกตได้เลยว่า พวกรอยแดงจะจางลง ผิวโดยรวมดูละเอียดขึ้น

แต่ถ้าหากเราต้องการปกปิดมากขึ้น ก็เพิ่มปริมาณรองพื้นที่ใช้ได้ค่ะ มันจะ buildable ได้อีก

เนื้อรองพื้นเกลี่ยง่าย แล้วเหมือนมันให้ความรู้สึกว่า รองพื้นซึมเข้าผิว

อาจจะเพราะมีออยล์ผสมด้วย มันรู้สึกว่าผิวนุ่มชุ่มชื้นไม่แห้ง

ผิวดูสุขภาพดีแล้วก็ไม่รู้สึกหนักหน้า เบาสบายผิว แบบ ผิวยังหายใจได้อยู่

และสีจะไม่ดร๊อป หรือเทาระหว่างวันด้วยนะคะ

โดยรวมส้มว่า สูตรใหม่มันจะไม่ฉ่ำวาวมากเท่าตัวเดิม

แต่มันจะทำให้ผิวดูเป็นผิวที่สวยเป็นธรรมชาติ คือ กำลังดีเลยค่ะ

คนที่ผิวธรรมดา ผิวผสม ผิวแห้ง น่าจะชอบเลยทีเดียว

เพราะส้มทาเดี่ยวๆ ไม่ลงแป้งเลย ผิวเนียนสวยทั้งวันเลย

ส่วนผิวมันก็อาจจะต้องใช้แป้งฝุ่นปัดทับตามหลังอีกทีนะคะ

 

 

ถัดมา นอกจากจะมีรองพื้นสูตร Lightbulb แล้ว SHU ก็ออก cushion ออกมาด้วย

เอาไว้พกพา หรือจะใช้เดี่ยวๆ หรือทาทับรองพื้นอีกทีก็ได้

เพื่อเพิ่มระดับความปกปิด และ เนียนมากย่ิงขึ้น

 

SHU UEMURA The Lightbulb Fluid Foundation 

 

ซึ่งมันก็คือการเอารองพื้น lightbulb  มาใส่ตลับคูชั่นนั่นเอง

ซึ่งส้มก็เลือกสี 764 เหมือนตัวรองพื้นเลยค่ะ

ตลับรุ่นนี้ดีไซน์มาแบบ galaxy สวยหรูมาก

 

เวลาใช้ก็กดพัฟฟ์ลงบนหน้าฟองน้ำเบาๆ ก็พอนะคะ

เพราะพัฟฟ์ก็จะไปดูดเอารองพื้นขึ้นมาเยอะเลย

ซึ่งแนะนำว่า การใช้คูชั่น ควรจะใช้ทีละนิด แล้วค่อยเพิ่มทีหลังเอา

 

 

 

ซึ่งใช้งานง่ายมาก แตะนิดเดียว แล้วก็มากดเบาๆ ให้ทั่วหน้า มันก็จะช่วยอำพรางรอยแดงบนหน้า

  ริ้วรอยต่างๆ แล้วก็ทำให้ผิวดูเนียน สุขภาพดีขึ้น และยิ่งทาเพิ่ม ยิ่งปกปิดมากขึ้น ในรูปคือ

ส้มทาบางๆ ให้ได้ดูรอบเดียวว่า มันยังคงให้ผิวยังคงเป็นผิวอยู่ ไม่ได้ดูโบ๊ะจนเกินไป

 

 

 

 

และเราสามารถทาคูชั่น ทับรองพื้น ก็ได้เช่นกันค่ะ

เผื่อแบบ ออกไปข้างนอก ไม่อยากพกแป้ง อยากให้ผิวดูฉ่ำสุขภาพดี ก็ใช้คูชั่น กดทับระหว่างวันได้

ซึ่งมันก็จะทำให้ระดับการปกปิดเพิ่มมากขึ้น แต่ค่อยๆ แตะทีละน้อยนะคะ

เพราะถ้าใช้พัฟฟ์กดออกมาเยอะ มันจะดูโบ๊ะจนเกินไปได้ค่ะ

 

 

ข้อดีของ คูชั่นรุ่นนี้คือ สะดวกพกพา แล้วก็ช่วยเพิ่มการปกปิดได้ เนื้อเนียนมากๆ

ใช้ระหว่างวันได้ โดยไม่ทำให้ผิวเป็นคราบ ถ้าเราเลือกสีเดียวกับรองพื้นจะยิ่งเข้ากัน สีไม่ดร๊อปค่ะ

ที่สำคัญ มาพร้อมกับสารกันแดด SPF40 PA+++

ซึ่งเหมาะมากๆ หากเราต้องการทากันแดดระหว่างวัน ก็ใช้คูชั่นตัวนี้ได้เลย

 

 

ต้องบอกเลยว่า  ทั้งรองพื้น และ คูชั่น รุ่น LightBulb นี้ ส้มชอบมากๆๆๆ

เพราะเป็นคนผิวผสม ค่อนแห้ง (ด้วยอายุที่มากขึ้น ฮ่าๆๆ) เนื่องจากรองพื้นตัวนี้

เค้าผสมออยล์จากธรรมชาติหลายตัว มันทำให้เราสบายผิวเหมือนไม่ได้ทารองพื้น

แล้วก็ให้ความรู้สึกเหมือนเราทาออยล์บำรุงผิวมากกว่า ผิวหน้าจะชุ่มชื้นทั้งวัน

ผิวไม่เป็นคราบ หรือ crack ระหว่างวัน ถือว่าเรื่องการให้ความชุ่มชื้นผิวดีงามมาก

เฉดสีก็มีให้เลือกเยอะด้วย แนะนำให้ไปลองสีที่เคาน์เตอร์อีกทีนะคะ

อยากให้ได้ลองเนื้อสัมผัสของรองพื้นตัวนี้ ส้มว่า ถ้าได้ลองแล้วน่าจะชอบกันค่ะ

 

 

ราคาและสถานที่จัดจำหน่าย

รองพื้น ราคา 1,950  บาท

แปรง ราคา 2,070 บาท

คูชั่น ราคา 2,100 บาท

 

 

สุดท้ายนี้ ก็ต้องขอขอบคุณทาง Shu Uemura ด้วยนะคะ ที่ให้ผลิตภัณฑ์ดีดีมาให้ส้มได้ลองใช้ค่ะ

แล้วพบกันใหม่ในรีวิวครั้งหน้านะคะ

———————————————————————–

Leave a comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Prev Post Next Post