Review : ยืดผมแบบมีโวลุ่ม แบรนด์ CHI Transformation System ไม่มีแอมโมเนีย ผมไม่เสีย
update blog 10/10/2021
ร้านทำผมที่ไปยืดผมในคลิปด้านล่าง ตอนนี้ปิดแล้วนะคะ
เลยมาอัพเดทให้ทุกคนใหม่ค่ะ ว่าพี่โจ้ ช่างผมประจำส้ม
ไม่ได้ทำที่ร้าน Montana Rich แล้ว ตอนนี้พี่เค้าเปิดร้านที่บ้าน
ใช้ชื่อร้านว่า The Glory Of Montana แทนนะคะ
ถ้าจะไปทำต้องจองคิวล่วงหน้าเท่านั้นค่ะ
จองคิวสอบถามได้ที่ The Glory Of Montana
Line : @991sokgw ( มี@นำหน้า )
Facebook : The Glory Of Montana
📱 : 0842653896
คำถามที่คนถามเยอะมากที่สุดตั้งแต่เป็น blogger มาคือ
“มีร้านยืดผมดีดีแนะนำมั้ยคะ” / “อยากยืดผมแบบมีโวลุ่มค่ะ”
ต้องบอกเลยว่า ตั้งแต่เป็น blogger มา ส้มยืดผม และ ทำทรีทเม้นท์ผมบ่อยๆ
กับพี่โจ้ จนกลายเป็นช่างผมประจำไปแล้ว
เพราะพี่เค้า เข้าใจเส้นผมของลูกค้าแต่ละคนจริงๆ
ทำงานละเอียด พิถีพิถันทุกขั้นตอน เลยไม่เปลี่ยนใจไปยืดผมที่อื่น
พี่โจ้จะย้ายไปไหน เราก็ตาม ไกลแค่ไหนเราก็ไป 555555
จนล่าสุด พี่โจ้ มาเปิดร้านใหม่ที่บ้านตัวเองอยู่แถวรามอินทราค่ะ
ซึ่งก็ใกล้บ้านส้มเลย ขับรถไป 20 นาทีถึง
** ส้มไปยืดผมเมื่อวันที่ 9/10/2021 ร้านพี่โจ้ยังตกแต่งไม่เสร็จนะคะ
และยังไม่ได้เปิดร้านเป็นทางการค่ะ ถ้าร้านเสร็จแล้ว ภายในจะอลังกว่านี้
ดูจากแชนเดอเลียร์ได้ เล่นใหญ่เว่อร์ 5555
ซึ่งต้องบอกก่อนว่า พี่โจ้ เป็นช่างทำผม ที่ทำงานบริษัทด้วยนะคะ
พี่เค้าเป็น Technician ของ Global Style Trading บริษัทนำเข้า แบรนด์ผมระดับโลก
เช่น Olaplex, Chi, Brazilian blowout, Kevin Murphy, Keratin Complex และอื่นๆ
และผลิตภัณฑ์ที่ร้านนี้ใช้ คือ ของยี่ห้อ CHI ซึ่งเป็นแบรนด์ไฮเอนด์ของ อเมริกาค่ะ
หลายคนอาจจะไม่ค่อยคุ้นหูกับชื่อนี้เท่าไหร่ แต่ถ้าลอง search google ดู เค้าดังมาก
เป็นสปอนเซอร์ให้กองประกวด Miss World มาโดยตลอด และอย่างปีก่อนก็ Miss Universe ก็ใช้แบรนด์นี้ค่ะ
แถมผลิตภัณฑ์ก็ได้รางวัลเยอะมากๆๆๆๆๆๆๆ
สภาพเส้นผมก่อนการยืดผม
ส้มจะเป็นคนผมหยักศกตั้งแต่เกิด เด็กๆผมเส้นใหญ่มาก ฟูมาก และ หนามาก
ซึ่งมันจะหยักศกเป็นคลื่นใหญ่ๆด้านในผม มันทำให้ดันผมขึ้นมาแล้ว
ทำให้ผมพอง แต่ผมด้านนอกก็ตรงอยู่
เลยไม่ต้องแปลกใจทำไมส้มถึงพยายามหาทรีทเม้นท์ผมทำตลอด
เพื่อลดให้เส้นผมเรียบขึ้น ไม่ชี้ฟู
พอทำบ่อยๆ เส้นผมก็คลายไปเยอะ ตรงกว่าเดิมเยอะ ถ้าดูแล้วก็ไม่ได้หยิกอะไร
แต่ว่าก็อยากให้มันตรงมากๆ เลยตัดสินใจยืดผมอีกครั้งค่ะ
ปล. การยืดผมไม่ใช่ว่าทุกคนจะทำได้นะคะ ช่างจะดูก่อนว่า
เส้นผมแห้งเสียมากแค่ไหน ผมผ่านการฟอกสี ทำไฮไลท์มา
หรือเปล่า เพราะถ้าเป็นเช่นนั้น อาจจะไม่สามารถยืดผมได้
เพราะโอกาสที่ผมจะเสียช๊อตเป็นฝอยๆมีสูงมาก
ส่วนขั้นตอนการยืดผมของพี่โจ้จะมีขั้นตอนดังนี้ค่ะ
ขั้นตอนที่ 1 : ตรวจสอบสภาพเส้นผมว่ายืดได้หรือไม่
พี่โจ้จะทำการเชคผมก่อนว่า ผมเรายืดได้ไหม
โดยการฉีดน้ำใส่ผมให้เปียกพอหมาดๆ จากนั้นม้วนผมเป็นปม แบบในรูปด้านล่าง
ถ้าม้วนแล้วผมเด้งตัวกลับคืน แสดงว่า ผมแข็งแรง ยืดได้
แต่ถ้าม้วนเป็นปมแล้ว ผมมันไม่เด้งกลับ ม้วนผมเป็นปมแล้วลองปล่อยดู
ผมค้างอยู่สภาพนั้นเป็นปมอยู่ ก็จะต้องเว้นบริเวณผมที่เริ่มตาย ก็จะไม่ให้โดนน้ำยายืดผม
แต่ถ้าผมใครช๊อตมา ฟอกมา ไฮไล้ท์มา ก็อาจจะยืดไม่ได้นะคะ
ทั้งนี้ ต้องเอาผมมาให้ช่าง เค้าเชคก่อนค่ะ
ขั้นตอนที่ 2 : สระผมด้วย CHI Infra Shampoo
เป็น Pre-Treatment Shampoo แชมพูที่จะช่วยชำระล้างสิ่งสกปรกออก
เตรียมผมก่อนการยืดผม ซึ่งเป็นขั้นตอนการยืดผมของแบรนด์ CHI โดยเฉพาะด้วยค่ะ
ขั้นตอนที่ 3 : บำรุงผมด้วย OLAPLEX No.2
จากที่พี่โจ้ได้ทำการตรวจสภาพผมแล้ว จะพบว่า ปลายผมนั้นเริ่มตาย
ผมแห้ง ม้วนเป็นปมแล้วไม่เด้งกลับคืน และเพื่อเป็นการบำรุงเส้นผมให้ข้อต่อภายในแกนผมนั้น
มีความแข็งแรงก่อนที่จะโดนน้ำยายืดผม พี่โจ้เลยต้องบำรุงผมด้วย OLAPLEX No.2
ทิ้งเอาไว้ 20 นาทีค่ะ
ขั้นตอนที่ 4 : ยืดผมด้วยน้ำยายืด CHI สูตร B สีฟ้า และผสมกับ OLAPLEX No.2
ต่อไปพี่โจ้ก็จะเลือกน้ำยายืดผมที่เหมาะกับสภาพเส้นผมของส้ม
เพราะเป็นผมที่ผ่านการทำสี และ สารเคมีมาก่อน พี่โจ้ก็เลยเลือก CHI สูตร B สีฟ้า ค่ะ
(จริงๆ น้ำยายืดผมของ CHI จะมีด้วยกัน 3 สูตรตามรูปด้านล่างนะคะ)
CHI สูตร A สีแดง จะเหมาะกับผมปกติ สุขภาพดี แข็งแรง
CHI สูตร B สีฟ้า จะเหมาะกับผมที่ผ่านการทำสี หรือ เคมีมาแล้ว
CHI สูตร C สีเขียว จะเหมาะกับผมที่ทำไฮไล้ท์มา หรือ ผ่านเคมีมาหนักมากๆ
ซึ่งก็จะใช้ CHI Transformation System Solution No.1
และผสม OLAPLEX Bond Multiplier No.1 เพื่อต่อพันธะ Disulfide Bond ให้โครงสร้างเส้นผมภายในแข็งแรง
ก่อนจะลงน้ำยายืดผม CHI
พี่โจ้จะฉีด CHI Keratin Mist ให้ทั่วเส้นผม แล้วก็จะชโลมด้วย CHI Silk Infusion
เพื่อเป็นการบำรุงเส้นผมก่อนการไดร์ผมให้แห้ง
ซึ่งเค้าจะไดร์ให้แห้งแค่ 80% นะคะ ผมก็จะแห้งหมาดๆ ไม่แห้งสนิทค่ะ
จากนั้นก็จะทำการแบ่งผมเป็น 4 ส่วนค่ะ เพื่อสะดวกต่อการชโลมน้ำยายืด
และง่ายต่อการเชคสภาพเส้นผม เพื่อตรวจสอบความยืดหยุ่นของผม
แล้วก็ค่อยๆ ใช้หวีแปรงจุ่มน้ำยายืด ทาลงบนผม โดยจะเน้นจากผมด้านบนลงมา
(เว้นโคนผม จนถึงบริเวณผมที่ยังมีสภาพแข็งแรง
จะเว้นช่วงปลายผมประมาณ 15 ซม. โดยประมาณ
จากที่ตอนแรกตรวจผมแล้วผมไม่แข็งแรงพอที่จะโดนน้ำยายืดนั่นเองค่ะ)
หลังจากที่ลงน้ำยายืดทั่วแล้ว ก็ทิ้งเอาไว้ 15 นาทีค่ะ
พอครบแล้วพี่โจ้จะเชคผมอีกที ว่า ถ้าดึงผมมาม้วนดูแล้วว่า ผมมันมีการยืดตัวได้ดี
จะเห็นจากในรูปด้านล่าง จะเป็นคล้ายๆ หนวดตำลึง นั่นแสดงว่า ผมพร้อมที่จะยืดได้แล้ว
(พอดีลืมถ่ายตอนพี่โจ้เชคผมค่ะเลยเอามาจากคลิปวีดีโอที่ถ่ายเอาไว้ตอนยืดผมปีที่แล้วมาให้ดูนะคะ)
ขั้นตอนที่ 5 : ล้างน้ำยายืด
จากนั้นจะการล้างผมด้วยน้ำอุ่นให้สะอาด โดยไม่ได้ใช้แชมพูนะคะ
โดยจะล้างผมไปจนกว่าไม่มีกลิ่นน้ำยายืดผมติดค้างบนผมเลยค่ะ
พอล้างผมสะอาดแล้ว พี่โจ้ก็จะใช้ Infra Treatment (เหมือนที่ใช้ตอนแรก)
นวดเส้นผมให้ทั่ว แล้วก็ทิ้งเอาไว้ 5 นาที จากนั้นก็ค่อยล้างออก
ซึ่งขั้นตอนนี้ ช่างจะไม่ใช้หวีเลยค่ะ เพราะป้องกันการเสียดสีของเส้นผม
(ขั้นตอนละเอียดมากของ CHI เนี่ย!)
ขั้นตอนที่ 6 : ไดร์ผมให้แห้งและหนีบผมให้ตรง
พอเช็ดผมให้แห้งหมาดแล้ว พี่โจ้ก็จะฉีด CHI Keratin Mist ให้ทั่วเส้นผม
และตามด้วย CHI Silk Infusion เพื่อบำรุงเส้นผมก่อนการไดร์ผม
จะบอกว่า ผลิตภัณฑ์บำรุงผมของ CHI กลิ่นหอมมาก ใช้แล้วผมนุ่มลื่นเป็นเงาดีมากจริงๆ ค่ะ
ช่วยปกป้องเส้นผมจากความร้อนด้วยค่ะ
จากนั้นก็เป่าผมจนแห้งสนิทเลยค่ะ
จากนั้นพี่โจ้ จะทำการรีดผมให้ตรง โดยใช้เครื่องหนีบผม
อุณหภูมิความร้อนก็ต้องพอดีกับเส้นผม และจังหวะในการหนีบ ในการรีดผม ต้องพอดี
ส้มถึงบอกว่า ขั้นตอนนี้สำคัญมากๆ ผมจะหักโคน ผมจะหยิกฝอย อะไรก็แล้วแต่
ขั้นตอนนี้เป็นหัวใจหลักอย่างนึงเลย ถึงบอกว่า มันขึ้นอยู่กับฝีมือช่างล้วนๆ
ถ้าหากว่าช่างใจร้อน รีบหนีบ ผมก็จะไม่ตรง และโอกาสที่ผมจะหักโคนมีสูงมาก
แต่ฝีมือพี่โจ้นี่ยอมรับเลย เพราะส้มชอบสังเกตเวลาพี่เค้ารีดและหนีบผม
เค้าจะหนีบผมในปริมาณที่พอดี แล้วก็ความร้อนพอดี หนีบผมสม่ำเสมอ
ไม่จับเครื่องจนแรงจนเกินไป แล้วผมที่ออกมาไม่เสียเลย
(บอกเคล็ดลับเลยนะ เวลาทำที่ร้านไหนให้สังเกตตอนช่างหนีบผม
แค่นี้ก็รู้แล้วว่า ช่างคนนั้นใจเย็น หรือ ใจร้อน)
และนี่คือผมหลังหนีบผมเสร็จค่ะ ผมเงาวิ้งมากจ้า
ขั้นตอนที่ 6 : ลงน้ำยาล๊อคผมให้ตรง
จากนั้นก็จะทำการล๊อคให้ผมตรงนานขึ้นหลังจากหนีบผมด้วย
น้ำยา CHI Transformation System Bonder Phase 2
พร้อมกับผสม OLAPLEX No.1 เข้าไปด้วย เพื่อให้แกนผมด้านในแข็งแรงขึ้น ปกป้องเส้นผมไม่ให้เสียนั่นเอง
เรียกได้ว่า เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยสำคัญมากๆ ที่ทำให้การ ยืดผมกับพี่โจ้ ผมส้มไม่เคยเสีย ไม่เคยช๊อตเลยค่ะ
ทาทั่วเส้นผมแล้วก็ทิ้งเอาไว้ 10 นาทีแล้วก็ล้างออกค่ะ
ขั้นตอนที่ 7 : ล้างทำความสะอาดผม และ บำรุงด้วย CHI Infra Treatment
โดยไม่ต้องใช้แชมพู แล้วก็เช็ดให้หมาด
จากนั้นก็ใช้ CHI Infra Treatment นวดเส้นผมให้ทั่ว แล้วก็ทิ้งเอาไว้ 5 นาที
พอครบ 5 นาที ก็ล้างน้ำเปล่าตามปกติ แล้วก็เช็ดผมให้หมาดอีกครั้งค่ะ
สุดท้ายก่อนไดร์ผมให้แห้ง ก็จะฉีดสเปรย์ CHI Keratin Mist และใส่ CHI Silk Infusion ให้ทั่ว
เพื่อเคลือบและบำรุงเส้นผม
แล้วก็ไดร์ผมตามปกติค่ะ แค่ไดร์ก็จะเห็นเลยว่า ผมตรง มีน้ำหนักขึ้นทันทีหลังยืด
พอไดร์เป่าด้วยลมธรรมดา จนแห้งสนิท ผมก็จะตรงทิ้งตัวสวย เป็นเงาขึ้นเลยค่ะ
ผมนิ่มมาก ผมไม่เสียเลย ไม่ฟูแล้ว แฮ้ปปี้มากกกกก
ผลหลังการยืดผม CHI
สังเกตเลยว่า ผมทิ้งตัวดีขึ้นกว่าเดิมมากๆ
แต่สังเกตมั้ยคะว่า โคนผมไม่ได้ลีบแบน เพราะว่าตอนยืด พี่เค้าจะเว้นโคนผมเอาไว้ไม่ให้โดนน้ำยายืด
เพื่อป้องกันหนังศีรษะเราโดนน้ำยาด้วย และ ป้องกันไม่ให้ผมหักโคนด้วยค่ะ
แล้วถ้าสังเกตนะคะ ผมมันจะไม่ได้แข็งตรงทื่อ มันจะดูมีโวลุ่ม ดูผมเป็นธรรมชาติสุดๆ
ตั้งแต่ยืดผมด้วยน้ำยา CHI ส้มไม่ยืดยี่ห้ออื่นอีกเลยค่ะ เพราะว่ามันมีความแตกต่างหลายๆ อย่างจริงๆ
และด้วยขั้นตอนที่ละเอียด บวกกับ ฝีมือของพี่โจ้เองด้วย ทำให้ส้มไม่เปลี่ยนใจ
พี่โจ้ ย้ายไปไหน เราก็จะตามไปค่ะ 555555
ข้อดีและข้อเสียของการยืดผม CHI
ข้อดี : “ไม่มีแอมโมเนีย หรือ สารเคมีที่เป็นอันตรายอื่นๆเป็นส่วนผสม”
ยืดมาแล้วผมไม่เสียเลย ทำเสร็จ ผมนุ่ม ลื่น เป็นเงา มีน้ำหนัก
ทิ้งตัวสวย ไม่แข็งทื่อโคนผมไม่ลีบแบน ดูสุขภาพดีขึ้นเยอะเลย
ข้อดีอีกอย่างคือ “สามารถสระผมในวันรุ่งขึ้นหลังจากทำได้เลยค่ะ”
ไม่ต้องทิ้งไว้ 3 วันเหมือนการยืดผมของยี่ห้อทั่วไป
เนื่องจากของ CHI ไม่มีแอมโมเนียผสมนั่นเองค่ะ
ในรูปด้านล่าง คือ สระผมในวันต่อมาหลังจากยืดได้เลย ไม่ต้องดองผมนานหลายวันเหมือนยี่ห้ออื่นๆ
สะดวกมากๆ ค่ะ เป่าแห้งอย่างเดียว ไม่ต้องใช้หวีแปรง หรือ เครื่องหนีบผมเลย ผมก็จะทิ้งตัวสวยเป็นธรรมชาติมากๆ
ข้อเสีย : ราคาแพงกว่ายืดผมทั่วไป เพราะ CHI ไม่มีแอมโมเนียหรือสารเคมีแรงๆ
ที่จะทำร้ายเส้นผมแต่จะใส่สารบำรุงในผลิตภัณฑ์ยืดผมด้วย
ทำให้เส้นผมไม่เสีย และขั้นตอนการทำเยอะและละเอียดมาก
ประมาณ 4-5 ชั่วโมงค่ะ
วิธีการดูแลเส้นผมหลังจากการยืดผม
1. ไม่ควรไดร์ผม หนีบผม ม้วนผม ด้วยความร้อนสูงๆ จะทำให้เส้นผมขาดง่าย แห้งเสียได้เร็ว
ควรงดกิจกรรมเหล่านี้ประมาณ 1 เดือนหลังจากยืดผม
2. งดการเหน็บหู ติดกิ๊บ มัดผม เป็นเวลา 1 เดือนหลังยืดผม
เพราะจะทำให้เส้นผมเป็นรอยได้ง่าย
3. ควรหมักผมบ่อยๆ อาจจะใช้น้ำมันมะพร้าวหมักก่อนสระผม อาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง
หรือ จะใช้ครีมหมักผมทั่วไป หมักเฉพาะช่วงปลายผม แทนการใช้ครีมนวด
เพราะครีมหมักผมมันจะมีความเข้มข้นของสารบำรุงมากกว่าครีมนวดทั่วไป
เพื่อความเข้าใจที่มากขึ้นเกี่ยวกับการยืดผม โปรดอ่าน!!
การยืดผมถาวร ไม่ได้แปลว่า จะยืดแล้วผมงอกขึ้นใหม่ก็จะตรงนะคะ
เราทำการยืดผมเฉพาะผมที่เรามองเห็นเท่านั้น ตั้งแต่โคนลงมา
ฉะนั้น เวลาผ่านไป ผมงอกขึ้นมาใหม่ มันก็คือโครงสร้างเส้นผมเราจริงๆ ถ้าหากเป็นคนผมหยิก
อย่าเข้าใจว่า ยืดผมแล้ว ผมขึ้นใหม่ก็จะตรง มันเป็นไปไม่ได้!! ต้องคิดถึงหลักความจริงกันด้วย
ที่เค้าแนะนำว่า ให้เรายืดผมทุก 6-8 เดือนนั้น ก็เพราะเค้าต้องการให้เส้นผมงอกขึ้นมาใหม่
มีความยาวมากพอที่จะทำการยืดได้ ปกติก็ประมาณ 1 คืบค่ะ ไม่ว่าจะน้ำยายืดผมยี่ห้อไหน ก็จะเหมือนกันตรงจุดนี้ค่ะ
ที่เราจะต้องไปยืดผมซ้ำๆ หากต้องการให้เส้นผมขึ้นใหม่ ตรงเหมือนกัน หวังว่าจะเข้าใจตรงกันนะคะ
ราคาและสถานที่
ราคา : ยืดผมโวลุ่มของ CHI จะอยู่ที่ประมาณ เริ่มต้น 4,500-6,500บาท
ขึ้นอยู่กับสภาพเส้นผม และ ความยาว ความหนาของผม
อย่างผมของส้ม จะอยู่ที่ 5,500 บาทค่ะ
สถานที่ : The Glory Of Montana
ที่อยู่: บ้านเลขที่ 71/132 ซอยพระยาสุเรนท์ 35
อยู่ในหมู่บ้านดวงกมล ตรงข้ามโรงเรียนโสมาภาพัฒนา
Google Map: https://goo.gl/maps/U77qyiyJn7HjHnTA8
สอบถามและจองคิวได้ที่
The Glory Of Montana
Line : @991sokgw ( มี@นำหน้า )
Facebook : The Glory Of Montana
โทร : 0842653896
ขอขอบคุณทุกคนที่ติดตามอ่านรีวิวนี้นะคะ
แล้วพบกันใหม่ในรีวิวครั้งหน้าค่ะ
———————————————————————–
Facebook: www.facebook.com/beautybyorangina
Instagram: www.instagram.com/beautybyorangina
Youtube: www.youtube.com/orangina555
Twitter: twitter.com/OranginaBeauty