Review: คอนซีลเลอร์บางเบาที่ดีที่สุดจาก L’Oreal Paris True Match Concealer
บอกเลยว่า ในตระกูล True Match ของ L’Oreal เนี่ย ส้มชอบมากๆ ทั้งรองพื้น และ แป้ง
และพอได้ลองใช้คอนซีลเลอร์ตัวนี้ ก็ชอบไปด้วย คือ มันดีในราคาที่ย่อมเยาว์ เลยเอามารีวิวให้ทุกคนได้ดูกันค่ะ
L’Oreal Paris True Match Concealer
คอนซีลเลอร์เนื้อครีมบางเบา เกลี่ยง่าย ที่ให้มากกว่าแค่ปกปิด ปัญหาผิว รอยแดงจากสิว รอยดำ และ รอยคล้ำใต้ตา
สามารถใช้ได้กับทุกส่วนของใบหน้า มี 6 เฉดสีสำหรับผิวคนไทย
มาพร้อมกับหัวแปรงไม้พาย ที่ได้รับการพัฒนาใหม่จากเดิม
หัวแปรงรุ่นนี้ถ้าสังเกต มันจะเป็นแบนๆ แล้วขนจะอ่อนนุ่มมากๆ ทำให้ควบคุมปริมาณคอนซีลเลอร์ได้ดี
สามารถใช้แปรงนี้ทาได้เลย โดยไม่ต้องใช้นิ้วเกลี่ยก็ได้ (แล้วแต่ความถนัด)
ซึ่งจะมีด้วยกันทั้งหมด 6 เฉดสีค่ะ ดูตามที่ส้ม swatch เอาไว้ด้านล่างนี้ได้เลย
ส่วนตัวส้มใช้สีเบอร์ 3N Creamy Beige จะเหมาะกับผิวขาวค่อนเหลืองค่ะ สีนี้พอดีกับผิวเป๊ะเลย
คอนซีลเลอร์ตัวนี้ บอกเลยว่า ถ้าใครไม่ได้มีปัญหาผิวมาก แค่แต้มตามจุดต่างๆ ของผิวหน้า ก็โอเคแล้ว
ซึ่งหลังๆ มานี้ ส้มก็ลองใช้แค่คอนซีลเลอร์แต้มเฉพาะจุด หรือ บางทีก็ทาทั่วหน้าแทนรองพื้นเหมือนกัน
เพราะว่าอย่างคอนซีลเลอร์รุ่นนี้เนี่ย มันเบาสบายผิวมากๆ ค่ะ ไม่หนัก ไม่แห้งระหว่างวัน เลยเอามาใช้เกลี่ยบางๆ ทั่วหน้าได้เลย
มันจะไม่แมทท์ แต่ก็ไม่ได้ฉ่ำมาก ระหว่างวันผิวก็ยังคงสวยและสีติดทนดีด้วยค่ะ
อย่างแก้มด้านซ้าย ส้มก็จะมีปัญหาพวกรอยหลุมสิวกระจายทั่วหน้าอยู่ ส้มก็จะเอาคอนซีลเลอร์ตัวนี้ แต้มและใช้นิ้วมือเกลี่ยให้ทั่ว
สังเกตได้เลยว่า มันทำให้ผิวหน้าของเราอ่ะค่ะ ดูเรียบเนียนขึ้นกว่าเดิม พวกรอยแดงก็ปกปิดได้ดีเลย
แต่ถ้าเป็นสิวที่นูนๆ ใหญ่ และ มีความแดงมากน้อย มันอาจจะปกปิดได้กลางๆ ไม่ได้ถึงกับเนียนสนิทนะคะ
และถ้าใครใต้ตาคล้ำ ใช้สีที่สว่างหน่อย เกลี่ย มันก็จะทำให้ผิวใต้ตาเรา ดูกระจ่างขึ้น ผิวเนียนขึ้น ช่วยกลบรอยคล้ำได้ดีเลย
พวกรอยแดงบนใบหน้า โดยทั่วไปก็จะปกปิดได้ดี และถ้าสังเกตจากรูป คือ มันจะดูไม่โบ๊ะ ไม่หนาเหมือนคอนซีลเลอร์ทั่วไป
จะบางๆ และให้ผิวยังคงเป็นผิวที่หายใจได้อยู่ ^^
โดยรวม ส่วนตัวส้มชอบมากเลยสำหรับคอนซีลเลอร์ตัวนี้ เพราะนอกจากจะเอาไว้อำพรางจุดบกพร่องของผิวแล้ว
ยังสามารถเอาไว้ ทาเป็นอายไพรเมอร์ก็ได้ ใช้สีอ่อนไล้จมูก หรือ โหนกแก้มให้ดูเด่นขึ้น
หรือ จะใช้สีเข้มไล้กรอบหน้า หรือ ปีกจมูก ให้โครงหน้าเด่นขึ้นก็ได้เหมือนกัน
แต่ยังไงก็แล้วแต่ แนะนำให้ลองด้วยตัวเองอีกทีนะคะ
ราคาและสถานที่จัดจำหน่าย
ราคาแท่งละ 299 บาท มีขายตามห้างทั่วไปแล้วนะคะ
หรือสั่งผ่าน lazada.co.th ได้เลยค่ะ
สุดท้ายนี้ก็ต้องขอขอบคุณทาง L’Oreal Thailand ที่ส่งผลิตภัณฑ์ดีดีมาให้ลองด้วยนะคะ
แล้วพบกันใหม่ในรีวิวครั้งหน้าค่ะ
———————————————————————–