แป้งฝุ่น Laura Mercier แต่ละสี Translucent, Glow, Honey ต่างกันยังไง มาดูกัน

ส้มเชื่อว่าสาวๆ เกิน 50% จะต้องมีแป้งฝุ่นลอร่าติดโต๊ะเครื่องแป้งกันแน่นอน

เพราะเป็นแป้งฝุ่นโปร่งแสงที่ใช้ดีมาก ได้รางวัลมาเยอะแยะมากมาย เป็นไอเท่ม #ของมันต้องมี กันจริงๆ

ส่วนใครที่ยังไม่เคยลองแป้ง Laura Mercier วันนี้ส้มหยิบเอามาให้สาวๆ ได้อ่านกันค่ะ

ซึ่งจะมีด้วยกัน 3 เฉดสี แตกต่างกันยังไง มาดูกันเลยค่ะ

 

 

เริ่มจากตัวแรก ไอเท่มฮอตฮิตไปทั่วโลก ใครๆ ก็ต้องมี นั่นก็คือ

LAURA MERCIER Translucent Loose Setting Powder

 

คำเคลมจากทางแบรนด์

 

 

สำหรับแป้งตัวนี้ เนื้อแป้งจะละเอียดมากค่ะ

เบาสบาย ไม่อุดตันผิว เนื้อแป้งจะโปร่งแสงค่ะ

แม้ตัวสีแป้งจะดูค่อนข้างขาว แต่ทาบนผิวจริงๆ จะกลืนไปกับผิวเลย

ช่วยคุมมันได้ดีมาก เรียกได้ว่า ทาทับรองพื้นแล้วไม่ต้อง touch up เลย

ใช้ได้ทั้งผิวมัน ผิวแห้ง ผิวผสมค่ะตัวนี้

 

 

LAURA MERCIER Translucent Loose Setting Powder Glow

 

คำเคลมจากทางแบรนด์

แป้งเซตเมกอัปที่มอบความโกลว์ ให้ผิวแลดูเปล่งประกายในทันทีที่แต่งเติม พร้อมคุณสมบัติติดทนนาน 12 ชั่วโมง

ด้วย Pearl Pigment ที่คัดสรรพิเศษ ช่วยให้ผิวดูเรืองรองสุขภาพดีอย่างเป็นธรรมชาติ

มอบความโกลว์ให้กับผิว เซตเมกอัปติดทนนาน 12 ชั่วโมง ด้วยนวัตกรรมแป้งฝุ่นบางเบา ไร้น้ำหนัก

เนื้อสัมผัสบางเบามอบความโกล์ให้กับผิว ให้แลดูเป็นธรรมชาติ เหมาะกับทุกสภาพผิว

หมดกังวลเรื่องริ้วรอยที่ต้องการอำพรางปกปิด เผยผิวที่ลุคโกลว์ดูสดใส

ผิวสวยแลดูสุขภาพดีแบบเปล่งประกายในทุกมุมมอง แม้อยู่ต่อหน้าแสงแฟลชจากกล้อง

 

 

แป้งรุ่นนี้ จะเป็นแป้งโปร่งแสงเช่นเดียวกับตัวแรกที่รีวิวไปเลยค่ะ

แต่จุดเด่นคือ ตัวนี้จะมีความเหลือบเงา เล่นแสงกว่า

เนื้อบางเบา ติดทน คุมมันเช่นเดียวกันค่ะ

เราสามารถทาได้ทั้งหน้าเลย หรือ จะเน้นบริเวณผิวที่ตกกระทบแสง

เช่นหน้าผาก โหนแก้ม สันจมูก โหนกคิ้ว คาง หรือบริเวณไหปลาร้า เพื่อให้ผิวดูสวยโกลว์มีมิติมากขึ้นก็ได้ค่ะ

 

ส่วนตัวส้มมองว่า ถ้าใครผิวแห้ง ทาทั่วหน้ามันก็จะทำให้ผิวหน้าดูไม่แมทท์มากจนเกินไปค่ะ

แต่ผิวมัน แนะนำลงตามจุดที่ผิวตกกระทบแสงจะโอเคกว่า แต่ทั้งนี้ก็ต้องลองด้วยตัวเองอีกทีนะคะ

พอดีส้มเป็นคนผิวผสมค่ะ ส้มเลยชอบทาแป้งตัวนี้เฉพาะจุดมากกว่าที่จะทาทั่วหน้าค่ะ

แค่รู้สึกว่า เวลาเหงื่อออกแล้วมันจะโกลว์เกินไป 55555

 

 

และมาถึงตัวสุดท้าย ที่พึ่งวางขายเมื่อต้นเดือนสิงหาคม 2020 ที่ผ่านมานี้ก็คือ

LAURA MERCIER Translucent Loose Setting Powder (Honey)

 แป้ง Loose Setting Powder เฉดสี Honey ใหม่ล่าสุด

ช่วยเซตเมคอัพติดทนนานถึง 16 ชั่วโมง!! โดยที่ไม่ทำให้รู้สึกหนักผิวหน้า หรือรู้สึกถึงเนื้อสัมผัสนั้น

ให้ผลลัพธ์ผิวแมตต์ถึง 16 ชั่วโมง: สัมผัสของการปกปิดที่บางเบา

ด้วยผลลัพธ์แบบแมตต์ที่เซตเมคอัพให้สวยไร้ที่ติได้นานถึง 16 ชั่วโมง

เนื้อสัมผัสไร้น้ำหนัก: แป้งเนื้อเบาที่บดละเอียดอย่างประณีต ไม่ทำให้ผิวรู้สึกหนาหนัก

หรือมีความรู้สึกติดอยู่บนผิว ไม่เซตตัวตกตามร่องผิวและไม่มีทางดูเลอะเป็นคราบ

ไม่เกิดแสงสะท้อน: ส่วนผสมนี้ไม่ทำให้เกิดแสงสะท้อนยามที่ถ่ายภาพ

และช่วยสร้างสรรค์ Affect ที่นวลละมุน ทำให้ช่วยเบลอเส้นริ้วรอยและจุดบกพร่องบนผิว

 

บอกเลยว่า แค่เห็นสีก็ถูกใจแล้ว เพราะเป็นเฉดสีโทนเหลือง เหมาะกับผิวคนไทยมากๆ ค่ะ

ใครที่ผิวค่อนเหลืองคือต้องชอบเลย เพราะมันทาออกมาจริงๆ แล้ว กลืนกับสีผิวได้สวยมากจริงๆ

และที่สำคัญคือ ติดทน 16 ชม.เลย นานกว่ารุ่น Translucent ที่รีวิวเอาไว้บนสุดอีกค่ะ (ตัวนั้นติดทน 12 ชม.)

ส่วนเรื่องการ คุมมัน เบลอผิว ทำได้ดีเหมือนกันเลย แต่ส่วนตัวแอบเทใจให้สี Honey มากกว่า

เพราะมันเข้ากับผิวกว่า และทำให้ผิวดูเป็นผิวที่สวยมากๆๆๆๆๆ

ใช้ทาทับรองพื้นหรือคูชั่น คือ สวยลื๊มมมม

 

 

 

เทียบให้ดูกันชัดๆ อีกที ว่า 3 เฉดสีนี้ แตกต่างกันยังไงค่ะ

(ในรูปด้านล่าง เป็นการลงแป้งทับผิวหน้าสด ไม่ได้ลงรองพื้นใดๆ)

 

 

ราคาและสถานที่จัดจำหน่าย

ทุกเฉดสีทีรีวิวไป ตลับละ 1,690 บาทค่ะ

สามารถหาซื้อได้แล้วที่เคาน์เตอร์ Laura Mercier ตามห้าง

 ช่องทางออนไลน์ www.lauramercier.co.th และ LINE Official

หรือที่ https://www.sephora.co.th/

 

 

ขอขอบคุณทุกคนที่ติดตามอ่านรีวิวนี้นะคะ

แล้วพบกันใหม่ในรีวิวครั้งหน้าค่ะ

———————————————————————–

Facebook: www.facebook.com/beautybyorangina

Instagram:  www.instagram.com/beautybyorangina

Youtube: www.youtube.com/orangina555

Twitter: twitter.com/OranginaBeauty