ครั้งที่แล้วส้มได้เขียน blog พูดเรื่อง บริษัท Amore Pacific และ บริษัท LG กันไปแล้ว

ว่า 2 บริษัทนี้มีแบรนด์เครื่องสำอางอะไรในเครือบ้าง

และคราวนี้ ส้มจะมาเล่าเรื่องบริษัทเครื่องสำอางอีกหนึ่งบริษัท

ซึ่งถึงแม้ว่าจะมีแบรนด์เครื่องสำอางในเครือไม่เยอะ

แต่ก็ถือว่ามีชื่อเสียงระดับนึงเลยทีเดียว นั่นก็คือบริษัท ABLE C&C นั่นเองค่ะ

 

บริษัท ABLE C&C นี้เป็นบริษัทที่เป็นผู้ผลิตเครื่องสำอางโดยเฉพาะ

ซึ่งสินค้าก็มีหลากหลายไม่ว่าจะเป็น เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้า ผิวกาย

ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้า มาส์กหน้า น้ำหอม

และยังรวมไปถึงผลิตภัณฑ์ดูแลผิวสำหรับผู้ชายอีกด้วย

ซึ่งเครื่องสำอางภายใต้บริษัทนี้ก็คือ แบรนด์เครื่องสำอางอย่าง

MISSHA, A’PIEU, Swisspure เป็นต้น

 

ซึ่ง ABLE C&C นี้ก็จะจัดจำหน่ายสินค้าผ่านทางแฟรนไชส์ ร้านขายปลีก และออนไลน์

และก็ยังจัดจำหน่ายไปยังต่างประเทศด้วย แต่ในประเทศไทยเรา

มีเฉพาะแบรนด์ MISSHA ที่ขายในร้าน Karmart

ถ้าใครเคยเข้าไปร้านนี้ก็จะเห็นแบรนด์ MISSHA

หรือแม้กระทั่ง 7-11 เองก็จะมีเครื่องสำอางขนาดพกพาจำหน่ายด้วยเหมือนกัน

 

 

เอาล่ะ…มาดูกันทีและแบรนด์เลยนะคะว่า ภายใต้ ABLE C&C มีแบรนด์อะไรกันบ้าง

1. MISSHA

เป็นแบรนด์เครื่องสำอางค์และสกินแคร์ ที่เริ่มแรกเดิมที

ขายอยู่ในเวป beautynet.co.kr จากนั้นก็ได้มีการไปเปิดช้อปแห่งแรกตอนปี 2003

ก็คือสาขาในเมียงดง ย่านช้อปปิ้งวัยรุ่นที่เกาหลี จากนั้นก็ขยายไปทั่วเกาหลีประมาณ 300 กว่าสาขา

และก็เริ่มขยายสาขาออกไปต่างประเทศ ทั้งอเมริกา ฮ่องกง ออสเตรเลีย  สิงคโปร์ จีน

 รวมถึงประเทศไทยเรานี่แหละค่ะ

ซึ่งบริษัท Karmart เป็นผู้นำเข้ามาจำหน่ายในไทย

ก็จะเห็นแบรนด์นี้ในช้อป Karmart ด้วยนั่นเอง

 

ซึ่งตัวที่ขายดีและเป็นที่รู้จัก ทำให้แบรนด์ Missha ดังขึ้นมาในยุคนั้นก็คือ

BB Cream หลอดสีแดงนี่แหละค่ะ

M Perfect Cover BB Cream SPF 42 PA+++

และหลังจากนั้นแบรนด์ Missha ก็เริ่มผลิต BB Cream ออกมาอีกหลายรุ่นเลย

ของเค้าใช้ดีจริงๆค่ะ

และนอกเหนือจากเครื่องสำอาง ไม่อยากจะใช้คำว่า ลอกเลียนแบบเลย

แต่ Missha เองก็ เคลมถึงคุณสมบัติของสกินแคร์ 2 ตัวนี้ เทียบกับเคาน์เตอร์แบรนด์

ซึ่งเค้าเคลมกันในรูปแบบนี้เลย แต่ส้มก็ไม่เถียงนะ เพราะของเค้าคุณภาพดีเช่นกัน

ในราคาที่ถูกกว่า เรียกได้วา เป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้กับผู้บริโภคที่มีงบจำกัดเลยก็ว่าได้ค่ะ

 

อย่างตัว Missha Time Revolution The First Treatment Essence

ก็เรียกได้ว่า คุณสมบัติคล้ายกับ Treatment Essence ของ SK-II เลยทีเดียว

แต่อย่างที่บอกค่ะ ราคาเค้าถูกกว่า ก็เป็นทางเลือกให้ผู้บริโภคที่งบจำกัดได้

 

 

หรือแม้แต่ Missha Time Revolution Night Repair Science Activator Ampoule

 ก็ผลิตออกมาให้มีคุณสมบัติใกล้เคียงกับ Esstee Lauder Advanved Night Repair เลย

ซึ่งส้มเคยรีวิวเอาไว้แล้วด้วย ใช้ดีทีเดียวค่ะ

 

และปีที่แล้ว 2015 นับว่าเป็นปีที่แบรนด์เกาหลี ต่างก็พากันทำการ collaboration ร่วมกับ

ตัวการ์ตูนต่างๆกันเยอะมากๆ และ Missha เองก็ได้ไปร่วมกับ Line Sticker

 

 

 

 

ซึ่งทำเอาฮิตไปทั่วเอเชียเลยทีเดียวค่ะ ก็มันน่ารักและที่สำคัญ ใช้ดี สมราคาเลยค่ะ

อย่าง Cushion เองส้มก็ไปสอยมาลองใช้ด้วยเหมือนกัน คุ้มมากๆ ลองไปอ่านดู รีวิว ได้เลยจ้า

2. A’Pieu 어퓨

(เกาหลี อ่านว่า ออ-พิ่ว , ไทย อ่านว่า เอ-เปอ, ฝรั่งเศส อ่านว่า เอ-พิ่ว)

เริ่มจากชื่อแบรนด์ก่อนเลย มันไม่ใช่ภาษาเกาหลีแน่ๆ (ซึ่งภาษาฝรั่งเศส จะอ่านว่า “เอ พิว”)

ถ้าเราดูแบบนี้ จริงๆแล้ว มาจากภาษาฝรั่งเศสค่ะ แปลว่า Basic

เพื่อที่จะสื่อให้เห็นว่าเป็นแบรนด์ที่มุ่งกลุ่มเป้าหมาย อายุ 20 ต้นๆ ที่เริ่มดูแลผิวนั่นเอง

 

(update: 3/10/2018 ตอนนี้ A’Pieu มีขายในไทยแล้วนะคะ วางจำหน่ายที่แรกคือ EVE AND BOY 

โดยที่ไทย ทางบริษัทนำเข้า จึงคิดว่า ให้คนไทยออกเสียงยังไงดีถึงจะง่าย

เลยให้ออกเสียงว่า “เอ-เปอ” เพื่อความง่ายในการออกเสียง และ

ไม่ไปซ้ำกับแบรนด์ April Skin หากต้องออกเสียงว่า “เอ-พิว” นั่นเอง)

 

ซึ่งแบรนด์นี้ จะเด่นในเรื่องของ เครื่องสำอาง โดยเฉพาะในกลุ่มของ base makeup และพวกลิปสติก

ใช้ดีจริงๆ ในราคาย่อมเยาว์ เหมาะกับวัยรุ่น นักศึกษาที่พึ่งจะเริ่มหัดแต่งหน้า

ตอนไปเกาหลีปีที่แล้ว ส้มก็ซื้อ ลิปสติกที่เป็นแบบ lip marker แล้วก็รองพื้นแบบแท่ง

และ อายแชโดว์แบบ 4 สี คือ ใช้ดีมากจริงๆ แต่ยังไม่ได้รีวิวค่ะ ลืม…ขออภัย ฮ่าๆๆๆๆๆ

 เดี๋ยวจะหาเวลารีวิวให้นะจ้ะ

 

และปีที่แล้ว A’Pieu ก็ได้ไปร่วมCollaboration กับ ตัวการ์ตูนญี่ปุ่นสุดฮิตตลอดกาล

นั่นก็คือ Doraemon นั่นเอง น่ารักมากๆๆๆๆๆ  ปีที่แล้วที่ไปเกาหลี ไปช้าไม่กี่วัน ของหมดเกลี้ยง

ส้มได้แค่ hand cream มาเท่านั้น  แต่ก็มาตามล่าหา Cushion ได้ในร้านพรีออเดอร์ในไทย

ที่เค้ามีสต๊อก ก็เลยได้สอยมาลอง และก็ เอามา รีวิว ให้ได้อ่านกัน

 

 

 

 

 

3. Swiss Pure 

เป็นอีกแบรนด์ในเครือบริษัท ABLE C&C ที่เน้นผลิตภัณฑ์ที่ได้ส่วนผสมจากประเทศสวิสเซอร์แลนด์

 ไม่ว่าจะเป็นน้ำแร่ สารสกัดจากดอกไม้และพืชพันธุ์ต่างๆ เน้นความเป็นธรรมชาติสุดๆ

ซึ่งก็จะมีทั้งผลิตภัณฑ์สกินแคร์ และ เครื่องสำอาง

 

ซึ่งผลิตภัณฑ์แบรนด์นี้ น่าจะเหมาะกับคนที่ผิวแพ้ง่าย เพราะค่อนข้างปลอดภัยต่อผิว เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่น่าใช้ค่ะ

 

เอาล่ะ… ส้มก็ได้ทำการบ้านมาฝากทุกคนวันนี้เนอะ จะได้รู้จักกับแบรนด์เกาหลีมากยิ่งขึ้น

โดยเฉพาะในกลุ่มบริษัท ABLE C & C แม้จะเป็นบริษัทที่มีแบรนด์เครื่องสำอางไม่ได้เยอะมากเท่า

Amore Pacific หรือ LG แต่บริษัทนี้ก็ทำยอดขายไปได้เยอะมากเลยทีเดียวในแต่ละปี

และสาขาก็เริ่มขยายไปทั่วโลกเช่นกัน

พบกันใหม่ในครั้งหน้านะคะ  หากมีอะไรสงสัย หรือ อยากจะมาคุยกัน

(แต่ไม่ต้องมาขอซื้อเครื่องสำอางอะไรจากส้มนะคะ ไม่ได้ขายจ้า)

ก็มาคุยกันได้ที่

 

ข้อมูลอ้างอิง

http://www.forbes.com/companies/able-cc/

https://www.facebook.com/swisspure

https://www.beautynet.co.kr

https://www.facebook.com/myMISSHA

https://www.facebook.com/APIEU

http://www.koreadepart.com/