หลายๆคนที่ติดตามอ่านบล๊อกส้มอยู่ก็น่าจะรู้อยู่แล้วว่า ส้มกำลังรักษาหลุมสิวกับ คุณหมอพุฒิพงศ์ ภูมิสุวรรณ ที่ AIC  ศูนย์นวัตกรรมความงาม พระราม4 อยู่ ซึ่งส้มได้ทำมาแล้ว 2 ครั้ง หลุมสิวก็ตื้นขึ้นกว่าเดิมค่ะแต่ยังไม่หายสนิท เพราะแก้มทั้ง 2 ข้าง ส้มจะมีหลุมสิวไม่เท่ากันด้านซ้ายจะหลุมเยอะกว่า เพราะย้อนไปเมื่อ3 ปีก่อน ส้มเป็นสิวเยอะมากๆค่ะหลุมสิวก็เลยเยอะตามไปด้วย ล่าสุดเมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้ว ส้มก็ได้ไปทำอีกครั้ง ตอนแรกคุณหมอบอกว่าจะเปลี่ยนเข็มที่ใช้ในการทำ Skin Stampingให้ยาวขึ้น แต่หมอดูลักษณะหลุมสิวแล้วบางจุดมันเป็นหลุมลึก  คุณหมอก็คงอยากจะให้หายเร็วขึ้น เลยจัดชุดใหญ่ให้เลยด้วยการทำ  Intradermal Air Dissector หรือแปลเป็นไทยง่ายๆคือ เครื่องเลาะแยกชั้นผิวด้วยอากาศแต่ความเป็นจริงมันก็คืออุปกรณ์ช่วยเลาะ พังผืดใต้ผิวด้วยอากาศแรงดันสูงนั่นเอง  งั้นเดี๋ยวเราลองมาดูรายละเอียดกันก่อนนะคะ ว่ากลไกการออกฤทธิ์อุปกรณ์ที่ว่านี้เป็นยังไง หลักของการรักษาหลุมสิวด้วย Intradermal Air Dissector  หลักการก็คือเลาะพังผืดที่ยึดเกาะผิวออกจากเนื้อเยื่อด้านล่าง ผิวหนัง ส่วนนั้นก็จะยกตัวลอยขึ้นมาซึ่งใช้ความเร็วและความแรงของอากาศเป็นตัวเลาะพังผืด ผ่านเข็มขนาดที่เล็กมากคือเบอร์ 31G ทำให้มั่นใจได้ว่าไม่มีการทำลายผิวจนเกิดพังผืดเพิ่มขึ้น อีกทั้งชั้น ผิวที่แยกออกก็เสมือนการบาดเจ็บและเกิดการกระตุ้นให้ซ่อมแซมตัว เองและยิ่งหากมีการใช้น้ำเลี้ยงเซลต้นกำเนิดร่วมด้วย ก็ยิ่งทำให้การแบ่ง ตัวสร้างเซลผิวใหม่ดียิ่งขึ้น ผลลัพธ์ที่ได้ก็คือทั้งแผลเป็น หลุมสิว ร่องติด ลึกรอยแตกลายของผิว ค่อยๆหายไป และยังทำให้รูขุมขนเล็กลง…

ครั้งที่แล้วส้มได้นำข้อมูลและรูปหน้าที่ได้ผ่านการปรับรูปหน้า โดยนายแพทย์พุฒิพงษ์ไปแล้ว อ่านรีวิวตอนที่ 1 << ที่นี่ >>  ในวันนี้ส้มจะมารีวิวอีกครั้ง เนื่องจากการปรับรูปหน้านั้น หลังจากที่ได้ทำไปในครั้งแรก ควรจะต้องมีการนำหน้ามาให้คุณหมอดูอีกครั้ง เพราะช่วงนี้ใบหน้าจะเริ่มมีการเปลี่ยนแปลง และถ้าหากตรงไหนยังไม่เข้าที่ หรือ ยังไม่ balance จะต้องมาให้แพทย์ทำการเชคอีกครั้ง และอาจจะต้องมีการฉีดสารเติมเต็มหรือฟิลเลอร์  หรืออาจจะใช้ Botox ในการเติมแต่งเพิ่มเติม   สำหรับการปรับโครงหน้าใหม่ด้วยเทคนิคการใช้ไหมละลายเกาหลี ร่วมกับการฉีดฟิลเลอร์เข้าไปที่เยื่อหุ้มกระดูก เป็นเทคนิคใหม่ล่าสุดที่คุณหมอพุฒิพงษ์ เป็นคนคิดค้นขึ้น เรียกว่า Transforming Face Lift  ทำให้คนไข้ไม่ต้องผ่าตัด สำหรับกรณีโครงกระดูกไม่ผิดรูปมาก   ประโยชน์คือ ช่วยทั้งยกกระชับ และปรับโครงหน้าไปพร้อมๆกัน   ทั้งนี้เทคนิคนี้ไม่ใช่แค่การปรับรูปหน้า เพราะโดยปกติเวลาพูดถึงการปรับรูปหน้าที่ทำกัน ในเมืองไทยเป็นการรักษาแค่การฉีดโบท๊อกซ์ลดกราม ฉีดลดไขมันแก้ม และหรือฉีดคางเท่านั้น แต่ยังไม่มีแพทย์ท่านไหนที่สามารถแก้ไขรูปโครงกระดูกได้เลย โดยไม่ผ่าตัด ข้อดีของเทคนิคนี้คือค่อยๆปรับรูปหน้าให้สวยเด่นขึ้นตามธรรมชาติ ไม่ต้องพักฟื้นเหมือนการผ่าตัด แต่ค่าใช้จ่ายก็ยังสูงมาก เพราะต้องใช้ฟิลเลอร์จำนวนมาก   เป็นการบังเอิญที่ล่าสุดมีรายงานทางการแพทย์ตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์ของอเมริกา   จัดทำโดยสมาคมศัลยแพทย์ตกแต่งของสหรัฐ  ตีพิมพ์เดือนเมษายน 2013 ที่ผ่านมานี่เอง ผลการศึกษาจากแพทย์ชาวญี่ปุ่น มหาวิทยาลัยโตเกียว ระบุว่าการฉีดสารฟิลเลอร์ชนิด HA เข้าที่เยื่อหุ้มกระดูก ปลอดภัยกว่าการฉีดแบบเก่า และสามารถทำให้เกิดผลกึ่งถาวรได้ กล่าวคือ สามารถกระตุ้นให้เกิดการสร้างเนื้อเยื่อบริเวณที่ฉีด…

วันนี้ส้มจะมาเล่าประสบการณ์ในการร้อยไหม และ ฉีดฟิลเลอร์เป็นครั้งแรกในชีวิต ให้เพื่อนๆได้อ่านเป็นข้อมูลเผื่อมีใครกำลังสนใจที่จะลองทำดูนะคะ   ส้มได้ไปทำกับคุณหมอพุฒิพงษ์ ภูมิสุวรรณ ที่ AIC Clinic พระราม 4 ซึ่งถ้าใครได้ติดตามอ่านบล๊อกส้มมาซักพัก น่าจะพอคุ้นๆกับชื่อนี้ เพราะว่าส้มได้ รักษาหลุมสิวด้วยวิธีการ Stamping และ Air Dissector กับคุณหมอที่นี่และก็ได้ผลชัดเจน ดีกว่าการรักษาด้วยเลเซอร์ที่เคยทำมาก่อนหน้านี้   ประกอบกับการที่ได้ศึกษาข้อมูลด้วยตัวเองและได้ศึกษาจากคุณหมอ ส้มก็ได้รู้ว่า คุณหมอพุฒิพงษ์นั้นเป็นแพทย์คนไทยคนแรก ที่นำนวัตกรรมการร้อยไหมเข้ามาเมืองไทย   หลายๆคนอาจจะได้ยินชื่อว่า “ร้อยไหม” แล้วต้องเกิดคำถามขึ้นมาอย่างแน่นอน เพราะส้มเจอกับตัวเองเลย มีหลายคนที่เข้ามาถามว่า “มันดีจริงหรือเปล่าคะ”  “ร้อยไหมอันตรายนะ ทำไมถึงกล้าทำ นู่นนี่นั่น”   อย่างที่ส้มบอกไปนะคะว่า คุณหมอเป็นคนแรกที่นำการร้อยไหมเข้ามาในเมืองไทย และคุณหมอก็เป็นผู้ที่นำวิธีการร้อยไหมมาสอนให้กับแพทย์ในเมืองไทย จึงได้มีการร้อยไหมกันอย่างแพร่หลายตามคลีนิคต่างๆ ส้มเองบอกตามตรงว่า เชื่อใจในฝีมือของคุณหมอเอง ถึงได้กล้าทำ เพราะคุณหมอเป็นคนพูดตามความจริงด้วยเหตุผลและข้อมูลที่เป็นความจริง ผนวกกับข้อมูลที่ได้ศึกษามานั้น ก็ทำให้ส้มตัดสินใจได้ง่ายขึ้น ซึ่งการปรับรูปหน้าครั้งนี้ จะเรียกว่าเป็น Face Transformation ค่ะ ก็คือการปรับโครงสร้างของใบหน้านั่นเอง ซึ่งสามารถทำได้ด้วยการ ร้อยไหม…

  เมื่อวันที่ 27 กันยายน ส้มได้มีโอกาสไปทำสวย ที่  Sincere Beauty Clinic  โดยคุณหมอแจง คุณหมอคนสวยประจำคลินิค (สวยมาก นึกว่าดาราอ่ะค่ะตอนแรก)     บรรยากาศคลีนิค ดูทันสมัย แล้วก็ดูสบายๆ  ความรู้สึกเหมือนไปบ้านเพื่อนเลยค่ะ  คลีนิคอยู่ประมาณกลางซอยสุขุมวิท 53 ค่ะ     โดยส้มได้เข้าไปปรึกษาคุณหมอแจงเกี่ยวกับปัญหา เรื่องรอยตีนกา และริ้วรอยรอบดวงตาริ้วรอยรอบดวงตา ซึ่งเกิดจากอายุที่มากขึ้น ประกอบกับ เป็นคนชอบหัวเราะบ่อยๆ ริ้วรอยจากการแสดงอารมณ์จึงมาได้ง่าย   คุณหมอก็เลยแนะนำให้ฉีดสาร Botulinum Toxin A ซึ่งหลายๆคนมักจะเรียกว่า Botox นั่นเอง แต่จริงๆแล้ว Botox ที่เราเรียกกันนั้น  มันคือ ชื่อยี่ห้อของสาร Botulinum Toxin A ซึ่งเป็นแบรนด์จาก อเมริกาค่ะ   หน้าตาของ Botox ที่คุณหมอเลือกที่จะมาฉีดให้ จะเป็นดังในรูปนี้ค่ะ    …

  เมื่อวันเสาร์ที่ 25สิงหาคมที่ผ่านมาได้รับเชิญไป Workshop ที่ ศูนย์นวัตกรรมความงามกรุงเทพ (Bangkok Premier Clinic – A.I.C.) พระราม 4 กับนายแพทย์ พุฒิพงศ์ ภูมิสุวรรณ ซึ่งเป็นยแพทย์มือหนึ่งของวง​การร้อย​ไหมและแพทย์ต้นแบบ การร้อยไหมUltra V Lift คนแรกของเมืองไทย งานเริ่มตั้งแต่บ่าย 2 …เลิกตอนประมาณ 3 ทุ่มค่ะ คุณหมอเองก็ได้เริ่มจากการแนะนำตัวเองพร้อมทั้งแนะนำนวัตกรรม เทคโนโลยีใหม่จากเกาหลี รวมไปถึงเทรนด์ในปีนี้และปีหน้า ว่าจะมีเทคโนโลยีในการรักษาผิวหนาอย่างไรบ้าง ซึ่งคุณหมอได้พูดถึง 3 หัวข้อใหญ่ๆด้วยกันนั่นก็คือ 1. Minimal invasive surgeryกับ Trend ความงามแห่งอนาคต 2. นวัตกรรมใหม่ของปี 2012-2013       3. ไขข้อข้องใจกับการร้อยไหมยกกระชับ   มาเริ่มที่หัวข้อแรกกันเลยนะคะ 1. Minimal invasive surgeryกับ Trend ความงามแห่งอนาคต…

   เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ส้มได้มีโอกาสไปสักคิ้ว 3 มิติที่ร้าน Tingle ตรงตึก All Season Place ชั้น 3 มาค่ะ เลยเอามารีวิวให้เพื่อนๆได้ดูกัน (ปล. ตอนนี้เค้าย้ายไปที่ เกษรพลาซ่าแล้วนะคะ)   สำหรับการสักคิ้วนั้น ถ้าเป็นสมัยรุ่นคุณแม่ของเราๆนั้น มันจะดูน่ากลัว แถมยังไม่ค่อยเป็นธรรมชาติ ที่สำคัญเจ็บมาก (อันนี้ฟังแม่บอกมา) และก็พอเวลาผ่านไปหลายๆปี สีที่สักคิ้วนั้น ก็จะเพี้ยน เป็นสีเขียวๆ คิดว่าหลายๆคนน่าจะพอนึกภาพออกใช่มั้ยคะ   ส้มเองเป็นคนหนึ่งที่ขนคิ้วบาง ต้องเขียนคิ้วทุกวัน ซึ่งแต่ละวันคิ้วก็จะออกมาไม่เหมือนกัน เรียกว่า แล้วแต่อารมณ์ Art ในวันนั้นๆ วันไหนอารมณ์ดีก็คิ้วสวย วันไหนหงุดหงิดแต่เช้าก็จะไม่สวย ก็เลยอยากหาวิธีสักคิ้วที่น่าปลอดภัยและเป็นธรรมชาติ   ศึกษาข้อมูลมา 2-3 ปีกว่าจะตัดสินใจไปทำ อีกอย่างก็เห็นบล๊อกเกอร์หลายคนไปทำที่ร้าน Tingle มาแล้วสวย ก็เลยทำให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น สำหรับที่ร้านนี้นั้น จะเรียกว่าเป็น   ” การสักคิ้วขั้นสูงด้วยระบบ Micro pigementation “   ซึ่งจะต่างจากการสักทั่วไป ตรงที่เป็นเทคนิคชั้นสูง…