Review : รองพื้นและแป้งผสมรองพื้นรุ่นใหม่ เนียนและบางเบา จาก L’Oreal Lucent Magique
ช่วงนี้แบรนด์เครื่องสำอางค์มักจะเริ่มหาเทคโนโลยีใหม่ๆ
เพื่อพัฒนาสูตรสินค้าของตัวเองให้ทันสมัยขึ้นเรื่อยๆโดยเฉพาะรองพื้น
ที่เหมาะกับสาวเอเชียควรจะเป็นรองพื้นที่บางเบาไม่หนักหน้า
เนื่องจากสภาพอากาศร้อนอย่างในประเทศไทยนั้น
หากจะให้เราทารองพื้นหนาๆเพื่อปกปิดริ้วรอย จุดด่างดำ ก็คงจะไม่ไหว
ผิวก็คงจะหายใจไม่ออกแน่นอน
ซึ่งล่าสุด L’Oréalก็ได้คิดค้นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด กับ Liquid Light™
ที่จะช่วยทำให้ผิวกระจ่างใสและช่วยให้ผิวแลดูเนียนเรียบในทันที
กับCollection “LUCENT MAGIQUE”
ซึ่งทางแบรนด์L’orealก็ได้ส่งผลิตภัณฑ์ในคอลเลคชั่นนี้
มาให้ส้มได้ทดลองใช้2ชิ้นด้วยกัน
ซึ่งก็คือรองพื้น และ แป้งผสมรองพื้นค่ะ
เดี๋ยวเรามาดูรองพื้นกันก่อนเลยนะคะ
กับชื่อเต็มๆที่ว่า
L’OréalParis Lucent Magique Light-Infusing Foundation
คำเคลมจากทางแบรนด์
รองพื้นสูตรแรกที่สามารถมอบผิวเปล่งประกายสว่างใสจากภายใน
ผสานนวัตกรรมสุดล้ำ LiquidLight™ ที่มี BYRON LIQUID
ที่มีคุณสมบัติช่วยสะท้อนแสงบนผิวเผยผิวสวยกระจ่างใสไร้ที่ติ
ผิวเรียบเนียนเปล่งประกายดุจออร่า ผิวแลดูชุ่มชื้นยาวนานตลอดวัน
ไม่มันวาวระหว่างวันอณูเนื้อสัมผัสบางเบานุ่มเนียนอย่างเป็นธรรมชาติ
เกลี่ยง่ายไม่เหนียวเหนอะหนะปกปิดเรียบเนียน สมบูรณ์แบบตลอดวัน
ด้วยส่วนผสมของน้ำกว่า 40% เติมความชุ่มชื่นให้แก่ผิว
มอบการปกปิดเรียบเนียนสมบูรณ์แบบเผยผิวเปล่งประกายตลอดวัน
จากผลการทดสอบBeautyTest บนผิวเปลือกไข่
พบว่าผิวแลดูกระจ่างใสขึ้นกว่า 33% ผิวเปล่งประกาย
ออร่าตลอดวันและไม่มันวาว
มีให้เลือกถึง6เฉดสี ได้แก่ Rose Porcelain, Pure Porcelain, Pure Honey,Pure Bronze, Gold Shell and Gold Bronze
ลักษณะของผลิตภัณฑ์
ส้มได้เบอร์N5Pure Honey จะเป็นสีกลางๆ
ไม่ขาวไปและ ไม่คล้ำจนเกินไปค่ะ
เนื้อรองพื้นบางเบาคล้ายโลชั่น เกลี่ยได้ง่าย
มีส่วนผสมของสารกันแดด SPF 24 PA+++ อีกด้วยค่ะ
ความรู้สึกหลังทดลองใช้ผลิตภัณฑ์
เมื่อทาลงบนผิวหน้าแล้ว สังเกตได้ชัดจากรูปด้านล่างนี้
บริเวณที่ทารองพื้นLucentMagique Light Infusing Foundation
ผิวจะดูสว่างกระจ่างใสขึ้นผิวจะดู Glowมากขึ้น
เรียกได้ว่าแลดูเป็นผิวสุขภาพดีจริงๆ
และบริเวณที่เป็นจุดแดงๆพวกรอยแดงจากสิว
ก็สามารถปกปิดได้ค่อนข้างดีอาจจะไม่ได้ปกปิดได้ทั้งหมด แต่ก็ถือว่าโอเคเลยค่ะ
ใช้แล้วส่วนตัวชอบนะคะเพราะว่าเนื้อรองพื้นบางเบาจริงๆ
ทาทั้งวันตั้งแต่เช้าจรดเย็นประมาณ 10ชั่วโมง หน้ายังเนียนอยู่เลยค่ะ
แถมยังไม่เป็นคราบอีกด้วยประทับใจค่ะ ชอบจริงๆ
และนอกจากนี้ก็ยังมีแป้งผสมรองพื้นอีกด้วยค่ะ
ชื่อรุ่นว่าL’OrealParis Lucent Magique Light-Infusing Foundation
คำเคลมจากทางแบรนด์
แป้งผสมรองพื้นชนิดแรกที่มี3 เลเยอร์ในตลับเดียว ได้แก่
1.พิงค์ทัวมารีน ช่วยขับผิวให้แลดูเปล่งประกายออร่า
2.ไลท์เพิร์ล มอบผิวสวยกระจ่างใสไร้ที่ติ และ
3.วิท-ซี ไวท์เท็นนิ่ง คอมเพล็กซ์มอบผิวขาวใส เปล่งประกาย
ด้วยความพิเศษของแต่ละเลเยอร์ทำให้ช่วยเผยออร่าให้ทุกอณูผิวสัมผัส
เติมเต็มผิวสวยกระจ่างใสไร้ที่ติเปล่งประกายเจิดจรัสในพริบตา
พร้อมปกป้องผิวจากแสงแดดด้วยส่วนผสม SPF20 PA++
ด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำหน้าทำให้ Lucent Magique Skin Illuminating Tri-Powder Foundation
แตกต่างจากแป้งทั่วไปด้วยส่วนผสมของน้ำกว่า40%
ปราศจากส่วนผสมของน้ำมันมอบความชุ่มชื้นยาวนาน 24 ชั่วโมง
ผิวแลดูเปล่งประกายไม่มันวาวระหว่างวัน พร้อมด้วยแป้งอณูเล็กละเอียดถึง
10 เท่า ทำให้ได้เนื้อสัมผัสบางเบา มอบการปกปิดเรียบเนียนสมบูรณ์แบบ
นอกจากรองพื้นที่มีถึง6เฉดสีที่เข้ากับสาวเอเซียทุกโทนสีแล้ว
ก็มีให้เลือกถึง6เฉดสีเช่นกัน ได้แก่ Apricot Ivory, Nude Vanilla, GoldenCaramel, Vanilla Ivory, Golden Ivory และ Golden Beige
ลักษณะของผลิตภัณฑ์
เป็นแป้งผสมรองพื้นที่มี 3เฉดสีในตัว
โดยเมื่อเวลาที่ใช้พัฟฟ์แตะมาพร้อมกันทุกสีจะได้สีที่เนียนและดูกระจ่างใสขึ้น
เนื้อแป้งค่อนข้างบางเบาเนื้อเนียนสวย
เม็ดสีค่อนข้างละเอียดให้โทนสีออกเหลือง
ส้มได้โทนสี Golden Ivory มาค่ะ
ความรู้สึกหลังทดลองใช้ผลิตภัณฑ์
จากรูปด้านล่างนี้ส้มได้ทาแป้ง ทับรองพื้นที่ลงเอาไว้ก่อนหน้านี้
สีแป้งอาจจะดูขาวกว่าสีผิวจริงๆเล็กน้อย
แต่ว่าทาออกมาแล้วพอผ่านไปซัก 1-2 ชั่วโมง สีมันจะ drop ลงกว่านี้เล็กน้อย
ก็พอดีกับสีผิวส้มพอดีเลย พอทดลองใช้ 1 วันเต็มๆ
หน้ามันเล็กน้อยถือว่าคุมมันได้ประมาณ 90% เลยค่ะ
เนื้อแป้งปกปิดได้ค่อนข้างดี และไม่รู้สึกหนักหน้า
ถือว่าเป็นแป้งผสมรองพื้นที่บางเบาจริงๆค่ะ
ราคาและสถานที่ซื้อ
รองพื้นขนาด 30มล. ราคา 449 บาท
แป้งผสมรองพื้นขนาด 7.5กรัม ราคา 399 บาท
สามารถซื้อได้ตามซุปเปอร์มาร์เก็ต, ไฮเปอร์มาร์เก็ต,
วัตสัน และที่เคาน์เตอร์ของลอรีอัล ปารีสในห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไป
ขอขอบคุณ L’Oreal ประเทศไทยสำหรับผลิตภัณฑ์ดีดีมาให้ได้ทดลองใช้ด้วยนะคะ
สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
http://www.facebook.com/lorealparisthailand
แล้วพบกันใหม่ในรีวิวครั้งหน้าค่ะ
Sponsored By