Review : ผลหลังการทำทรีทเม้นท์ Skinboosters กับโครงการ The Skin Transformation Project with Restylane
ผ่านไป 3 เดือนแล้ว ส้มก็ได้เวลามารีวิวผลหลังจากที่ได้เข้าร่วมโครงการ
“The Skin Transformation Project with Restylane” แล้วนะคะ
ซึ่งการทำครั้งนี้ มันก็คือการทำ SkinBoosters นั่นเองค่ะ ซึ่งส้มเคยทำมาแล้ว 1 ครั้ง
ถ้าใครติดตาม Blog ส้มอยู่ อาจจะคุ้นชื่อ Air Shine/ Water Shine มากกว่า
ซึ่งจริงๆแล้วมันก็คือการทำให้ผิวหน้าฉ่ำน้ำเช่นกัน เพียงแต่เทคนิคจะแตกต่างกัน
และที่สำคัญ การทำ SkinBoosters ด้วยเทคนิคใหม่นี้ หน้าบวมน้อยกว่าเยอะเลย
ลองเข้าไปอ่านรีวิวการทำครั้งแรกของส้มได้ ที่นี่ ค่ะ
ส่วนใครยังไม่รู้จักการทำ Skin Booster ที่ส้มจะทำในครั้งนี้
มันเป็นอย่างไร มาอ่านข้อมูลกันก่อนค่ะ
SkinBoosters คืออะไร ?
คือนวัตกรรมใหม่ล่าสุดเพื่อเพิ่มความชุ่มชื่นและลดเลือนริ้วรอยต่างๆ ทั้งรอยเหี่ยวย่น
หรือ รอยแผลสิวให้กับผิวหน้า โดยผลิตภัณฑ์ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยาทั้งประเทศไทย
และสหรัฐอเมริกา รวมถึงผ่านการรับรองจากกลุ่มประเทศในเครือสหภาพยุโรป
ด้วยกระบวนการของนวัตกรรมเทคโนโลยีสมัยใหม่ Non Animal Stabilize
Hyaluronic Acid หรือ NASHA
ที่ทำให้ได้เจลไฮยาลูโรนิคแอซิดซึ่งสมบัติใกล้เคียงกับธรรมชาติมากที่สุดและมีความ
คงตัวจึงสามารถคงอยู่ในผิวให้ความชุ่มชื่นได้เป็นระยะเวลานาน
พร้อมคุณสมบัติเด่นตรงที่แพทย์จะฉีดสกินบูสเตอร์ลงบนผิวหนังโดยตรง
และโมเลกุลสกินบูสเตอร์จะถูกเก็บไว้ในผิวชั้นหนังแท้และปล่อยความชุ่มชื่นอย่างต่อเนื่อง
เปรียบเหมือนสร้างเขื่อนกักเก็บน้ำไว้ใต้ผิวชั้นหนังแท้ที่จะ
ช่วยให้ผิวมีความชุ่มชื่นตลอดเวลาจากภายใน
Skin ฺBooster ทำหน้าที่อะไรบ้าง?
สกินบูสเตอร์ (SkinBoosters) ผลิตจากสารไฮยาลูรอนิค แอซิด (Hyaluronic
acid หรือ HA) ที่ผ่านกรรมวิธีให้เกิดความคงตัว
เป็นส่วนประกอบหลักในการปรับปรุงคุณภาพของผิว
รวมถึงจะทำให้เกิดมีการกระตุ้นเซลล์ไฟโบรบลาสต์ (Fibrolast)
ซึ่งเป็นเซลล์ที่ผลิตคอลลาเจนและอิลาสตินโดยเมื่อเวลาผ่านไปจะเกิดการสูญเสียไปต
ามธรรมชาติ สกินบูสเตอร์จะกระตุ้นให้มีการสร้างเนื้อเยื่อคอลลาเจนใหม่ขึ้นมา
ส่งผลให้ริ้วรอย รอยแผลสิว รูขุมขนขนาดใหญ่ รวมถึงผิวที่แห้งกร้าน
เกิดการปรับคุณภาพผิวให้ดีขึ้นจากภายในหลังจากฉีดสกินบูสเตอร์ 2 – 3 วัน
ผิวจะแลดูเปล่งปลั่ง กระชับ เนียนใส ลดความหยาบกร้าน และการสูญเสียน้ำของผิว
ทำให้ดูอ่อนเยาว์มากยิ่งขึ้น ทำให้ผู้ที่มีผิวแห้งหรือต้องเผชิญกับแสงแดดเป็นประจำ
หรือผู้หญิงที่มีกำลังเผชิญกับปัญหาริ้วรอยบนใบหน้า รวมถึงริ้วรอยแผลสิว
มีคุณภาพผิวที่ดีและเปล่งปลั่งมากขึ้นจากภายใน
SkinBoosters ใช้กับบริเวณใดได้บ้าง?
การฉีดสกินบูสเตอร์นั้นใช้ฉีดเข้าบรเวณใต้ผิวหนัง
โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะทำการฉีดสกินบูสเตอร์ลงไปบริเวณผิวที่ต้องการรักษา
ซึ่งเป็นได้ทั้งบริเวณใบหน้า ลำคอ หลังมือ และรวมถึงบริเวณเนินทรวงอก
Skin Booster เหมาะกับใครบ้าง
– คนไข้ที่ต้องการเติมเต็มร่องน้ำตา ร่องแก้ม หลุมสิว รูขุมขนกว้าง
รอยย่นที่ลำคอ หลังมือ
– คนไข้ที่มีผิวแห้งกร้าน ขาดน้ำ หมองคล้ำ ไม่สดใส
SkinBoosters มีรูปแบบใดบ้าง
คือ ผลิตภัณฑ์ Restylane Vital light ซึ่งมีขนาด 1 มิลลิลิตร
โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะเป็นผู้ดูแลการฉีดและบอกถึงปริมาณที่ใช้ซึ่งขึ้นกับใบหน้า
และความต้องการของคนไข้แต่ละคน
ทำไมต้อง Restylane
แพทย์ผิวหนัง และศัลยกรรมทุกท่าน ให้ความไว้วางใจ ในผลิตภัณฑ์ Restylane
เพราะผลิตโดยกระบวนการ Minimal Stabilization คือ
กระบวนการที่ทำให้เกิดการเชื่อมโยงของสายโมเลกุล HA
หลายๆสายผูกไขว้เข้าด้วยกัน ซึ่งทำให้เปลี่ยนแปลงโครงสร้างทางโมเลกุล HA
น้อยกว่า 1 % เท่านั้น จึงไม่ทำให้เกิดอาการแพ้
และมีความบริสุทธิ์สูงมากปราศจากสิ่งเจือปนใดๆ
ดังนั้นผลข้างเคียงจึงมีน้อยมากและมีความปลอดภัยสูง มีความคงตัวใต้ผิวหนัง
ได้ผลที่ยาวนานกว่าสารเติมเต็มชนิดอื่น และเกิดการรบกวนเนื้อเยื่อน้อยที่สุด
รวมทั้งได้ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยาของประเทศไทย , CE Mark ,
FDA USA เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แพทย์ทุกท่านจึงวางใจในคุณภาพและความปลอดภัย
คุณสมบัติโดดเด่นของ Restylane
1. Restylane ไม่ได้ผลิตจากสัตว์ NASHA
( Non-Animal Stabilized HyaluronicAcid ) จึงไม่ทำให้เกิดอาการแพ้
2. Restylane
เป็นผลิตภัณฑ์เพียงหนึ่งเดียวที่ผ่านการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทางโมเลกุลน้อยที่สุด
( น้อยกว่า 1 % ) จนเหมือนสาร Hyaluronic Acid ที่อยู่ในร่างกายมนุษย์มากที่สุด (
Minimal Stabilization )
จึงทำให้สามารถอยู่ในร่างกายได้ยาวนานกว่าสารเติมเต็มชนิดอื่น
3. Restylane เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติในการยกผิวได้ดี ( Lifting Capacity )
เพราะในเนื้อเจลมีความยืดหยุ่นสูง ( Elasticity )
จึงใช้ปริมาณเจลเพียงเล็กน้อยก็สามารถแก้ปัญหาริ้วรอยได้
4. Restylane เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติในการอุ้มน้ำไว้รอบๆตัว เมื่อเวลาผ่านไป
ความสามารถในการดึงน้ำเข้ารอบตัวยังคงมีประสิทธิภาพคงเดิม ( Isovolemic
Degradation ) จึงเป็นคุณสมบัติโดดเด่นประการหนึ่งในการทำให้ Restylane
คงอยู่ใต้ผิวหนังได้นานกว่าผลิตภัณฑ์อื่นๆ
มีคุณสมบัติช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นและลดเลือนริ้วรอยต่างๆ ทั้งรอยเหี่ยวย่น หรือ
รอยแผลสิวให้กับผิวหน้าบริเวณดังต่อไปนี้
1. หน้าผาก – ช่วยลดริ้วรอยที่เป็นเส้น ๆ และทำให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้น
2. บริเวณรอบดวงตา — ลดรอยคล้ำบริเวณใต้ตาและริ้วรอยรอบดวงตา
3. บริเวณทั่วใบหน้า – ช่วยลดเลือนริ้วรอยเล็ก ๆ และทำให้ผิวดูเรียบเนียน
อ่อนเยาว์มากยิ่งขึ้น
4. รอยหลุมสิว –– ทำให้รอยหลุมสิวดูตื้นขึ้น เรียบเนียน
5. บริเวณรอบริมฝีปาก – ลดเลือนรอยเล็ก ๆ บริเวณริมฝีปาก
6. คอและบริเวณเนินอก – ลดเลือนริ้วรอย
และทำให้ผิวหนังมีความเรียบเนียนและกระชับมากขึ้น
7. มือ — ลดเลือนริ้วรอย และทำให้ผิวหนังมีความเรียบเนียน
มีความชุ่มชื้นและกระชับมากขึ้น
ซึ่งในการทำ SkinBoosters ในครั้งนี้ ส้มได้มาทำที่ Korean Touch By Ultra V Clinic
ที่ชั้น 4 Mercury Ville (ตรงสถานี BTS ชิดลม ฝั่งตรงเข้าม Central ชิดลม)
บรรยากาศร้านตกแต่งตามสไตล์เกาหลีมากๆ ดูสะอาด ปลอดโปร่ง
โดยคุณหมอที่จะทำ SkinBoosters ให้ส้มครั้งนี้คือ คุณหมอเอ๋ ค่ะ คุณหมอสวย ใจดีมาก มือเบาด้วย
และนี่ก็คือภายในห้องหัตถการที่เราจะมาทำ SkinBoosters กันค่ะ อุปกรณ์ครบครันจริงๆ
เอาล่ะ… ทีนี้ เรามาดูขั้นตอนการทำ Skin Booster กันดีกว่าค่ะ
ขั้นตอนการฉีด Skinboosters
1. เช็ดเครื่องสำอางค์และทำความสะอาดผิวหน้า เพื่อเป็นการเตรียมผิว
2. แปะยาชาทั่วหน้า และ wrap พลาสติกเอาไว้เพื่อให้ยาชาออกฤทธิดีขึ้น
จากนั้นทิ้งไว้ประมาณ 45 นาที
(จะบอกว่า ยาชาทีนี่เริ่ดที่สุดละ แค่ 15 นาทีก็ชาแล้วค่ะ
พอครบ 45 นาที ชาถึงลิ้นเลย ไม่เชื่อมาลองดู)
3. ดึง wrap ออก จากนั้นก็ใช้ไม้พายปาดยาชาและทำความสะอาดผิวหน้าอีกครั้ง
4. เช็ดแอลกอฮอลล์หลังทำความสะอาดผิวหน้าเสร็จ เพื่อเป็นการฆ่าเชื้อ
5. ฉีดยาชา ตามจุดต่างๆของใบหน้า เพื่อลดอาการเจ็บระหว่างทำ Skin Booster
(ขั้นตอนฉีดยาชานี่ เจ็บที่สุดละ ของการทำ Skin Booster)
6. ทาเบตาดีนให้ทั่ว เพื่อเป็นการฆ่าเชื้ออีกครั้ง
7. ฉีด Restylane skinbooster โดยใช้เทคนิคแบบเข็มคมเก็บรอยสิ ว
บริเวณข้างแก้ม และ fineline บริเวณร่องแก้ม
ฉีดอากาศเข้าไปตามจุดที่ฉีด skinbooster ตอนแรก เพื่อช่วยให้ยากระจายตัวได้เร็ว ขึ้น
ให้ผิวฟูเร็วขึ้นกว่าเดิม และเห็นผลชัดขึ้น เหมาะสำหรับผู้มีปัญหาหลุมสิว
(อาจจะดูรูปแล้วน่ากลัวนะคะ แต่มันไม่ค่อยเจ็บมาก มันอาจจะรู้สึกเจ็บบ้างบางจุด แต่โดยรวมคือ เจ็บแบบพอทนได้ค่ะ )
8. นวดตุ่มอากาศให้ลดลงโดยใช้นิ่วคลึงตามตุ่มๆ ที่ฉีด Skin Booster และนวดประคบเย็น
เพื่อช่วยลดก ารอักเสบ และลดบวม ประมาณ 20 นาที
9. ใส่หน้ากาก แบบเป็นการมาสก์หน้าด้วยแสงไฟ LED เพื่อลดอาการบวมประมาณ 15 นาที
ขั้นตอนนี้สบายมากค่ะ แทบจะหลับไปเลยทีเดียว ไม่ต้องกลัวว่าแสงจะจ้าเข้าตานะคะ
เพราะเค้าจะใส่แว่นกันแสงให้ก่อนที่จะเอามาสก์วางลงบนใบหน้าเราค่ะ
ความรู้สึกหลั งจากเข้าร่วม “The Skin Transformation Project with Restylane”
พอได้มีโอกาสได้ทำทรีทเม้นท์ SkinBoosters แล้วชอบมาก
เพราะสิ่งทีสังเกตได้คือ พอผ่านไปประมาณ 2-3 สัปดาห์ เป็นช่วงที่ผิวเริ่มอิ่มน้ำ
ผิวจะเป็นเงาๆ แล้วเวลาที่เราแต่งหน้า หรือ ทาครีม รู้สึกได้เลยว่ามันแตกต่างกว่าก่อนทำ
ผิวมันดูดซับครีมได้ดีขึ้น เวลาแต่งหน้า รองพื้นก็เกาะหน้าได้ดีขึ้น แล้วที่สำคัญเลยนะคะ
ระหว่างวันผิวก็จะไม่แห้งมากนัก มันยังมีความชุ่มชื้นใต้ผิวอยู่ นี่คือสิ่งที่สัมผัสได้จริงๆ
เดือนที่ 2 ก็ยังรู้สึกว่าผิวยังฉ่ำน้ำมีความชุ่มชื้นดีอยู่
แต่พอก่อนเข้าเดือนที่ 3 ได้ประมาณ 2 สัปดาห์
ส้มเริ่มรู้สึกว่า ผิวบริเวณโหนกแก้มเริ่มแห้ง
แต่ไม่แห้งเท่าตอนก่อนทำทรีทเม้นท์ตัวนี้ ส้มก็เลยคิดว่า สำหรับผิวส้มแล้ว
ควรจะมาทำอย่างต่อเนื่องทุกๆ 2-3 เดือน หรือบางทีถ้าทำทุกเดือนก็อาจจะเห็นผลที่ชัดเจนมากกว่า
ยังไงก็แล้วแต่นะคะ อยากจะให้ได้ทดลองด้วยตัวคุณเอง เพราะบางทีผลลัพท์ที่ออกมา
แต่ละคนย่อมแตกต่างเพราะสภาพผิวของแต่ละคนไม่เหมือนกันอยู่แล้ว
ราคาและคลีนิคที่ให้บริการ SkinBoosters
ราคา ครั้งละ 35,000 บาท
(หรืออาจจะมีการเปลี่ยนแปลงตามราคาแพคเกจ และ โปรโมชั่นของคลีนิค)
สถานที่ให้บริการ : Korean Touch By Ultra V
ที่ชั้น 4 Mercury Ville (ตรงข้ามเซ็นทรัลชิดลม)
เบอร์โทรศัพท์ ติดต่อจองคิวล่วงหน้า : 02 255 5700-2, 083-096-5493, 098-827-2027
Facebook: https://www.facebook.com/ultravclinic
Website: http://www.ultravclinic.com/
ส่วนรายละเอียดเกี่ยวกับ Restylane และคลีนิคที่มีฉีดrestylane
สามารถเข้าไปดูได้ตามนี้ link ด้านล่างนี้เลยค่ะ
http://restylane.asia/th/th/
สุดท้ายนี้ ก็ต้องขอบคุณทาง Restylane และ Korean Touch By Ultra V Clinic
ที่ให้ส้มได้เข้ารับการบริการครั้งนี้ด้วยค่ะ