Review : แป้งและรองพื้น L’Oréal Paris Lucent Magique เผยผิวให้มีออร่า
มารีวิวให้ได้ดูแล้วเชื่อว่าหลายคนที่ได้เห็นรูปที่ส้มโพสทาง
Facebook ไปก็คงตั้งหน้าตั้งตารอดูรีวิวนี้อยู่ เพราะจะได้แนวทางในการเลือก
รองพื้นและ แป้งให้เหมาะกับเฉดสีผิวแต่ละคนด้วย
ที่สำคัญส้มได้ลองแล้ว มันดีมากจริงๆค่ะ
เอาล่ะ….เรามาดูกันที่รองพื้นกันก่อนเลยละกันนะคะ
L’Oréal Paris Lucent Magique Light-Infusing Foundation
คำเคลมจากทางแบรนด์
รองพื้นสูตรแรกที่สามารถมอบผิวเปล่งประกายสว่างใสจากภายใน
ผสานนวัตกรรมสุดล้า Liquid Light™ ช่วยกระจายแสงบนผิว
เผยผิวสวยกระจ่างใสไร้ที่ติปกปิดเรียบเนียน สมบูรณ์แบบตลอดวัน
แต่เกลี่ยง่ายไม่เหนียวเหนอะหนะ ด้วยส่วนผสมของน้ากว่า 30%
ผลลัพธ์ : ผิวเรียบเนียนกระจ่างใส เปล่งประกายมีออร่า
ผิวแลดูชุ่มชื้นยาวนาน แต่ไม่มันวาวตลอดวัน
ลักษณะของผลิตภัณฑ์
รองพื้นรุ่นนี้ออกแบบขวดมาให้ดูหรูหรา เป็นขวดแก้วด้วย
เพราะฉะนั้นระวังนิดนึงนะจ้ะ ขืนทำหลุดมือมานี่ น้ำตาร่วงแน่ๆ
สำหรับรองพื้น Lucent Magique นี้ มีให้เลือกด้วยกันทั้งหมด 6 เฉดสีค่ะ
ซึ่งทั้ง 6 เฉดสีก็จะมีสีให้เลือกตามนี้เลยค่ะ
R2 Rose Porcelain สำหรับคนผิวขาวมากๆ
N2 Pure Porcelain สำหรับผิวขาวเหลือง หรือ ขาวอมชมพู
N5 Pure Honey สำหรับผิวขาวเหลืองปานกลาง
N7 Pure Bronze สำหรับผิวไม่ขาวมาก ค่อนไปทางUndertoneชมพู
G4 Gold Shell สำหรับผิวโทนเหลืองไม่ถึงกับคล้ำมาก
G7 Gold Blonze สำหรับผิวเข้ม ถึงคล้ำ
ลักษณะของเนื้อรองพื้น จะค่อนข้างเหลว ไม่ข้นค่ะ
เพราะมีส่วนผสมของน้ำถึง 40% ทำให้เกลี่ยได้ง่าย เนื้อเนียน ไม่หนืดผิว
ไม่แห้งไวจนเป็นคราบ คือ กำลังพอดีเลยค่ะ
ส้มเลยลองเกลี่ยดีดี ให้ดูอีกครั้งนึงค่ะ เนื้อรองพื้นเนียนมากๆแล้วรู้สึกบางเบา
ไม่เหนอะ หรือ หนักผิวเลย เป็นข้อดีของรองพื้นตัวนี้เลยทีเดียว
ถ้าสังเกตจากท้องแขนที่ส้มได้ทำการ
จะเห็นได้ว่า ผิวท้องแขนส้ม จะเหมาะกับสีเบอร์ N5 Pure Honey มากที่สุด
เพราะทาแล้วเนียนเข้ากับผิวเลย
แต่เนื่องจาก ผิวตรงท้องแขน กับ ผิวหน้าจริงๆของส้มแล้วสีไม่เท่ากัน
ผิวที่แขนจะคล้ำกว่าผิวหน้า
ดังนั้น สำหรับผิวหน้า ส้มจึงเลือกสีเบอร์ N2 Pure Porcelain ค่ะ
วิธีการใช้รองพื้น
ส่วนตัวแล้ว ส้มชอบใช้ฟองน้ำ กับ รองพื้นที่มีลักษณะเหลวเป็นลิควิด
แบบรองพื้นของ L’Oreal รุ่นนี้ มันทำให้รองพื้นกระจายตัวได้ดี
แล้วก็ทำให้รองพื้นเนียนและผ่องมากยิ่งขึ้นด้วยค่ะ
โดยส้มจะปั๊มรองพื้นออกมาประมาณ 1-2 ปั๊ม
แล้วใช้ฟองน้ำจุ่ม แล้วมากดเบาๆให้ทั่วใบหน้า
ข้อดีของรองพื้น L’Oreal Lucent Magique นี้ก็คือ
เนื้อรองพื้นบางเบากว่ารองพื้นตัวอื่นๆที่ให้ความปกปิดเท่าๆกัน
เนื้อรองพื้นเกลี่ยง่าย และ ปกปิดค่อนข้างดีเลยทีเดียว แถมไม่หนักหน้าด้วย
และความที่เค้ามีน้ำเป็นส่วนผสม มันทำให้ผิวหน้าชุ่มชื้น
ให้ลุค Dewy ดูเงาๆ แบบสาวเกาหลี ผิวดูมีออร่า
รวมๆแล้วเลยให้คะแนนมากกว่าตัวที่ปกปิดหนาๆค่ะ
คือรองพื้นรุ่นนี้เค้าเรียกว่า เป็น รองพื้น 4 มิติ (4D Liquid Foundation)
อาจจะงงใช่มั้ยคะว่า 4 มิติยังไง
ก็คือ 1. ปกปิด – เนื้อรองพื้น ปกปิดจุดด่างดำ รอยแดงสิว
และปรับสีผิวให้สม่ำเสมอได้ดีทีเดียว
2. เบาบาง – เนื้อรองพื้น บาง ไม่หนักหน้า
ทำให้รู้สึกผิวยังหายใจได้อยู่
3. กระจ่างใส – รองพื้นตัวนี้จะช่วยปรับผิวให้ดูสว่างขึ้น
ดูมีออร่ามากขึ้น ผิวก็ดูเนียนใสขึ้นค่ะ
4. ปกป้องผิวจากแสงแดด – เพราะมี SPF 20 PA+++ ในตัว
เอาล่ะ… หลังจากที่เราได้ลงรองพื้นเรียบร้อยแล้ว
ทีนี้เรามาดู แป้งกันดีกว่า ว่าจะเป็นอย่างไรกันบ้าง กับ
Lucent Magique Skin Illuminating Tri-Powder Foundation
คำเคลมของผลิตภัณฑ์
ด้วยเทคโนโลยีสุดล้าหน้าทำให้
Lucent Magique Skin Illuminating Tri-Powder Foundation
แตกต่างจากแป้งทั่วไปด้วย 3 โทนสีในตลับเดียว
และเทคโนโลยี LiquidLight™ เผยผิวสวยกระจ่างใสไร้ที่ติ
พร้อมด้วยแป้งอณูเล็กละเอียดถึง 10 เท่า ทำให้ได้เนื้อสัมผัสบางเบา
มอบการปกปิดเรียบเนียนสมบูรณ์แบบเผยผิวเปล่งประกายออร่าตลอดวัน
ลักษณะของผลิตภัณฑ์
แป้งรุ่นนี้ นับว่าเป็นเป็น 3D TWO WAY POWDER ก็คือว่า
เนื้อแป้งแบ่งออกเป็น 3 ส่วน (ตามรูปด้านล่างนี้)
ส่วนล่าง – Vit-C Whitening Complex มอบผิวขาวใส เปล่งประกาย
เป็นแป้งผสมรองพื้นใช้ส่วนนีเพื่อปกปิด คุมมัน ตามแป้งปกติ
ส่วนกลาง – Light Pearl
ใช้เป็นโลวไลท์ใช้ส่วนนี้ไล้หัวคิ้วถึงหางตา ให้ดูมีมิติขึ้นมา
ส่วนบน – Pink Tourmaline
เป็นไฮไลท์ใช้ส่วนนี้ตรงสันจมูกและคาง ให้ดูพุ่งออกมา
สำหรับแป้งรุ่นนี้ก็จะมีทั้งหมด 6 เฉดสีด้วยกัน ตามนี้ค่ะ
R3 – Apricot Ivory สำหรับผิวขาวมากๆ หรือ ขาวอมชมพู
N2 – Nude Vanilla สำหรับผิวขาวเหลือง ปานกลาง
G1 – Vanilla Ivory สำหรับผิวสีปานกลาง หรือ อมเหลือง
G3 – Golden Ivory สำหรับผิวเข้ม
G5 – Golden Beige สำหรับผิวเข้ม ค่อนไปทาง undertone ชมพู
G7 – Golden Caramel สำหรับผิวเข้ม
วิธีการใช้
สำหรับแป้งรุ่นนี้ อย่างที่เห็นก็คือ จะมี 3 ส่วน ทั้งแป้ง ไฮไลท์ และ โลว์ไลท์
เราใช้ฟองน้ำปาดทีเดียว รวมทั้ง 3อย่าง แล้วมาทาหน้าก็ได้
แต่ในรีวิวนี้ ส้มจะเริ่มจากการทาเฉพาะส่วนที่เป็นแป้งรองพื้นให้ได้ดูก่อนนะคะ
หลังจากที่เราลงรองพื้น และ รอซักพักให้รองพื้นเซตตัวแห้งแล้ว
ขั้นตอนที่ 1 : ใช้พัฟฟ์ป้ายในส่วนแป้งผสมรองพื้น มาทาให้ทั่วใบหน้า
เนื้อแป้งจะบางเบามากๆค่ะ ทาแล้วมันจะทำให้ผิวหน้าเราผ่องขึ้นเลย
มาดูแบบ Zoom Zoom ใกล้ๆ จะเห็นได้เลยค่ะว่า เนื้อแป้งเนียนมากกกกกกกก
เนียนขั้นเทพจริงๆ ปกปิด แล้วก็อำพรางรูขุมขนได้ทีเลย
แถมยังบางเบาด้วย ส้มชอบตรงนี้แหละ
ขั้นตอนที่ 2 : งอพัฟฟ์ครึ่งนึง จากนั้นป้ายเฉพาะส่วนที่เป็นโลวไลท์
แล้วใช้ส่วนนี้ไล้หัวคิ้วถึงหางตา ให้ดูมีมิติขึ้นมา 1 ระดับ
ขั้นตอนที่ 3 : เพิ่มมิติให้ใบหน้าให้ดูเด่นมากยิ่งขึ้น
ใช้ส่วนที่เป็นไฮไลท์ ไล้ตรงสันจมูกและคาง ให้ดูพุ่งออกมา
เพียงเท่านี้ก็เสร็จเรียบร้อยแล้วจ้า
เป็นรองพื้น และ แป้งผสมรองพื้นที่ครบสูตรจริงๆ
สามารถทำให้ผิวหน้าเนียน ผ่อง กระจ่างใส ปกปิด และบางเบา
แถมยังทำให้หน้าดูเด่นขึ้นง่ายๆด้วย
โดยเฉพาะแป้ง ใครที่ไม่เคยลงไฮไลท์เลย ต้องลองทำดูค่ะ
แล้วจะเห็นความแตกต่างของใบหน้าเราจริงๆ
ราคาและสถานที่จัดจำหน่าย
Lucent Magique Skin Illuminating Tri-Powder Foundation
(ขนาด 7.5 กรัม ราคา 399 บาท)
L’Oréal Paris Lucent Magique Light-Infusing Foundation
(ขนาด 30 มล.ราคา 449 บาท)
สามารถซื้อได้ตามซุปเปอร์มาร์เก็ต, ไฮเปอร์มาร์เก็ต,
วัตสัน และที่เคาน์เตอร์ของลอรีอัล ปารีสในห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไป
ขอขอบคุณ L’Oreal สำหรับผลิตภัณฑ์ดีดีมาให้ได้ทดลองใช้ด้วยนะคะ
สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
http://www.facebook.com/lorealparisthailand
แล้วพบกันใหม่ในรีวิวครั้งหน้าค่ะ
Sponsored By
