Review : URBAN DECAY NAKED SKIN Weightless Ultra Definition Liquid Makeup
⁞ เมือไม่นานมานี้ URBAN DECAY ก็ได้มาเปิดเคาน์เตอร์ในไทยที่ Sephora
ทั้งสยามเซ็นเตอร์ และ Central Embassy เป็นที่เรียบร้อย
เห็นเพื่อนๆพี่ๆน้องๆบล๊อกเกอร์หลายๆคนได้ไปร่วมงานเปิดตัว
จำได้เลยวันนั้นเห็นหลายคนที่ไปงานถ่ายรูปราคามาแล้วแบบ โอ้วแม่เจ้า
ราคาโดนใจมากๆ….พอมีโอกาสก็เลยรีบพุ่งตัวไปอย่างด่วนๆลองนู่นลองนี่
ก็ได้มาหลายอย่างเพราะว่าถ้าซื้อครบ 3500 จะได้ Gift Set
คือ งก ของแถมว่างั้นเหอะ ก็เลยสอยมาครบ 3,500 พอดี
และหนึ่งในนั้น ที่อยากจะนำเสนอมากๆ ก็คือ
URBAN DECAY NAKED SKIN Weightless Ultra Definition Liquid Makeup
ซึ่งจะมีหลากหลายเฉดสีนะคะ แต่ของส้ม ใช้เบอร์ 2 ค่ะ
ให้ BA เค้าเลือกให้เลย เพราะว่า วันนั้นคนเยอะจริงๆ
พอได้ลองเนื้อสัมผัสแล้วก็บอกให้พนักงานดูโทนสีผิวเรา
และ เลือกสีที่เหมาะกับผิวเราให้เลย จะได้ไม่เสียเวลา
คำเคลมจากทางแบรนด์
Whoever said ‘you can’t have the best of both worlds’ never tried
Naked Skin. Not only does our new light-as-air foundation give you
the buildable coverage you desire – it also looks and feels like you’re
wearing absolutely nothing.
Naked Skin uses light-diffusing spheres to ‘blur’ imperfections for
a luminous, demi-matte finish that feels invisible but looks
professionally retouched. Naked Skin is oil-free, paraben-free,
fragrance-free, and loaded with nourishing ingredients:
Matrixyl 3000-Anti-wrinkle and lifting peptides restore and
maintain skin’s youthful appearance while increasing elasticity.
Litchiderm (derived from lychee fruit) – Protects the skin from
dehydration, oxidative stress and accelerated aging, resulting in a
brighter, more radiant complexion.
Green Tea & Vitamin E – These anti-oxidants neutralize free-radicals
and promote collagen production for smooth and supple skin.
Sodium Hyaluronate – Holds and attracts water for optimal
hydration, circulation and nutrient absorption, making skin smooth,
soft and youthful.
(ข้อมูลจาก http://www.urbandecay.com/naked-skin-liquid-makeup-from-urban-decay/334.html)
ลักษณะของผลิตภัณฑ์
ขวดนึงก็จะอยู่ที่ 30ml ค่ะ ก็ขวดใหญ่เหมือนกัน
ด้านข้างกล่อง มีบอกส่วนผสม ถ่ายรูปมาเผื่อใครอยากจะอ่านเนอะ
และใต้กล่องจะมีบอกทั้ง วันที่ผลิต และ วันที่หมดอายุเรียบร้อยเลย
แต่ถ้าเปิดใช้งานแล้ว จะมีอายุการใช้งาน 6 เดือนค่ะ
สังเกตรูปภาพที่เป็นเหมือนฝาเปิด แล้วมีตัวเลขด้านในนะคะ
ส่วนด้านบนกล่อง ก็จะมีระบุเฉดสีด้วยค่ะ จะได้สังเกตง่ายๆ
ของส้ม BA เลือกสีเบอร์ 2.0 ให้ค่ะ
ขวดรองพื้นรุ่นนี้จะเป็นแบบขวดปั๊ม จะได้สะดวกต่อการใช้งานค่ะ
สังเกตเนื้อรองพื้น จะมีลักษณะเหลว เพราะเป็นสูตร liquid
ซึ่งข้อดีของสูตรน้ำแบบนี้ก็คือจะเกลี่ยง่าย ไม่จับตัวเป็นก้อน
เนื้อเค้าจะค่อนข้างบางเบาด้วยค่ะ ไม่เหนอะ
เวลาใช้รองพื้นที่เป็นสูตรเหลวน้ำๆแบบนี้นะคะ
ส้มแนะนำว่า ให้ใช้แปรงสำหรับลงรองพื้น จะช่วยทำให้เกลี่ยได้ง่ายมากยิ่งขึ้น
และมันจะเนียนกว่าใช้นิ้วมือเกลี่ย (ตอนทีคุยกับ BA นางก็บอกมาแบบนี้เหมือนกัน)
สังเกตว่า ผิวที่ลงรองพื้นแล้ว ผิวจะเบลอๆ เนียนๆ สีเบอร์ 2 จะขาวกว่าผิวส้มนิดนึง
แต่ซักพักมันจะค่อยๆดร๊อปลงนิดหน่อย แล้วก็จะเนียนไปกับผิวเราเลย
ทาเสร็จแล้ว จะออกแมทท์ๆหน่อย จะไม่เงา
เป็นรองพื้นที่ทาแล้วปุ๊บ จะแห้งและเนียนไปกับผิวเลยทันที
เหมือนเป็นการ photoshop ผิวยังไงยังงั้นเลยทีเดียว
มาสังเกตกันใกล้ๆแบบ Zoom Zoom
พวกจุดด่างดำ รอยกระมันจะดูจางลง แต่ไม่สามารถปกปิดได้เนียนสนิท 100%
แต่จะเน้นเป็นการเบลอผิว ให้ผิวแลดูเนียนเรียบ รูขุมขนเล็กลง
และช่วยปรับสีผิวให้ดูกระจ่างใสขึ้นมากกว่า
พอหลังจากที่ได้ลงรองพื้นตัวนี้ไปซักพัก ส้มลองเทสแค่ครึ่งหน้าดู
ลองเอาแผ่นฟิล์มซับความมัน มาซับบริเวณที่ได้ทำการลงรองพื้นตัวนี้ไป
ปรากฏว่า…ไม่มีความมันติดขึ้นมาเลย
คือถ้าปกติรองพื้นที่ใช้ มันก็จะต้องมีความมันติดมาบ้าง
แต่รุ่นนี้ไม่มีเลย เพราะทาแล้วแมทท์ และ แห้งไปกับผิวเลยค่ะ
ความรู้สึกหลังใช้
หลังจากใช้มาหลายสัปดาห์แล้ว ส้มชอบมากเลย
ข้อดี คุมมันได้ดี เนื้อบางเบา เกลี่ยง่าย ไม่รู้สึกหนักหน้า
และอีกอย่างนึงที่ทำให้ประหลาดใจคือ พอทาเสร็จแล้ว
รู้สึกเลยว่า “แป้งฝุ่น ไม่จำเป็นเลย” เพราะมันแมทท์เหมือนลงแป้งเรียบร้อย
แถมยังติดทนนานสีไม่ดร๊อป ไม่เทาระหว่างวัน
อีกทั้งยังเป็นสูตร oil-free, fragrance-free, and paraben-free
แต่จุดด้อยก็คือ ด้วยความที่เค้าเป็นเนื้อแมทท์และแห้งเร็ว
บางทีถ้าหากเราเกลี่ยช้าเกินไป หรือ ทาทับอีกรอบหลังจากที่มันแห้งแล้ว
มันอาจจะเป็นคราบได้ค่ะ และอีกอย่างก็คือ ไม่มีสารกันแดดผสมอยู่เลย
และสำหรับคนผิวแห้ง ก็อาจจะรู้สึกแห้งระหว่างวันได้
บางทีอาจจะเป็นร่องๆตามริ้วรอยได้ พอจะนึกออกใช่มั้ยคะคนผิวแห้งจ๋า
สรุปแล้ว ตัวนี้เหมาะที่จะทาเป็น รองพื้นประจำวัน
ที่ไม่ได้ออกไปเผชิญโลกอะไรมากมาย นั่งสวยๆทำงานที่ออฟฟิศไรเงี้ย
แต่ก็อย่าลืม ทากันแดดทุกครั้งด้วยนะจ้ะ
ส่วนใครผิวแห้งก็อาจจะต้องลง moisturizer ก่อนด้วย ไม่งั้น
ระหว่างวันผิวจะแห้งจนเกินไป แต่คนผิวมัน น่าจะรักตัวนี้ค่ะ
ราคาและสถานที่จัดจำหน่าย
ราคาขวดละ 1,600 บาท ซื้อที่ได้เคาน์เตอร์ UD ที่ Sephora
สาขา สยามเซ็นเตอร์ และ Central Embassy ค่ะ