Review : Urban Decay Naked2 Palette

June 19, 2014

 

เรียกได้ว่า ทำเอา Sephora และเวปไซต์ Urban Decay แทบแตก

 

หลังจากที่ได้มีการเปิดขาย Urban Decay Naked2 Palette (เว่อร์อีกแระ)

 

ถือว่าเป็นแบรนด์เดียวเลยก็ว่าได้ ที่ทำให้สาวๆทั่วโลก อยากจะได้พาเลตแต่งหน้านี้เอาไว้ในครอบครอง 

 

และเมื่อได้มีการเปิดตัวรุ่น 2 ออกมา  ก็ทำเอาสาวๆกระเสือกกระสนอยากได้มาครอบครอง (และแน่นอน ส้มก็เป็ฯ 1 ในนั้นค่ะ ^^)

 

ส้มฝากเพื่อนซื้อที่เมกา ก็ไม่มีของ เพื่อนไปสิงคโปร์ ก็ฝากซื้อช้อปที่นู่น ก็ยังไม่มีของ

 

(เวลาอยากได้ของถูกมักจะไม่ได้ทุกทีสิน่า)

 

สุดท้าย มาได้จากเวปพรีบ้านเราเนี่ยแหละค่ะ  search เจอพอดี ก็เลยซื้อมาในราคา2 พันกว่าบาท (แพงแต่ก็ยอมนะงานนี้)

 

พูดมาเยอะละ งั้นขอเปิดกล่องกันเลยนะคะ

 

คิดว่าหลายคนก็คงจะเคยเห็นกันแล้วนะคะ

 

จะบอกว่า ส้มไม่ได้ซื้อ Naked รุ่นแรกนะคะ เพราะว่าสียังไม่โดนใจเท่าไหร่

 

แต่พอเห็นรุ่นนี้ออกมาแล้ว เห็นรีวิวเอาไว้บ้างแล้ว เลยตัดสินใจซื้อมา เพราะกิเลสล้วนๆจริงๆค่ะ :p

 

 

สำหรับรุ่นนี้เค้าทำออกมาได้ค่อนข้างสวยค่ะ เป็นอลูมิเนียมสีเทา ปั๊มโลโก้นูนเป็นสีbrown chocolate สวยดีค่ะ

 

ซึ่งเค้าได้ inspiration มาจากกล่องดินสอโรงเรียนศิลปะ ที่ดูเรียบง่าย แต่มีความทันสมัยในตัว

 

(นึกถึงตอนเรียน Art ที่โรงเรียนที่ออสเตรเลีย ก็ได้ feel เหมือนกันเลยตอนเปิดกล่องออกมา)

 

มาพร้อมกับลิปกลอสสี Naked ขนาดเล็ก หัวเปิดจะดีไซน์ออกมาคล้ายๆกับ Urban Decay 15-Year Anniversary Palette

 

ที่จะออกเป็นสีม่วงเมทัลลิคพร้อมฉลุลาย  สวยน่ารักดีค่ะ พกพาได้สะดวกอีกด้วย

 

มาดูเนื้อสีกันเลยดีกว่า ว่าแตกต่างจากพาเลตเก่าอย่างไรบ้าง

 

 

ก็จะคล้ายกับรุ่นก่อน ที่จะมีสีอายแชโดว์ทั้งหมด 12 สี ด้วยกัน

 

สำหรับรุ่นใหม่นี้ จะมีสีใหม่เพิ่มมาอีก 5 สีค่ะ โดยเค้าได้เลือกสี neutral ที่ออกเป็น warm tone ออกไป

 

และแทนที่ด้วยสี Cool tone ค่ะ

 

แต่ถ้าใครมี Naked1 อยู้แล้วน่าจะเทียบได้เห็นชัดเจนยิ่งขึ้นว่า Naked 2 จะออกเป็นโทนสี Neutral/Cool มากกว่า

 

มาดู Swatch สีกันเลยนะคะ

 

ส้มจะแยกให้ดูทีละ 6 สีนะคะ จะได้ไม่ลายตา Smiley

 

ด้านล่างนี้คือ 6 สีแรกนับจากซ้ายมือสุด จะเห็นได้ว่า สี Foxy และ Tease จะเป็นสีเนื้อแมท

 

ส่วน 4 สีที่เหลือนั้นเป็นสีที่ผสมชิมเมอร์ค่ะ ทาออกมาแล้วจะวิ๊งๆนิดนึง ไม่เยอะมากกำลังสวยเลยค่ะ

 

 

ส่วนด้านล่างนี้ก็คือ 6 สีที่เหลือ ก็จะมีแค่สี Blackout ที่เป็นเนื้อแมท ที่ให้สีดำเข้มมากๆค่ะ

 

เอาไว้แต่ง smokey ได้สวยเลยค่ะ หรือจะเอาไว้ทำ v-shape ก็ได้เช่นกัน

 

 

เรื่องของเม็ดสี สำหรับยี่ห้อนี้ ไม่ต้องพูดถึงเลยค่ะ สีเค้าละเอียดมากๆ เกลี่ยง่าย และติดทนค่ะ

 

สำหรับพาเลตนี้ ส้มชอบตรงที่เค้าไล่สีจากโทนอ่อนสุดไปถึงเข้มสุด

 

และจาก warm tone ไปยัง cool tone ได้ดีมากค่ะ

 

ถามว่า…ซื้อมาแล้วแต่งลุคอะไรได้บ้าง

 

ก็ไม่ว่าจะเป็นการแต่งหน้าโทนสีธรรมชาติ หรือ neutral looksหรือว่าจะเป็นสโมกกี้อาย สีน้ำตาล สีดำ ก็เช่นได้กัน

 

หรือว่าลุคอะไรก็ตามที่อยู่ตรงกลางระหว่าง neutral and smokey ก็ได้หมดเลยค่ะ

 

 

 

นอกจากสีพาเลตที่สุดยอดแล้ว ก็ยังมีแปรงแถมมาให้ในพาเลตนี้ด้วยเช่นกันค่ะ

 

ซึ่งออกแบบมาเพื่อให้ใช้ได้สะดวกในแท่งเดียว

 

ตรงหัวท้ายจะมีหัวแปรงเป็นแปรงทาอายแชโดว์และแปรงสำหรับ blending  ค่ะ

 

 

สำหรับแปรงทาอายแชโดว์นั้น จะเป็นแปรงแบนๆ เหมาะมากๆเวลาเราต้องการแพคสีให้ติดกับเปลือกตา ทำให้สีติดได้ดีขึ้นค่ะ

 

ส่วนแปรง blending นั้น นอกจากจะเอาไว้เบลนด์แล้ว ยังสามารถเอาไว้ทำ v-shape คัดเบ้าได้ง่ายด้วยค่ะ

 

ส่วนตัวชอบมากเลยค่ะ ขนแปรงนุ่มดี สะดวกเวลาใช้งานมากๆ

 

 

 

นอกจากแปรงแล้ว ก็ยังมีลิปกลอส ที่ส้มมีรูปให้ดูด้านบนแล้วนะคะ

 

เป็น travel size ขนาดมินิ เป็นสี Naked จะออกสีนู้ดๆเมื่อทาออกมา ไม่ได้ออกสีแดงเหมือนที่เห็นจากด้านนอกค่ะ

 

 

สีสวยนะคะ แต่ส้มไม่ชอบอย่างเดียวคือ มันค่อนข้างเหนียว เหนอะๆนิดนึง

 

สบัดผมที ผมมาติดเรียงเส้นกันที่ปากเลยค่ะ โอ้ว..นึกภาพก็แหยะแล้ว

 

แต่ว่าตอนทาแล้วจะรู้สึกเย็นๆ ได้กลิ่นมิ้นท์เล็กน้อยค่ะ

 

 

 

สรุป overall ของพาเลตนี้นะคะ

 

1. เหมาะมากสำหรับคนที่พึ่งเริ่มหัดแต่งหน้า เพราะส้มเอง ตอนหัดแต่งหน้าครั้งแรก

 

ส้มเริ่มใช้สีกลางๆ สีธรรมชาติแบบนี้ก่อนเลย เพราะมันแต่งง่าย และจะทำให้เราเข้าใจการใช้สีได้ง่าย

 

2. เหมาะสำหรับเอาไว้พกพาเวลาเดินทาง เพราะมันครบเลยจริงๆค่ะ

 

3. สามารถเอาไว้แต่งเป็นลุคกลางวันและกลางคืนได้ เช่น แต่งหน้าโทนสีนู้ดๆน้ำตาลอ่อนๆตอนกลางวัน

 

  ถ้ามีงานปาร์ตี้กลางคืน ก็เอาสีดำมาคัดเบ้าเพิ่มทำเป็นสโมกกี้อายได้เลยค่ะ

 

 

 

ถ้าเรื่องราคา หากมีคนที่รู้จักจะซื้อให้ที่อเมริกาได้นั้น สนนราคาอยู่ที่ $50 เท่านั้นค่ะ

 

ถือว่าคุ้มแล้วสำหรับราคาเท่านี้ แต่ส้มก็ยอมจ่ายแพงนิดนึง เพราะอยากได้ของเลย

 

เห็นมั้ยคะบอกแล้วว่ากิเลสล้วนๆ 55

 

 

 

หวังว่าครั้งนี้คงจะเป็นการรีวิวที่ช่วยทำให้สาวๆที่กำลังตัดสินใจจะซื้อพาเลตนี้อยู่

 

ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นนะคะ และอาจจะเพิ่มกิเลสให้คนที่เฉยๆ ให้อยากได้ขึ้นมาก็ได้

 

(ล้อเล่นนะคะ)Smiley

 

 

 

ไว้ครั้งหน้าส้มจะทำวีดีโอออกมา เพื่อสอนแต่งหน้าด้วยการใช้แต่ Naked2 Palette อย่างเดียวค่ะ

 

แล้วค่อยมาติดตามกันอีกทีนะคะ ว่าแต่งออกมาแล้วจะได้ลุคแบบไหน

 

 

วันนี้ขอตัวก่อนนะคะ บ๊ายบายจ้า Smiley

 

 


 

 

 

 

Leave a comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Prev Post Next Post